TOYOTA Crown Estate Limited Matte Metal ปลั๊กอินไฮบริด รุ่นพิเศษ เปิดขายญี่ปุ่น 1.99 ล้านบาท

TOYOTA Crown Estate Limited Matte Metal ปลั๊กอินไฮบริด รุ่นพิเศษ เปิดขายญี่ปุ่น 1.99 ล้านบาท
Spread the love

Advertisement

Advertisement

Toyota Crown Estate Limited Matte Metal ความพิเศษสำหรับตลาดบ้านเกิด

โตโยต้าได้เปิดตัวรถครอสโอเวอร์รุ่นพิเศษ Toyota Crown Estate Limited Matte Metal ซึ่งจะวางจำหน่ายเฉพาะในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น การเปิดตัวนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ Crown Estate เพิ่งเริ่มจำหน่ายในญี่ปุ่นได้ไม่กี่เดือน ถึงแม้ว่ารุ่นนี้จะเปิดตัวในตลาดอเมริกาเหนือไปแล้วก่อนหน้านี้ในชื่อ Toyota Crown Signia ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2023

ราคาของ Toyota Crown Estate Limited Matte Metal ในญี่ปุ่นอยู่ที่ 8,900,000 เยน ซึ่งเทียบเท่ากับประมาณ 1.99 ล้านบาท (ตามอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน) บริษัทยังไม่ได้ประกาศว่ารุ่นพิเศษนี้จะมีการผลิตแบบจำกัดจำนวนหรือไม่

จุดเด่นของรุ่น Limited Matte Metal

  • สีตัวถังพิเศษ: ความแตกต่างที่สำคัญที่สุดคือสีตัวถังแบบ Matte Metal (เทาเข้มเมทัลลิกด้าน) ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของรุ่นนี้ นอกจากนี้ยังมีการเคลือบพิเศษที่ช่วยป้องกันรอยขีดข่วนและสิ่งสกปรกบนท้องถนน

  • การตกแต่งภายนอก:

    • ขอบกระจกด้านข้างเป็นสีดำ ซึ่งแตกต่างจากรุ่น “ปกติ” ที่เป็นสีโครเมียม
    • ล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้วสีดำด้าน
    • คาลิปเปอร์เบรกสีแดงสดใสที่มองเห็นได้ชัดเจนหลังล้อ
  • การตกแต่งภายใน:

    • เบาะและองค์ประกอบส่วนใหญ่ภายในห้องโดยสารหุ้มด้วยหนังสีดำ
    • เพิ่มความหรูหราด้วยการตกแต่งสีทองบนพวงมาลัย, แผงหน้าปัดด้านหน้า, ช่องระบายอากาศ, คอนโซลกลาง, และมือจับประตูภายใน
    • มีตัวอักษรระบุชื่อรุ่นพิเศษบนแผงหน้าปัดด้านหน้าฝั่งผู้โดยสาร

ขนาดตัวถัง

  • ความยาว: 4,930 มม.
  • ความกว้าง: 1,880 มม.
  • ความสูง: 1,620 มม.
  • ระยะฐานล้อ (Wheelbase): 2,850 มม.

เครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid – PHEV)

  • ขนาดเครื่องยนต์: 2.5 ลิตร (A25A-FXS) เบนซิน 4 สูบ แถวเรียง (Inline-4) DOHC 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผัน VVT-iE
  • กำลังสูงสุด (System Output): 225 kW (306 PS)
  • แรงบิดสูงสุด: ไม่ได้ระบุในเอกสาร
  • มอเตอร์ไฟฟ้า: Plug-in Hybrid System
  • อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง (WLTC Mode): 20.0 km/L
  • EV Mode (ไฟฟ้าล้วน): วิ่งได้สูงสุด 89 km
  • แบตเตอรี่: ไม่ได้ระบุขนาดชัดเจน แต่รองรับ Battery Charge Mode
    • สามารถใช้เครื่องยนต์เพื่อชาร์จแบตเตอรี่
    • รองรับโหมด EV/HV Mode Switch และ AUTO EV/HV Mode Switch

ช่วงล่าง

ระบบกันสะเทือน (Suspension)

  • ด้านหน้า: MacPherson Strut (แมคเฟอร์สันสตรัท)
  • ด้านหลัง: Multi-Link (มัลติลิงก์)
  • รองรับระบบ All-Wheel Drive (AWD) และ Dynamic Rear Steering (DRS) เพื่อเพิ่มเสถียรภาพในการเข้าโค้งและการขับขี่ที่มั่นคง

ระบบควบคุมแรงสั่นสะเทือน

  • ใช้ Adaptive Variable Suspension (AVS) ซึ่งสามารถปรับค่าความแข็ง-อ่อนได้ตามสภาพถนนและสไตล์การขับขี่
  • NAVI・AI-AVS ปรับการทำงานของช่วงล่างอัตโนมัติตามลักษณะของถนนและพฤติกรรมการขับขี่ เพื่อให้การขับขี่สบายขึ้น
  • ช่วงล่างถูกออกแบบมาเพื่อลดแรงสั่นสะเทือน ทำให้ขับขี่ได้ราบรื่นและสะดวกสบาย แม้ในระยะทางไกล

เทคโนโลยีเสริมเสถียรภาพ

  • Vehicle Dynamics Integrated Management (VDIM) ระบบจัดการการทรงตัวอัจฉริยะที่ช่วยควบคุมเสถียรภาพของรถ
  • ระบบลดประจุไฟฟ้าสถิตรอบล้อ เพื่อลดแรงต้านและเพิ่มการทรงตัวของรถ

แอโรไดนามิกส์ (Aerodynamics)

  • ตัวถังออกแบบให้มี Airflow Control ช่วยลดแรงต้านลมและเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่
  • ใช้ Aero Stabilizing Underbody Step เพื่อเสริมการทรงตัวของรถเมื่อต้องขับด้วยความเร็วสูง

การออกแบบภายนอก

  • ผสมผสานระหว่าง Wagon และ SUV ให้ความรู้สึกทรงพลังแต่ยังคงความโฉบเฉี่ยว
  • ตัวถังที่กว้างและต่ำ ช่วยเพิ่มความมั่นคงขณะขับขี่
  • กระจังหน้าดีไซน์กว้าง เชื่อมต่อกับไฟหน้าแบบ LED ให้ความล้ำสมัย
  • เส้นสายตัวถังคมชัด เน้นความสปอร์ตและพรีเมียม
  • ไฟหน้า Bi-Beam LED พร้อมระบบ Auto Leveling
  • ไฟ LED Daytime Running Light (DRL) ดีไซน์เรียวคม
  • ไฟท้ายแบบ LED ที่มีแถบไฟพาดยาวเต็มความกว้างของรถ สร้างความโดดเด่นเมื่อขับกลางคืน
  • หลังคาพาโนรามิคซันรูฟ (Panoramic Roof) พร้อมม่านไฟฟ้า (เป็นออปชั่นเสริม)
  • กระจกแบบ Acoustic Glass ลดเสียงรบกวนจากภายนอก
  • กระจกมองข้างระบบไฟฟ้า พร้อมระบบไล่ฝ้า
  • ล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้ว พร้อมดีไซน์ Aero Wheel Cover มีให้เลือกทั้ง สีดำด้าน (Matte Black) และ สีเมทัลลิก (Dark Metallic Gray)
  • ขนาดยาง 235/45R21 ให้ความสมดุลระหว่างการยึดเกาะถนนและความนุ่มนวล

การออกแบบภายในห้องโดยสาร

  • คอนเซ็ปต์ดีไซน์: หรูหรา กว้างขวาง และใช้งานได้สะดวก
  • วัสดุภายใน: ใช้ วัสดุพรีเมียม เช่น หนังแท้คุณภาพสูง และวัสดุ Soft-touch ในหลายจุด
  • ดีไซน์แดชบอร์ด: มีความเรียบหรู พร้อมหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่
  • เบาะนั่ง:
    • เบาะหนังแท้ ปรับไฟฟ้า พร้อมระบบระบายอากาศและทำความร้อน
    • รองรับ Memory Seat สำหรับบันทึกตำแหน่งการนั่งของผู้ขับ
    • เบาะหลังมีที่วางแขนตรงกลาง พร้อมช่องเก็บของ
  • พื้นที่ห้องโดยสาร:
    • เน้นความกว้างขวาง รองรับการเดินทางไกลอย่างสบาย
    • มี Ambient Lighting ปรับสีได้ เพิ่มบรรยากาศหรูหรา

ระบบความบันเทิง (Entertainment)

  • หน้าจอหลัก:
    • 12.3 นิ้ว Display Audio Plus รองรับ Apple CarPlay & Android Auto
    • ระบบนำทาง (Navigation) เชื่อมต่อออนไลน์ได้
  • ลำโพงระดับพรีเมียม:
    • Toyota Premium Sound System (10 ลำโพง + 8ch Amplifier) ให้คุณภาพเสียงระดับ Hi-Res
  • ระบบเชื่อมต่อ:
    • รองรับ Wi-Fi Hotspot, Bluetooth และ USB Type-C
    • ระบบสั่งงานด้วยเสียง รองรับภาษาญี่ปุ่นและอังกฤษ
  • หน้าจอผู้โดยสารด้านหลัง (ออปชั่นเสริม)
    • สามารถเล่นวิดีโอหรือสตรีมมิ่งผ่าน HDMI หรือ USB

ความสะดวกสบาย (Comfort & Convenience)

ระบบปรับอากาศ

  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกโซนซ้าย-ขวา (Dual-Zone Climate Control)
  • S-FLOW Control ปรับอุณหภูมิอัตโนมัติตามจำนวนผู้โดยสาร
  • Nanoe X Technology ช่วยกรองอากาศ ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์

ฟังก์ชันพิเศษ

  • พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน: ควบคุมเครื่องเสียง, Cruise Control และระบบช่วยขับขี่
  • Head-Up Display (HUD) ขนาด 12 นิ้ว แสดงข้อมูลสำคัญบนกระจกหน้า
  • ระบบกุญแจ Smart Entry & Push Start
  • ที่ชาร์จไร้สาย (Wireless Charger) รองรับสมาร์ทโฟนหลากหลายรุ่น
  • ระบบกระจกไฟฟ้าแบบ One-Touch พร้อม Anti-Pinch
  • ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ รองรับการจอดอัตโนมัติทั้งแบบขนานและเข้าซอง
  • ฝาท้ายไฟฟ้าแบบ Kick Sensor เปิด-ปิดอัตโนมัติเมื่อเตะใต้กันชน

ความปลอดภัย และ เทคโนโลยีช่วยการขับขี่ของ Crown Estate PHEV

  • Pre-Collision System (PCS): เตือนและช่วยเบรกอัตโนมัติ
  • Dynamic Radar Cruise Control (DRCC): ควบคุมความเร็วตามรถคันหน้า
  • Lane Departure Alert (LDA): เตือนเมื่อออกนอกเลน
  • Lane Tracing Assist (LTA): ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน
  • Blind Spot Monitor (BSM): เตือนมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน
  • Rear Cross Traffic Alert (RCTA): เตือนรถที่เคลื่อนที่จากด้านข้างขณะถอยหลัง
  • Advanced Parking Support: ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ
  • Adaptive High Beam (AHB): ปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ
  • Hill Start Assist (HSA): ป้องกันรถไหลถอยหลังขณะออกตัว
  • Vehicle Stability Control (VSC): ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว
  • Airbags: ถุงลม 7 จุด รวมถึงถุงลมหัวเข่า
  • High Rigidity Body: ตัวถังแข็งแรงพร้อมโซนดูดซับแรงกระแทก
เทคโนโลยีช่วยการขับขี่ของ Crown Estate PHEV
  • Toyota Safety Sense (TSS) ระบบช่วยป้องกันการชน
  • Pre-Collision System (PCS) ระบบเตือนและช่วยเบรกก่อนการชน
  • Dynamic Radar Cruise Control (DRCC) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน
  • Lane Departure Alert (LDA) ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน
  • Lane Tracing Assist (LTA) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน
  • Blind Spot Monitor (BSM) ระบบเตือนมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน
  • Rear Cross Traffic Alert (RCTA) ระบบเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง
  • Adaptive High Beam (AHB) ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ
  • Road Sign Assist (RSA) ระบบอ่านป้ายจราจรและแสดงผลบนหน้าจอ
  • Parking Support Brake (PKSB) ระบบช่วยเบรกป้องกันการชนขณะจอด
  • Airbags ถุงลม 7 จุด รวมถึงถุงลมหัวเข่า
  • Vehicle Stability Control (VSC) ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว
  • Hill Start Assist (HSA) ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน
  • High Rigidity Body โครงสร้างตัวถังแข็งแกร่งพร้อมโซนดูดซับแรงกระแทก

เทคโนโลยีช่วยการขับขี่ (Driving Assist Technologies)

  • Proactive Driving Assist (PDA) ระบบช่วยลดความเร็วอัตโนมัติเมื่อตรวจจับสิ่งกีดขวาง
  • Advanced Park Assist ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ
  • Head-Up Display (HUD) แสดงข้อมูลสำคัญบนกระจกหน้า
  • Multi-Terrain Monitor (MTM) กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา
  • Drive Mode Select ปรับโหมดการขับขี่ให้เหมาะสมกับสภาพถนน
  • EV/HV Mode Switch ปรับการขับขี่ระหว่างโหมดไฟฟ้าล้วนและไฮบริด
  • NAVI・AI-AVS ระบบควบคุมช่วงล่างอัตโนมัติตามสภาพถนน
  • Kick Sensor Power Back Door ฝาท้ายไฟฟ้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ
  • Smart Entry & Push Start ระบบกุญแจอัจฉริยะ

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้