Advertisement

Advertisement

Volkswagen ID Buzz ทดสอบระบบขับขี่อัตโนมัติ L4

Volkswagen ID Buzz ทดสอบระบบขับขี่อัตโนมัติ L4

Advertisement

Advertisement

Volkswagen ID Buzz Minivans แม้ว่าจะมีความล่าช้าในการเปิดตัว อาจต้องรอจนถึงปี 2023 พร้อมการออกแบบใหม่ทั้งหมด

Volkswagen ID Buzz Minivans รถยนต์ไฟฟ้าใหม่ มาพร้อมระบบขับขี่อัตโนมัติระดับ L4 ซึ่งพัฒนาโดย Argo AI สตาร์ทอัพที่ทาง VW มีหุ้นส่วนในธุรกิจ

Volkswagen ID Buzz EV ใหม่พัฒนาภายใต้แพลตฟอร์ม VW MEB ที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยี โดยเฉพาะ Argo AI ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์ความแม่นยำสูงรอบคัน

การทดสอบเซ็นเซอร์ดังกล่าวในมิวนิก แสดงให้เห็นชุดโปรแกรมขับขี่อัตโนมัติระดับ L4 ของ Volkswagen ID Buzz พร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่หลีกเลี่ยง lidar สามารถจับวัตถุในระยะ 400 เมตร สามารถรับรู้และสะท้อนในที่แสงต่ำได้ดี นอกจากนี้ยังมีระบบเรดาร์ และ กล้องถ่ายรูปช่วย

และมีความเป็นไปได้ที่ Volkswagen ID Buzz Minivans อาจมาพร้อมระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติเต็มรูปแบบในอนาคต

Autopilot มี 5 ระดับ ได้แก่

  • ระดับ 1 จะมีระบบอัตโนมัติ ช่วยเหลือผู้ขับขี่ เช่น การบังคับเลี้ยวหรือการเร่งและควบคุมความเร็วคงที่ รวมทั้งระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบปรับความเร็วอัตโนมัติ ซึ่งสามารถควบคุมยานพาหนะไว้ในระยะที่ปลอดภัยต่ออุบัตเหตุ ซึ่งคุณสมบัติ Level 1 ยังต้องการวิจารณญาณของมนุษย์คนขับ ตรวจสอบการใช้ฟังก์ชั่นช่วยขับขี่ร่วมด้วย
  • ระดับ 2 จะมีระบบ ADAS หรือ Advanced Driver Assistance Systems ซึ่งเป็นระบบบังคับเลี้ยวอัตโนมัติคู่กับระบบควมคุมอัตราเร่งและปรับความเร็วให้ทำงานประสานกันผ่านกลไกการควบคุมที่ซับซ้อน… ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ทุกค่ายล้วนใส่เงินไปกับการวิจัยระบบ ADAS ต่อเนื่องมานาน
  • ระดับ 3 จะมีความสามารถในการตรวจจับสภาพแวดล้อม และสามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดเช่น การเร่งแซงรถที่ช้า แต่ระบบก็ยังต้องการความช่วยเหลือจากมนุษย์ แม้มนุษย์ไม่ต้องเหยียบคันเร่งถือพวงมาลัย… แต่ผู้ขับขี่จะต้องตื่นตัวและพร้อมที่จะเข้าควบคุมทันทีหากระบบผิดพลาด ซึ่งส่วนใหญ่ระบบจะออกแบบให้ตรวจสอบเงื่อนไขการทำงานอัตโนมัติตลอดเวลา และหาก Condition หรือเงื่อนไขการทำงานในระบบผิดพลาด… รถจะมีฟังก์ชั่นขอความช่วยเหลือจากมนุษย์ติดมาด้วย
  • ระดับ 4 ไม่ต้องมีมนุษย์คอยช่วยเหลือในยามเข้าตาจนเหมือน Level 3 อีกเลย แม้จะมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นทั้งในระบบและสภาพแวดล้อมภายนอก หรือแม้แต่เกิดขัดข้องขึ้น พาหนะ Level 4 ก็จะจัดการความผิดปกติและบกพร่องทั้งหลายได้เอง โดยพึ่งพาและปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ในฐานะผู้โดยสาร มากกว่าจะพึ่งพามนุษย์ในฐานะผู้ควบคุมปกป้องความผิดพลาด พาหนะ Level 4 สามารถทำงานในโหมดขับขี่ด้วยตนเอง หรือ Self-Driving Mode ได้อย่างสมบูรณ์
  • ระดับ 5 ไม่ต้องการความช่วยเหลือใดๆ จากมนุษย์อีก เพราะระบบจะทำงาน Dynamic Driving Task เต็มประสิทธิภาพ เทียบเท่าระดับเดียวกับ หรือ ดีกว่ามนุษย์ที่มีทักษะการขับรถยอดเยี่ยมที่สุด… พาหนะ Level 5 จึงไม่มีแม้แต่พวงมาลัย แป้นเหยียบคันเร่งและแป้นเบรก ทำให้พาหนะ Level 5 เป็น Fully Autonomous Cars ซึ่งเป็นเป้าหมายความสำเร็จของการพัฒนายานพาหนะบนพื้นผิวยุคต่อไป…

Advertisement

Advertisement

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้