เปิดตัว ZEEKR 9X SUV ปลั๊กอินไฮบริดพรีเมียม 6 ที่นั่ง วิ่งไฟฟ้า 380 กม. บนแบตฯ 70kWh

เปิดตัว ZEEKR 9X SUV ปลั๊กอินไฮบริดพรีเมียม 6 ที่นั่ง วิ่งไฟฟ้า 380 กม. บนแบตฯ 70kWh
Spread the love
Advertisement Advertisement

Advertisement

 

 

ZEEKR 9X เป็นรถ SUV ครอสโอเวอร์หรูหราขนาดใหญ่ที่น่าประทับใจ และเป็นรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) รุ่นแรกของ ZEEKR ในขณะที่ข้อมูลจำเพาะอย่างเป็นทางการบางส่วนยังคงอยู่ระหว่างการเปิดเผยอย่างเต็มที่เมื่อรถเข้าสู่ตลาด

เทคโนโลยีสำคัญ

  • แพลตฟอร์ม SEA-S 900V: แพลตฟอร์มไฮบริดแรงดันสูง 900 โวลต์แห่งแรกของโลก รองรับกำลังขับมหาศาลและการชาร์จที่รวดเร็ว
  • ระบบขับเคลื่อน PHEV ทรงพลัง: รวมเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเทอร์โบประสิทธิภาพสูงกับมอเตอร์ไฟฟ้า Tri-silicon carbide ให้กำลังรวมสูงสุดถึง 1,030 กิโลวัตต์ (1,381 แรงม้า) และอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3 วินาที
  • แบตเตอรี่ CATL “Freevoy” และการชาร์จ 6C: แบตเตอรี่ขนาด 70 kWh ให้ระยะทางไฟฟ้าล้วนกว่า 380 กม. และรองรับการชาร์จเร็ว 20-80% ภายใน 9 นาที
  • ระบบขับขี่อัตโนมัติ G-Pilot H9 (L3): มาพร้อมชิป NVIDIA Drive Thor คู่ และเซ็นเซอร์รอบคัน (LiDAR 5 ตัว, กล้อง 13 ตัว) รองรับการขับขี่อัตโนมัติระดับ 3 (L3) เช่น Navigate On Autopilot (NOA)
  • ช่วงล่างอัจฉริยะ: ประกอบด้วยระบบกันสะเทือนถุงลมสองห้อง, ระบบควบคุมการหน่วง CDC และระบบกันโคลงแอคทีฟ 48V เพื่อการขับขี่ที่นุ่มนวลและมั่นคง
  • ห้องโดยสารล้ำยุค: มาพร้อมจอ OLED ขนาดใหญ่, AR HUD และที่นั่ง First Class Airline พร้อมฟังก์ชันนวดและระบายอากาศ

ข้อมูลจำเพาะเต็มรูปแบบของ ZEEKR 9X

ประเภทรถ

  • รถ SUV ครอสโอเวอร์หรูหราขนาดใหญ่
  • รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV)
  • แบบ 3 แถว 6 ที่นั่ง หรือ 4 ที่นั่ง

แพลตฟอร์ม:

  • แพลตฟอร์มไฮบริด SEA-S (แพลตฟอร์มไฮบริดแรงดันสูง 900 โวลต์แบบเต็มสแตกแห่งแรกของโลก)
  • พัฒนาบนสถาปัตยกรรมรถยนต์ไฟฟ้าล้วน

ขนาดตัวถัง

  • ความยาว: 5,239 มม.
  • ความกว้าง: 2,029 มม.
  • ความสูง: 1,819 มม.
  • ระยะฐานล้อ: 3,169 มม.
  • ระยะห่างจากพื้น: สูงสุด 288 มม. (พร้อมระบบกันสะเทือนแบบถุงลมที่ปรับได้)
  • ความกว้างช่องเปิดประตูหลัง: มากกว่า 1,200 มม.
  • มุมเปิดประตูหลัง: มากกว่า 80 องศา
  • ความแข็งแกร่งในการบิดตัวของตัวถัง: 41,600 นิวตันเมตร/องศา
  • วัสดุตัวถัง: เหล็กกล้าและอะลูมิเนียมความแข็งแรงสูง 91% (โดยมี 10 โครงสร้างที่มีความแข็งแรงแรงดึง 2,000 MPa)

ระบบขับเคลื่อน

  • เครื่องยนต์: เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ 4 สูบเรียง
    • กำลังสูงสุดของเครื่องยนต์: 205 กิโลวัตต์ (275 แรงม้า / 279 PS)
    • ประสิทธิภาพเชิงความร้อนของเครื่องยนต์: มากกว่า 46%
  • มอเตอร์ไฟฟ้า: มอเตอร์ไฟฟ้า Tri-silicon carbide (ขับเคลื่อนสี่ล้อ)
    • กำลังสูงสุดของมอเตอร์ไฟฟ้าหน้า: 290 กิโลวัตต์ (388 แรงม้า / 395 PS)
    • กำลังสูงสุดของมอเตอร์ไฟฟ้าหลัง: 370 กิโลวัตต์ (496 แรงม้า / 503 PS)
  • กำลังรวมของระบบ
    • รายงานที่ 660 กิโลวัตต์ (890 แรงม้า / 900 PS)
    • รุ่นท็อป: 1,030 กิโลวัตต์ (1,381 แรงม้า / 1,400 PS)
  • ระบบส่งกำลัง: DHT (Dedicated Hybrid Transmission) – คาดว่าจะเป็นเกียร์อัตโนมัติหลายสปีดทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า
  • ประเภทเชื้อเพลิง: เบนซิน + ไฟฟ้า
  • แบตเตอรี่ ternary NMC “Xiaoyao” / “Freevoy” จาก CATL ขนาด 70kWh
  • ระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้า (CLTC): มากกว่า 380 กม. (236 ไมล์) – อ้างว่าเป็นระยะทาง EV ที่ยาวนานที่สุดสำหรับ SUV ไฮบริด
  • ระยะทางรวม (น้ำมันเต็มถัง + ชาร์จเต็ม): มากกว่า 1,000 กม.
  • ระบบชาร์จ สถาปัตยกรรมไฟฟ้า 900 โวลต์
  • การชาร์จเร็ว: รองรับการชาร์จ 6C (6 เท่าของความจุแบตเตอรี่ในหน่วยกิโลวัตต์)
    • เวลาชาร์จ (20-80%): ประมาณ 9 นาที
    • เวลาชาร์จ (10-80%): ประมาณ 10.3 นาที
  • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.
    • ทำได้เร็วสุด 3 วินาที
    • รุ่นท็อป: 3.1 วินาที
  • ความเร็วสูงสุด: 240 กม./ชม. (149 ไมล์ต่อชั่วโมง)

แชสซีและช่วงล่าง

  • ระบบกันสะเทือน: ระบบกันสะเทือนแบบถุงลมสองห้อง
  • การหน่วง: การหน่วงด้วยแม่เหล็กไฟฟ้าแบบ Continuous Damping Control (CDC) แบบวาล์วคู่
  • เหล็กกันโคลงแอคทีฟ: ระบบป้องกันการโคลงตัวแบบแอคทีฟด้วยไฟฟ้า 48V (อ้างว่าเป็นครั้งแรกสำหรับ SUV จีน)
  • ล้อ: ล้ออัลลอยฟอร์จขัดเงาขนาด 22 นิ้ว (ขัดด้วยมือ 30 ชั่วโมง)
  • เบรก: ดิสก์ระบายอากาศ (หน้า), ดิสก์ (หลัง)
  • พวงมาลัย: พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า

ภายนอก

  • ไฟส่องสว่าง ไฟ LED ที่ประณีต, “42,242 เหลี่ยมเพชร” ในไฟท้าย, ไฟ LED DRLs
  • กระจังหน้า กระจังหน้าโครเมียมขนาดใหญ่แบบบูรณาการ (กว้าง 1,245 มม.)
  • ฝากระโปรงแบบ Clamshell: ฝากระโปรงแบบ Clamshell ที่ใหญ่ที่สุดในโลก (พื้นที่ 2.15 ตร.ม.)
  • มือจับประตู: มือจับประตูแบบธรรมดา
  • สปอยเลอร์: สปอยเลอร์หลัง
  • อื่นๆ: เสาอากาศในตัว, คิ้วโครเมียม, หกสีภายนอก (Enamel Blue, Frost Silver, Ink White, Obsidian Black, Misty Grey, Sky Grey)

ภายใน

  • ที่นั่ง
    • แบบ 6 ที่นั่ง (2+2+2) หรือ 4 ที่นั่ง
    • “ที่นั่งแบบ First Class Airline” (ที่นั่ง First-class Sofaro พร้อมหนัง Nappa นุ่ม)
    • ปรับไฟฟ้า, ฟังก์ชันนวด, ระบายอากาศ, ทำความร้อน, “โหมดไร้แรงโน้มถ่วง”
    • ลำโพงในพนักพิงศีรษะเบาะหน้า
  • จอแสดงผล
    • หน้าจอ OLED CSD (Central Smart Display) ขนาด 15.05 นิ้ว
    • หน้าจอ OLED บนเพดานขนาด 17 นิ้ว ความละเอียด 3K
    • จอแสดงผลบนกระจกหน้าแบบ AR HUD (Augmented Reality Head-Up Display) ขนาด 35.95 นิ้ว
  • ความสะดวกสบายและสิ่งอำนวยความสะดวก
    • ตู้เย็น (ทำความเย็นและทำความร้อน)
    • ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ, ระบบควบคุมคุณภาพอากาศ, เครื่องทำความร้อน
    • กระจกไฟฟ้า (หน้าและหลัง)
    • ปุ่มสตาร์ท/ดับเครื่องยนต์
    • เบาะนั่งปรับได้, เบาะนั่งคนขับปรับความสูงได้
    • คอมพิวเตอร์บนรถ
    • กระจกมองข้างพับไฟฟ้า, ไฟหน้าอัตโนมัติ
    • ช่องจ่ายไฟเสริม, พวงมาลัยพาวเวอร์, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน
    • เบาะหลังพับได้, ไฟเตือนน้ำมันเชื้อเพลิงต่ำ, พนักพิงศีรษะเบาะหลัง
    • ที่วางแก้ว (หน้าและหลัง), ที่วางขวดน้ำ, กระจกแต่งหน้า
    • กุญแจรีโมท, ที่ชาร์จ USB, ที่วางแขนคอนโซลกลาง
    • เบาะหนัง, พวงมาลัยหนัง
    • มาตรวัดรอบ, มาตรวัดระยะทางดิจิทัลหลายทริป, มาตรวัดระยะทางดิจิทัล
    • ยางอะไหล่
  • ระบบอินโฟเทนเมนท์และการเชื่อมต่อ
    • หน้าจอสัมผัส
    • วิทยุ FM/AM, ระบบนำทาง
    • การเชื่อมต่อบลูทูธ, ช่องเสียบ USB และ AUX
    • ลำโพง (หน้าและหลัง)
    • MirrorLink, Android Auto, Apple CarPlay

ความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่

  • ระบบขับขี่อัตโนมัติ:
    • G-Pilot H9 (รุ่นท็อป): พร้อมรองรับ L3 ด้วยเซ็นเซอร์ LiDAR 5 ตัว, กล้อง 13 ตัว, เรดาร์คลื่นมิลลิเมตร 3 ตัว, ชิป NVIDIA Drive Thor คู่ (กำลังประมวลผล 1,400 TOPS), Navigate On Autopilot (NOA) แบบไม่ใช้แผนที่, การค้นหาจุดจอดรถด้วย AI
    • G-Pilot H7 (รุ่นเริ่มต้น): ชิปเดี่ยว, 700 TOPS
  • ถุงลมนิรภัย: ถุงลมนิรภัยคนขับ, ถุงลมนิรภัยผู้โดยสาร, ถุงลมนิรภัยม่านด้านข้าง (70 ลิตรจากหน้าไปหลัง)
  • ความปลอดภัยเชิงรุก
    • ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS)
    • ระบบกระจายแรงเบรกอิเล็กทรอนิกส์ (EBD)
    • สัญญาณกันขโมย, อุปกรณ์กันขโมย
    • ระบบล็อกกลาง, ระบบล็อกประตูไฟฟ้า, ล็อกป้องกันเด็ก
    • เข็มขัดนิรภัยเบาะหลัง, สัญญาณเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย, เข็มขัดนิรภัยหน้าปรับความสูงได้
    • เซ็นเซอร์กะระยะ (หลัง), กล้อง 360 องศา, ระบบช่วยจอด
    • สัญญาณเตือนเปลี่ยนเลน, สัญญาณเตือนจุดบอด
    • สัญญาณเตือนประตูเปิดค้าง, ระบบกุญแจนิรภัย immobilizer, ระบบล็อกประตูสัมพันธ์กับความเร็ว
    • กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ
    • เครื่องดับเพลิง, ชุดปฐมพยาบาล
  • โครงสร้างตัวถัง: ตัวถังความแข็งแรงสูงพร้อมคุณสมบัติความปลอดภัยขั้นสูง

ความแข็งแรงของตัวถัง ZEEKR 9X จุดเด่นด้านความปลอดภัยและสมรรถนะ

ความแข็งแรงของตัวถังเป็นรากฐานสำคัญของรถยนต์ ไม่เพียงแค่เรื่องความปลอดภัยของผู้โดยสารในสถานการณ์การชนเท่านั้น แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อ สมรรถนะการขับขี่ การควบคุมรถ (handling) และความสบายในการเดินทาง ด้วย ZEEKR 9X ได้รับการออกแบบโดยใช้เทคโนโลยีและวัสดุที่ล้ำสมัย เพื่อให้ได้ตัวถังที่มีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษ

1. วัสดุโครงสร้างขั้นสูง: การผสมผสานเหล็กกล้าและอะลูมิเนียมความแข็งแรงสูง

ZEEKR 9X ใช้วัสดุที่คัดสรรมาอย่างดีเยี่ยมในการสร้างโครงสร้างตัวถัง โดย 91% ของโครงสร้างประกอบด้วยเหล็กกล้าความแข็งแรงสูง (High-Strength Steel) และอะลูมิเนียม การผสมผสานวัสดุสองชนิดนี้อย่างชาญฉลาดช่วยให้:

  • ลดน้ำหนัก: การใช้อะลูมิเนียมในบางส่วนช่วยลดน้ำหนักโดยรวมของรถ ทำให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น (ไม่ว่าจะเป็นเชื้อเพลิงหรือไฟฟ้า) และเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่
  • เพิ่มความแข็งแกร่ง: เหล็กกล้าความแข็งแรงสูงเป็นหัวใจสำคัญในการดูดซับแรงกระแทกและรักษารูปทรงของห้องโดยสารในกรณีที่เกิดการชน
  • สมดุลระหว่างความแข็งแกร่งและการดูดซับแรง: การออกแบบที่ซับซ้อนช่วยให้ตัวถังสามารถกระจายและดูดซับแรงจากการชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดแรงกระทำต่อผู้โดยสาร

2. โครงสร้างความแข็งแรงสูงพิเศษ: “2,000 MPa”

จุดเด่นที่สำคัญคือการมี โครงสร้างมากถึง 10 จุดที่ใช้วัสดุที่มีความแข็งแรงแรงดึง (Tensile Strength) สูงถึง 2,000 MPa (เมกะพาสคัล)

  • ความหมายของ 2,000 MPa: ค่า 2,000 MPa เป็นระดับความแข็งแรงที่สูงมากสำหรับวัสดุโครงสร้างยานยนต์ หมายความว่าวัสดุเหล็กในส่วนเหล่านั้นสามารถทนทานต่อแรงดึงได้ถึง 2,000 เมกะพาสคัลก่อนที่จะเริ่มเสียรูปหรือขาด ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว เหล็กที่ใช้ในรถยนต์จะมีค่าประมาณ 200-500 MPa การมีโครงสร้างที่แข็งแกร่งขนาดนี้ในจุดสำคัญๆ เช่น เสา A, เสา B, หรือคานกันกระแทกด้านข้าง จะช่วยให้ห้องโดยสารรักษารูปทรงไว้ได้ดีเยี่ยมในกรณีที่เกิดการชนรุนแรง
  • ผลลัพธ์ด้านความปลอดภัย: ทำให้ห้องโดยสารเป็น “โครงสร้างนิรภัย” ที่แข็งแกร่งปกป้องผู้โดยสารจากการถูกบีบอัดหรือกดทับอย่างรุนแรง

3. ความแข็งแกร่งในการบิดตัว (Body Torsional Rigidity): 41,600 นิวตันเมตร/องศา

ค่า ความแข็งแกร่งในการบิดตัวของตัวถังที่ 41,600 นิวตันเมตร/องศา เป็นตัวเลขที่บ่งบอกถึงประสิทธิภาพของตัวถังได้ดีเยี่ยม:

  • ความหมาย: ตัวเลขนี้หมายถึงว่าต้องใช้แรงบิดถึง 41,600 นิวตันเมตร เพื่อที่จะบิดตัวถังของรถไปเพียง 1 องศา ยิ่งค่านี้สูงเท่าไหร่ ตัวถังก็จะยิ่งบิดตัวได้ยากขึ้นเท่านั้น หรือพูดง่ายๆ คือ แข็งแกร่งและบิดงอได้ยากมาก
  • ผลกระทบต่อสมรรถนะ:
    • การควบคุมรถ (Handling): ตัวถังที่แข็งแกร่งจะช่วยให้ช่วงล่างและระบบบังคับเลี้ยวทำงานได้อย่างแม่นยำตามที่ออกแบบไว้ รถจะตอบสนองต่อการเลี้ยวได้ดีขึ้น ลดอาการโยนตัว และให้ความรู้สึกมั่นคงในการขับขี่ที่ความเร็วสูงหรือขณะเข้าโค้ง
    • ความสบายในการขับขี่: ตัวถังที่บิดตัวน้อยลงจะช่วยลดเสียงรบกวนและการสั่นสะเทือนที่ส่งผ่านจากพื้นถนนเข้าสู่ห้องโดยสาร ทำให้การเดินทางราบรื่นและเงียบสงบยิ่งขึ้น
    • ความปลอดภัย: ในกรณีที่เกิดการชน แรงกระแทกจะถูกกระจายและดูดซับได้ทั่วถึงทั้งโครงสร้าง ลดจุดอ่อนที่อาจยุบตัวหรือเสียหายได้ง่าย

4. การปกป้องแบตเตอรี่: ความสำคัญในรถ PHEV

ในฐานะรถยนต์ Plug-in Hybrid แบตเตอรี่แพ็คขนาดใหญ่เป็นส่วนสำคัญที่ต้องได้รับการปกป้องเป็นพิเศษ ZEEKR 9X จึงออกแบบโครงสร้างตัวถังให้มีส่วนที่แข็งแรงเป็นพิเศษบริเวณที่ติดตั้งแบตเตอรี่ เพื่อป้องกันความเสียหายจากแรงกระแทกจากด้านข้างหรือด้านล่าง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความปลอดภัยและอายุการใช้งานของแบตเตอรี่

5. ระบบถุงลมนิรภัยที่ครอบคลุม

แม้จะไม่ใช่ส่วนของโครงสร้างตัวถังโดยตรง แต่ระบบถุงลมนิรภัยก็เป็นองค์ประกอบสำคัญของ “ความแข็งแกร่งด้านความปลอดภัย” โดยรวม ZEEKR 9X มาพร้อมถุงลมนิรภัยที่ครอบคลุม:

  • ถุงลมนิรภัยสำหรับคนขับ
  • ถุงลมนิรภัยสำหรับผู้โดยสารด้านหน้า
  • ถุงลมนิรภัยม่านด้านข้าง: ที่มีความยาวมากถึง 70 ลิตร ครอบคลุมตั้งแต่งด้านหน้าไปจนถึงด้านหลัง เพื่อปกป้องศีรษะและลำตัวของผู้โดยสารในทุกแถวในกรณีที่เกิดการชนด้านข้าง

อื่นๆ

  • ผู้ออกแบบ: Jon Rådbrink ภายใต้ Stefan Sielaff
  • Zeekr ได้ประกาศผลอย่างเป็นทางการของ “แผน First-Enjoy” สองชั่วโมงหลังจากเปิดตัวแผน มีคนเข้าร่วมแผน Zeekr 9X First-Enjoy มากถึง 10,000คน
  • ราคาที่คาดการณ์ (จีน): ประมาณ 600,000 หยวน (ประมาณ 2.73 ล้านบาท )

ZEEKR 9X วางตำแหน่งเป็น SUV “ultra-luxury” โดยมีเป้าหมายที่จะมอบการผสมผสานระหว่างสมรรถนะสูง เทคโนโลยีขั้นสูง และความสะดวกสบายขั้นสูงสุด เพื่อแข่งขันกับ SUV หรูชั้นนำทั่วโลก

dongchedi

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้