
หลังจากการเปิดตัว BMW XM ปลั๊กอินไฮบริด ใหม่ ล่าสุดพวกเขาประกาศเพิ่ม 4 สีตัวถังใหม่ได้แก่ rban Green, Petrol Mica metallic, Anglesey Green metallic และ Sepia metallic โดยจะเริ่มวางจำหน่ายทั่วโลกในเดือนเมษายนนี้
วันที่ 28 กันยายน 2022 BMW XM 2023 SUV ปลั๊กอินไฮบริด เปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังรวมๆ 644 แรงม้า ราคาจำหน่าย 159,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 6.04 ล้านบาท (รุ่นสมรรถนะสูง ในชื่อ Limited Label Red form 735 แรงม้า แรงบิตกว่า 1000 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 4.1 วินาที ราคา 185,000 บาท หรือ 7.02 ล้านบาท จะเปิดตัวตามมาปีหน้า)
BMW XM รถยนต์ M แบบสแตนด์อโล Standard XM คันแรกในรอบหลายทศวรรษ มาพร้อมขุมกำลังปลั๊กอินไฮบริดอันทรงพลัง การออกแบบหยิบยกดีไซน์จาก XM Concept ที่เคยเผยโฉมเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2021 โครงสร้างตัวรถ SUV คูเป้แบบ fast-back หลังคาลาดลงเล็กน้อย
BMW XM SUV เน้นกระจังหน้าไตคู่ขนาดใหญ่ที่เราจะเห็นใน 7 Series และ X7 รุ่นปรับโฉม สำหรับกรอบกระจังหน้า กรอบหน้าต่าง ของล้อ มีการเน้นสีทอง NightGold Metallic ตัวรถมีการออกแบบที่เน้นความหรูหราพรีเมียมมากขึ้น ไฟหน้าแบบ LED เพรียวบาง ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ 20 นิ้วด้านหน้า ยางหน้า 275/35 R23 และยางหลัง 315/30 R23 เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ไฟท้ายแบบ LED ออกแบบแนวนอนได้กว้างมาก แม้ไม่เชื่อมกัน
เครื่องยนต์เบนซิน twin-turbo ปลั๊กอินไฮบริด 4.4T V8 644 แรงม้า (XM 50e)
เครื่องยนต์เบนซิน twin-turbo รหัส S68 ปลั๊กอินไฮบริด 4.4T V8 644 แรงม้า สำหรับเครื่องยนต์ให้กำลัง 483 แรงม้า ที่ 5,400 รอบต่อนาที แรงบิตสูงสุด ที่ 650 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 รอบต่อนาที
อัตราสิ้นเปลือง
ขนาดตัวถัง
ภายในห้องโดยสารรองรับได้ 5 ที่นั่ง ตกแต่งหรูหราคล้ายๆ XM Concept หุ้มด้วยหนัง Vintage Coffee Merino ผสมกับหนัง Soft Nappa และ Alcantara แผงบุหลังคามีไฟ LED ไม่น้อยกว่า 100 ดวง หน้าจอคู่โค้งขนาดใหญ่เชื่อมต่อแผงหน้าปัด Full LCD กับจอแสดงผลส่วนกลาง พร้อม iDrive 8 รุ่นล่าสุด และ จอ head-up display เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ในขณะเดียวกันก็นำเสนอระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่กว้างขวางที่สุดเท่าที่เคยมีมาใน BMW
Carbon Black metallic
Black Sapphire metallic
Mineral White metallic
Marina Bay Blue metallic
Toronto Red metallic
Cape York Green metallic
Dravit Grey metallic