Advertisement

Advertisement

เริ่มสายการผลิต TOYOTA Grand Highlander Hybrid Max ราคา 1.86 ล้านบาทในสหรัฐฯ 2.4T 362 แรงม้า

เริ่มสายการผลิต TOYOTA Grand Highlander Hybrid Max ราคา 1.86 ล้านบาทในสหรัฐฯ 2.4T 362 แรงม้า

Advertisement

Advertisement

 

 

PRINCETON, Ind. วันที่ 2 สิงหาคม 2023 โรงงาน Toyota Indiana สหรัฐอเมริกา เฉลิมฉลองการเริ่มต้นการผลิต Grand Highlander ซึ่งเป็นรถ SUV สามแถวโฉมใหม่อย่างเป็นทางการ ด้วยการลงทุนโรงงานเพิ่มกว่า 803 ล้านดอลลาร์ หรือ 27,600 ล้านบาท

Leah Curry ประธานบริษัท Toyota Indiana กล่าวว่า “Toyota มองหาอนาคตอยู่เสมอ โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น Grand Highlander และโครงการริเริ่มสร้างสรรค์สำหรับชุมชน เช่น Driving Possibilities” “ความเป็นไปได้ในการขับขี่เป็นรากฐานสำหรับประสบการณ์การเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพเพื่อเตรียมนักเรียนในพื้นที่ให้พร้อมสำหรับอาชีพ STEM ในอนาคต”

  • โตโยต้ามอบเงินสูงถึง 11.1 ล้านเหรียญให้กับโรงเรียนและองค์กรในท้องถิ่นเพื่อเตรียมเยาวชนให้พร้อมสำหรับอาชีพในอนาคต

วันที่ 31 พฤษภาคม 2023 Toyota Grand Highlander SUV 3 แถว 8 ที่นั่ง เปิดตัวในสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ พร้อมขุมพลัง Hybrid MAX 362 แรงม้า

  • Grand Highlander สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม TNGA-K (Toyota New Global Architecture)
  • Toyota Grand Highlander 2024 คือเรือธงของ ไฮแลนเดอร์ใหม่ มาพร้อมระบบส่งกำลังไฮบริด 2 ชุด เบาะนั่ง 3 แถว ความจุผู้โดยสารสูงสุด 8 ที่นั่ง
  • Lisa Materazzo รองประธานกลุ่มฝ่ายการตลาดของ Toyota กล่าวว่า “ในตลาดมีความต้องการรถ SUV ขนาดกลางที่เน้นความสบายภายในทั้งสามแถว และ Grand Highlander คือตัวเลือกที่ดีที่สุด”
  • Toyota จะสร้าง Grand Highlander ที่โรงงานในเมืองพรินซ์ตัน รัฐอินเดียนา โดยเป็นรถรุ่นปี 2024 ราคาและระยะเวลาการผลิตทั้งหมดจะประกาศในฤดูร้อนนี้ Toyota กล่าว

ราคาจำหน่ายในสหรัฐฯ

  • Grand Highlander XLE FWD $43,070 หรือประมาณ  1.48 ล้านบาท
  • Grand Highlander XLE AWD $44,670 หรือประมาณ 1.53 ล้านบาท
  • Grand Highlander Limited FWD $47,860 หรือประมาณ 1.64 ล้านบาท
  • Grand Highlander Limited AWD $49,460 หรือประมาณ  1.70 ล้านบาท
  • Grand Highlander Platinum AWD $53,545 หรือประมาณ  1.84 ล้านบาท
  • Grand Highlander XLE Hybrid FWD $44,670 หรือประมาณ  1.53  ล้านบาท
  • Grand Highlander XLE Hybrid AWD $46,270 หรือประมาณ 1.59  ล้านบาท
  • Grand Highlander Limited Hybrid AWD $51,060 หรือประมาณ  1.75 ล้านบาท
  • Grand Highlander Limited Hybrid Max AWD $54,040 หรือประมาณ  1.86 ล้านบาท
  • Grand Highlander Platinum Hybrid Max AWD $58,125 หรือประมาณ 2.0  ล้านบาท

Toyota Grand Highlander 2024 ภายนอกได้รับการปรับปรุงกระจังหน้าใหม่ทั้งหมด ให้มีความแตกต่างจากไฮแลนเดอร์โฉมปัจจุบัน ออกแบบโดย Calty Design Studios ในแคลิฟอร์เนีย ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว หลังคามูนรูฟแบบพาโนรามา

  • ไฟหน้าแบบ LED
  • ไฟตัดหมอก LED
  • กระจกมองข้างพับไฟฟ้า
  • เซ็นเซอร์จอดรถพร้อมระบบเบรกอัตโนมัติ
  • ที่ปัดน้ำฝนแบบตรวจจับปริมาณน้ำฝน
  • ประตูท้ายไฟฟ้า

ภายในห้องโดยสารรองรับได้สูงสุด 8 ที่นั่ง ติดตั้งหน้าปัด Full ดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้ว หน้าจอสัมผัสส่วนกลาง 12.3″ Premium Multimedia (Panoramic View Monitor) พร้อมลำโพง 11 ตัว JBL Audio รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto Connected Service Drive Connect การอัปเดต Over-the-Air (OTA)

  • เบาะหนัง
  • เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง และเบาะผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
  • ที่นั่งด้านหน้าแบบอุ่นและระบายอากาศ
  • เบาะนั่งแถวที่ 2 แบบอุ่นและระบายอากาศ
  • เบาะนั่งแถวที่ 2 ปรับความร้อนได้
  • ที่วางแก้วขนาดใหญ่พิเศษสำหรับขวดน้ำขนาดใหญ่พิเศษ 13 ตำแหน่ง
  • พอร์ต USB-C 7 พอร์ตในห้องโดยสาร
  • ปลั๊กไฟ (Gas 100W) (1500W HV/Hybrid MAX)
  • ระบบชาร์จมือถือแบบไร้สาย Qi
  • กระจกมองหลังดิจิตอล
  • มูนรูฟพาโนรามา
  • แป้นเปลี่ยนเกียร์ (AWD Gas และ Hybrid MAX)
  • ปุ่มกดเลือก Multi-Terrain (AWD Gas และ Hybrid MAX)
  • Digital Key
  • กล้อง 360 องศา
  • Safety Connect
    • ปุ่มช่วยเหลือฉุกเฉิน (SOS)
    • การช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน
    • การแจ้งเตือนการชนอัตโนมัติ
    • ระบุตำแหน่งรถ
    • ระบบช่วยเหลือการชนพร้อมให้ทดลองใช้สูงสุด 10 ปี Service Connect ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถรับรายงานสถานะของยานพาหนะ การแจ้งเตือนการบำรุงรักษา และการแจ้งเตือน พร้อมการทดลองใช้สูงสุด 10 ปี

เครื่องยนต์แบ่งเป็น 3 แบบได้แก่

  • รุ่น XLE, Limited, Platinum เครื่องยนต์ 2.4 ลิตร เทอร์โบ Dynamic Force T24A-FTS 265 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตร
    • ส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ DirectShift 8 สปีด
    • ขับเคลื่อนล้อหน้า
    • ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Electronic On-Demand
    • AWD (E-Four)
    • อัตราเร่ง 0-100 กม./ช.ม. ภายใน 7.5 วินาที (FWD)
    • อัตราประหยัดน้ำมัน 10.2 กม./ลิตร EPA
  • รุ่น XLE Hybrid, Limited Hybrid เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร 4 สูบ Dynamic Force A25A-FKS + Toyota Hybrid System-II 243 แรงม้า
    • ส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ e-CVT
    • ขับเคลื่อนล้อหน้า
    • ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Electronic On-Demand AWD (E-Four)
    • อัตราเร่ง 0-100 กม./ช.ม. ภายใน 7.8 วินาที (AWD)
    • อัตราประหยัดน้ำมัน 15.3 กม./ลิตร EPA
  • รุ่น Limited Hybrid MAX, Platinum Hybrid MAX เครื่องยนต์ 2.4 ลิตร เทอร์โบ 4 สูบ Dynamic Force T24A-FTS “Hybrid Max” + Toyota Hybrid System 362 แรงม้า
    • ส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ DirectShift 6 สปีด
    • ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ E-Four Advanced
    • มอเตอร์ไฟฟ้า eAxle ด้านหลัง
    • อัตราเร่ง 0-100 กม./ช.ม. ภายใน 6.3 วินาที
    • ประหยัดน้ำมันสูงสุด 11.4 กม./ลิตร EPA

ระบบส่งกำลังทั้งสามมาพร้อมกับโหมดการขับขี่สามโหมด (Sport, Eco, Normal) เพื่อให้การขับขี่น่าดึงดูดยิ่งขึ้น ในขณะที่ตัวเลือก Multi-Terrain Select พร้อมสามโหมด (Mud & Sand, Rock & Dirt, Snow) มีให้ในระบบส่งกำลังแบบ AWD และ Hybrid MAX

ระบบ AWD อิเล็กทรอนิกส์แบบ Full Time จับคู่กับ HYBRID MAX มอบประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นพร้อมการควบคุมที่ไร้ที่ติ ส่งกำลังไปยังล้อหน้าและล้อหลังผ่านมอเตอร์ไฮบริดที่ติดตั้งไว้ด้านหน้าและมอเตอร์ไฟฟ้า eAxle ติดตั้งไว้ด้านหลัง ระบบนี้รองรับประสิทธิภาพ AWD ที่เสถียรและอัตราเร่งที่น่าพอใจด้วยการจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติหกสปีดโดยตร ปรับการแบ่งกำลังระหว่างล้อหน้าและล้อหลังระหว่าง 70:30 และ 20:80 ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การขับขี่

  • ระบบ AWD ใหม่นี้ช่วยเพิ่มแรงขับเคลื่อนของล้อหลังและให้ความรู้สึกถึงความคล่องตัวในการขับเคลื่อนล้อหลัง เสถียรภาพในแนวเส้นตรง และการเร่งความเร็วที่ตอบสนอง

ภายในห้องโดยสารสามารถเลือกสีได้หลากหลาย เช่น 

  • XLE Gas and Hybrid: Softex®-trim สีเทาอ่อนหรือสีดำ
  • Limited Gas and Hybrid: หุ้มหนังสีเทาอ่อนหรือสีดำ
  • Platinum : ตกแต่งด้วยหนังในสี Portobello สีเทาอ่อนหรือสีดำ
  • Limited Hybrid Max: Ultrasuede®-  ขอบหนัง สีเทาอ่อนหรือสีดำ
  • Platinum Hybrid MAX ใน Ultrasuede®- ขอบหนัง Portobello, สีเทาอ่อนหรือสีดำ

Grand Highlander ปี 2024 มาพร้อมกับ Toyota Safety Sense เจเนอเรชั่นล่าสุด TSS 3.0

  • ระบบป้องกันการชนล่วงหน้าพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน Pre-Collision System with Pedestrian Detection
  • ระบบเตือนการออกนอกเลนพร้อมระบบช่วยบังคับเลี้ยว Lane Departure Warning with Steering Assist
  • ไดนามิกเรดาร์ครูซคอนโทร ควบคุมและปรับ ความเร็วอัตโนมัติ Full-Speed Range Dynamic Radar Cruise Control
  • ระบบช่วยติดตามเลน ระบบช่วยบังคับควบคุมรถให้อยู่ในเลนอัตโนมัติ
  • ระบบเตือนป้ายจราจร Road Sign Assist
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Auto High-Beam
  • ระบบจะการคาดการณ์ความเสี่ยงตามสถานการณ์การขับขี่ Proactive Driving Assist

เครดิตภาพ redline_reviews

Advertisement

Advertisement

 

motortrend

Advertisement

Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้