212 T01 Changfeng Diesel เปิดตัวในจีน ดีเซล 2.0T แรงบิด 415Nm + เกียร์ ZF 8AT พร้อมตัวเลขลุยทางโหดแบบ “สายลุยโรงงาน”

212 T01 รุ่น Changfeng เครื่องยนต์ดีเซล เปิดตัวอย่างเป็นทางการในจีนเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม โดยชูจุดขายชัดเจนว่าเป็นรถสายลุยที่ “ได้ความอึดแบบดีเซล + ช่วงล่างและสเปกออฟโรดจริงจัง” ตั้งแต่โรงงาน ทั้งมุมไต่ มุมจาก ความสูงใต้ท้อง และความสามารถลุยน้ำ

ราคาจำหน่ายในจีนอยู่ที่ 198,800 หยวน  หรือ 890,000 บาท พร้อมโปรแกรมสนับสนุนกรณี นำรถเก่ามาแลก (Trade-in Subsidy) ได้แก่ รุ่นเดียวกันได้ 10,000 หยวน และรุ่นอื่นได้ 6,000 หยวน


ไฮไลต์สำคัญ ทำไมรุ่นดีเซลของ 212 T01 ถึงน่าจับตา

  • ดีเซล 2.0T แรงบิดสูงสุด 415 นิวตัน-เมตร ตอบโจทย์งานลาก-ไต่-ลุย
  • เกียร์อัตโนมัติ ZF 8AT + Transfer Case ของ BorgWarner
  • Part-time 4WD มี 2H / 4H / 4L และ 4L ขยายแรงบิด 2.5 เท่า
  • โครงสร้าง แชสซีส์แยก (Body-on-Frame) + ช่วงล่าง คานแข็งหน้า-หลัง แบบ 5 ลิงก์
  • ตัวเลขออฟโรดเด่น: มุมปะทะ 43°, มุมจาก 36°, ใต้ท้อง 256 มม., ลุยน้ำ 850 มม. (ออปชัน 910 มม.)
  • อัตราสิ้นเปลืองรวมเคลม 8.5 ลิตร/100 กม. + ถังน้ำมัน 80 ลิตร วิ่งได้ เกือบ 1,000 กม.

ราคา 212 T01 Changfeng Diesel ในจีน พร้อมส่วนลดเทรดอิน

ตัวเลขราคาที่ประกาศออกมาถือว่า “วางตำแหน่งชัด” สำหรับคนที่อยากได้รถลุยดีเซลพร้อมชุดขับเคลื่อนจริงจังจากโรงงาน

รายการ ตัวเลข
ราคาจำหน่าย (จีน) 198,800 หยวน หรือ 890,000 บาท
ส่วนลดเทรดอิน (รุ่นเดียวกัน) 10,000 หยวน
ส่วนลดเทรดอิน (รุ่นอื่น) 6,000 หยวน

หมายเหตุ: ราคาและโปรโมชันเป็นข้อมูลตามการประกาศในจีน อาจเปลี่ยนได้ตามช่วงเวลาและเงื่อนไขผู้จำหน่าย


ดีไซน์ภายนอก หน้าตาใหม่ “เข้มขึ้น” และมีออปชันวินช์ซ่อน

รุ่นดีเซลใช้ภาพรวมงานออกแบบเดียวกับ Changfeng รุ่นเบนซิน แต่เมื่อเทียบกับรุ่นปกติ จะเห็นการปรับรายละเอียดด้านหน้าให้ “ลุยขึ้น” โดยเฉพาะ

  • ชุด กระจังหน้า ขยายขนาดให้กว้างขึ้น
  • ฝากระโปรงหน้า ออกแบบใหม่ เพิ่มสันนูนและช่องระบายอากาศ
  • รองรับออปชัน วินช์แบบซ่อน (Hidden Winch) ช่วยให้ภาพรวมยังดูเรียบร้อยแต่พร้อมใช้งาน

ถ้าดูจากตัวเลขออฟโรดที่ให้มา รุ่นนี้ถูกทำให้เป็น “สายลุยโรงงาน” อย่างแท้จริง โดยมี มุมปะทะ 43°, มุมจาก 36° และ ระยะใต้ท้อง 256 มม. ซึ่งเป็นค่าที่ช่วยให้รถปีนไต่/ลงทางชันได้มั่นใจขึ้นในสถานการณ์จริง

ความสามารถลุยน้ำ: 850 มม. จากโรงงาน (ออปชัน 910 มม.)

อีกจุดที่สายลุยจับตาคือความสามารถในการลุยน้ำที่ประกาศไว้ 850 มม. และหากติดตั้งออปชัน ท่อสน็อกเกิล/ท่อหายใจ (Wading Hose) จะเพิ่มเป็น 910 มม. ซึ่งอยู่ในระดับที่ “จริงจัง” สำหรับรถผลิตจำนวนมาก


ภายใน จอคู่ + กล้อง 360 แต่ยังคง “ปุ่มจริง” ให้ใช้งานได้ในทางลุย

ห้องโดยสารให้แนวทางที่น่าสนใจ คือผสม “ความทันสมัย” กับ “ความใช้งานจริง” สำหรับรถสายออฟโรด

Advertisement Advertisement
  • ชุดจอคู่: มาตรวัด 10.25 นิ้ว + จอกลาง 12.3 นิ้ว
  • รองรับ ระบบนำทาง และ การเชื่อมต่อมือถือ
  • ติดตั้งมาตรฐาน เรดาร์หน้า-หลัง และ กล้องมองรอบคัน 360 องศา
  • ยังคงมี ปุ่มควบคุมแบบกายภาพ ในโซนแอร์และโซนฟังก์ชันออฟโรด ลดความยุ่งยากเวลาใช้งานในสภาพสั่นสะเทือน

การ “คงปุ่มจริง” ไว้ ถือเป็นสิ่งที่แฟนรถลุยจำนวนมากมองว่าใช้งานได้ดีกว่าในสถานการณ์ที่ต้องสั่งงานเร็ว หรือมือเปียก/มือมีฝุ่น/ถนนสั่น เพราะไม่ต้องพึ่งเมนูจอทั้งหมด


ขุมพลังและระบบขับเคลื่อน ดีเซล 2.0T + ZF 8AT + BorgWarner + 4L ขยายแรงบิด 2.5 เท่า

รุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์ ดีเซล 2.0 เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 125 kW (170 แรงม้า) และแรงบิดสูงสุด 415 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังผ่าน เกียร์อัตโนมัติ ZF 8AT ซึ่งเป็นชื่อที่ตลาดออฟโรดคุ้นเคยในแง่ความทนและการไล่อัตราทด

ไฮไลต์คือการจับคู่กับ Transfer Case ของ BorgWarner และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Part-time 4WD รองรับ 2H / 4H / 4L โดยโหมด 4L ระบุว่า ขยายแรงบิดได้ 2.5 เท่า ซึ่งเป็นตัวช่วยสำคัญเวลาไต่ทางชัน ทางหิน หรือทางโคลนที่ต้องการแรงฉุดสูงในความเร็วต่ำ

เทคโนโลยีระบบจ่ายน้ำมันดีเซล: Bosch 2000 bar

ข้อมูลระบุว่าใช้ระบบ หัวฉีดคอมมอนเรลแรงดันสูง 2,000 bar ของ Bosch ซึ่งเป็นจุดที่ส่งผลต่อความละเอียดการฉีดและการควบคุมการเผาไหม้ โดยภาพรวมมีผลทั้งด้านสมรรถนะและความประหยัด (ขึ้นอยู่กับการจูน/สภาพการขับขี่จริง)

ความประหยัดและระยะทาง: 8.5 ลิตร/100 กม. + ถัง 80 ลิตร

อัตราสิ้นเปลืองรวมที่ประกาศคือ 8.5 ลิตร/100 กม. เมื่อจับคู่กับถังน้ำมันขนาด 80 ลิตร จึงเคลมระยะทางต่อถังว่า เกือบ 1,000 กม. ซึ่งเหมาะกับสายเดินทางไกลหรือใช้ในพื้นที่ที่สถานีบริการห่าง


โครงสร้างและช่วงล่าง: แชสซีส์แยก + คานแข็งหน้า-หลัง แบบ 5 ลิงก์

สำหรับรถสายลุย “ตัวจริง” โครงสร้างและช่วงล่างคือหัวใจ รุ่นนี้ระบุว่าใช้

  • โครงสร้างแชสซีส์แยก (Body-on-Frame)
  • ช่วงล่างคานแข็งหน้า-หลัง พร้อมการยึดแบบ 5 ลิงก์

แนวทางนี้มักถูกเลือกในรถออฟโรดเพราะเน้นความทนทาน การรับแรงบิด/แรงกระแทก และความมั่นใจในการใช้งานหนัก แม้บุคลิกบนถนนดำอาจไม่เน้นนุ่มเงียบเท่า SUV โครงสร้างโมโนค็อก แต่ให้ความ “ถึก” ที่คนเล่นทางโหดต้องการ


สรุปสเปกเด่น 212 T01 Changfeng Diesel (ตามข้อมูลเปิดตัว)

หัวข้อ รายละเอียด
เครื่องยนต์ ดีเซล 2.0 เทอร์โบ
กำลังสูงสุด 125 kW (170 แรงม้า)
แรงบิดสูงสุด 415 นิวตัน-เมตร
เกียร์ อัตโนมัติ ZF 8AT
ระบบขับเคลื่อน Part-time 4WD (2H/4H/4L), 4L ขยายแรงบิด 2.5 เท่า
Transfer Case BorgWarner
โครงสร้าง แชสซีส์แยก (Body-on-Frame)
ช่วงล่าง คานแข็งหน้า-หลัง แบบ 5 ลิงก์
อัตราสิ้นเปลืองรวม (เคลม) 8.5 ลิตร/100 กม.
ความจุถังน้ำมัน 80 ลิตร
ระยะทางต่อถัง (เคลม) เกือบ 1,000 กม.
มุมปะทะ / มุมจาก 43° / 36°
ความสูงใต้ท้องรถ 256 มม.
ลุยน้ำ 850 มม. (ออปชัน 910 มม.)
หน้าจอ มาตรวัด 10.25 นิ้ว + จอกลาง 12.3 นิ้ว
ระบบช่วยจอด/มองภาพ เรดาร์หน้า-หลัง + กล้อง 360°

มุมมองเชิงตลาด: 212 T01 ดีเซล “ขายความจริงจัง” มากกว่าแค่ภาพลุค

จากชุดข้อมูลเปิดตัว จุดยืนของ 212 T01 Changfeng Diesel ค่อนข้างชัดว่าเน้น “ความพร้อมลุยจากโรงงาน” ไม่ว่าจะเป็นสเปกมุมไต่-ลุยน้ำ โครงสร้างแชสซีส์แยก คานแข็งหน้า-หลัง และระบบขับเคลื่อนที่มี 4L พร้อมการขยายแรงบิด

ถ้าดูเฉพาะคาแรกเตอร์ รุ่นนี้เหมาะกับกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการแรงบิดดีเซลสำหรับงานหนัก/เดินทางไกล และต้องการแพลตฟอร์มที่สามารถต่อยอดอุปกรณ์ออฟโรดได้ง่าย (เช่น วินช์/สน็อกเกิล/อุปกรณ์เสริม) โดยไม่ทิ้งความสะดวกสบายพื้นฐานอย่างจอคู่และกล้อง 360


คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

212 T01 Changfeng Diesel ราคาเท่าไหร่?

ราคาเปิดตัวในจีนคือ 198,800 หยวน พร้อมโปรแกรมสนับสนุนเทรดอิน 10,000 หยวน (รุ่นเดียวกัน) หรือ 6,000 หยวน (รุ่นอื่น)

เครื่องยนต์และเกียร์เป็นอะไร?

ใช้ ดีเซล 2.0 เทอร์โบ กำลัง 170 แรงม้า แรงบิด 415 นิวตัน-เมตร จับคู่ เกียร์อัตโนมัติ ZF 8AT

ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อมีโหมดอะไรบ้าง?

เป็น Part-time 4WD รองรับ 2H / 4H / 4L โดย 4L ขยายแรงบิด 2.5 เท่า

ลุยน้ำได้ลึกแค่ไหน?

จากโรงงานระบุ 850 มม. และหากติดออปชันท่อสน็อกเกิล/ท่อหายใจ จะเพิ่มเป็น 910 มม.


รวมภาพคันจริง BAW 212 T01 ดีเซล ราคา 747,000 บาทในจีน คู่แข่ง GWM TANK 300