ลือ! TOYOTA อาจพิจารณาซื้อ NETA ในจีน เพื่อเร่งแผนรถยนต์ไฟฟ้าในอาเซียน และ จีน

ลือ! TOYOTA อาจพิจารณาซื้อ NETA ในจีน เพื่อเร่งแผนรถยนต์ไฟฟ้าในอาเซียน และ จีน
Spread the love

Advertisement

Advertisement
ล่าสุดทาง Xu Yiming ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารแบรนด์ของ Toyota Motor (China) Investment Co., Ltd. ได้ออกมาพูดบนโซเชียลมีเดียและปฏิเสธข่าวนี้โดยตรงด้วยคำพูดว่า “ฉันไม่เคยได้ยินเรื่องนี้!”

สรุปข่าว: Toyota อาจเข้าซื้อกิจการ Neta รถยนต์ไฟฟ้าจีน

  • Toyota กำลังพิจารณาซื้อกิจการ Neta เพื่อเร่งแผน EV ในจีน ขณะที่ Neta กำลังประสบวิกฤตการเงินและการผลิตหยุดชะงัก
  • Neta ยังไม่ได้กลับมาผลิตจริง ทำให้เงินทุนรอบ E (มูลค่า 40-45 พันล้านหยวน) หรือประมาณ 185,123 – 208,624 ล้านบาท ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ตามเงื่อนไข
  • มูลค่าบริษัท Neta ร่วงหนักจาก 423 พันล้านหยวน หรือ 1.95 ล้านล้านบาท เหลือเพียง 60 พันล้านหยวน หรือ 277,685 ล้านบาท นักลงทุนรัฐและเอกชนไม่พอใจ แสดงความไม่ไว้วางใจผู้บริหาร
  • ซัพพลายเออร์อาจไม่ได้รับเงินเลยหากบริษัทล้มละลาย เพราะต้องชำระหนี้ให้รัฐก่อน
  • ในไทย Neta เสี่ยงถูกปรับ หากไม่สามารถผลิต EV ในไทยได้ตามจำนวนที่นำเข้าในปี 2022-2023 ภายในปี 2025
  • ล่าสุด Neta ได้รับการสนับสนุนจาก 134 ซัพพลายเออร์ ตกลงหนี้กว่า 20,000 ล้านหยวนแปลงเป็นหุ้น และมีเงินทุนใหม่จากไทยและฮ่องกง
  • หากดีลกับ Toyota สำเร็จ จะเป็นโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายก้าวหน้าในตลาด EV ของจีนและอาเซียน

ณ วันที่ 12 พฤษภาคม 2025 ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการว่า Toyota จะเข้าซื้อกิจการของ Neta (哪吒汽车) ข่าวที่มีอยู่ในขณะนี้มาจากแหล่งข่าวภายในและการคาดการณ์ของสื่อบางแห่งเท่านั้น ทั้ง Toyota และ Neta ยังไม่ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันหรือปฏิเสธเกี่ยวกับการเจรจาดังกล่าว

เหตุผลที่ทำให้ข่าวนี้น่าสนใจ:

  • Neta: กำลังเผชิญวิกฤตทางการเงินอย่างหนัก สายการผลิตหยุดชะงัก และมีการปลดพนักงานจำนวนมาก การเข้าซื้อกิจการโดย Toyota อาจช่วยให้ Neta ได้รับเงินทุนและทรัพยากรที่จำเป็นในการฟื้นฟูธุรกิจ

  • Toyota: แม้จะเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ แต่ยังล้าหลังในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยเฉพาะในจีน ซึ่งเป็นตลาด EV ที่ใหญ่ที่สุดในโลก การเข้าซื้อ Neta อาจช่วยให้ Toyota เข้าถึงเทคโนโลยีและตลาด EV ในจีนได้รวดเร็วขึ้น

สรุป: ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการเข้าซื้อกิจการของ Neta โดย Toyota แต่หากการเจรจานี้เกิดขึ้นจริง อาจเป็นก้าวสำคัญสำหรับทั้งสองบริษัทในการเสริมความแข็งแกร่งในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะในจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ข่าวในประเทศจีน

เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ตามรายงานของ Fast Technology News บริษัท Toyota Motor กำลังพิจารณาเข้าซื้อกิจการผู้ผลิตยานยนต์พลังงานใหม่ในประเทศอย่าง Nezha Auto ข่าวนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่หากเกิดขึ้นจริง อาจมีความหมายอย่างยิ่งต่อทั้งสองฝ่าย ช่วยให้ Toyota เร่งกระบวนการใช้พลังงานไฟฟ้าในตลาดจีนได้ และยังช่วยให้ Nezha หลุดพ้นจากปัญหาทางการเงินและสถานการณ์การปิดกิจการได้อีกด้วย

ไม่มีการกลับมาผลิต ทำให้เงิน E Series ไม่ได้ตามนัด

Nezha Auto ประสบปัญหาทางการเงินมาตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2024 โดยการผลิตของบริษัทถูกระงับ และมีการเลิกจ้างพนักงานจำนวนมาก ทีมผู้ก่อตั้งได้พยายามแสวงหาแหล่งเงินทุนภายนอกเพื่อความอยู่รอด Nezha Auto เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการระดมทุน E-round เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2025 และนักลงทุนน่าจะเป็นกองทุน BRICS เดิมทีมีแผนการจัดหาเงินทุนไว้ที่ระดับระหว่าง 4 พันล้านถึง 4,500 ล้านหยวน ซึ่งรวมถึงการลงทุนในหุ้นมูลค่า 3 พันล้านหยวนจากนักลงทุนรายสำคัญ และการลงทุนติดตามผลมูลค่า 1 พันล้านถึง 1,500 ล้านหยวน แต่ยังไม่ได้รับเงินจำนวนดังกล่าวเลย

เนื่องจากเงื่อนไขสำหรับนักลงทุนหลักในการลงทุนคือ Nezha Auto จะต้องกลับมาดำเนินงานและผลิตอีกครั้งในเดือนมกราคม และในเวลาเดียวกันก็ต้องล็อคการลงทุนติดตามผลในจำนวนหนึ่ง และบริษัทก็ต้องดำเนินการตามแผนที่มีประสิทธิผลเพื่อลดอัตราส่วนสินทรัพย์และหนี้สิน ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคมถึงวันที่ 17 มกราคม โรงงานของ Nezha Auto ในตงเซียง มณฑลเจ้อเจียง ได้กลับมาดำเนินงานชั่วคราว แต่ไม่ได้กลับมาดำเนินการผลิตอีกครั้ง โรงงานได้รับชิ้นส่วนอะไหล่เพียงไม่กี่ชิ้น และคนงานก็ไม่สามารถดำเนินการผลิตต่อได้ คนงานในโรงงานมีหน้าที่หลักในการทำความสะอาด


โรงงานถงเซียงหยุดชะงักหลายเดือน มูลค่าบริษัทหดจาก 400,000 ล้านหยวน เหลือ 60,000 ล้านหยวน! หรือลดลง 80% รัฐไม่ไว้ใจ – นักลงทุนเดิมไม่พอใจ

ในเดือนมกราคม 2023 กองทุนรัฐวิสาหกิจในเมืองถงเซียงลงทุน 1.53 หมื่นล้านหยวนหรือ 70,809 ล้านบาท ซื้อหุ้นของบริษัท Tongxiang Runhe Equity Investment Co., Ltd. ซึ่งควบคุมโดยสำนักงานการเงินเทศบาลเมือง Tongxiang ได้จองซื้อหุ้น 3.61% ของ Hozon New Energy ซึ่งตีมูลค่าบริษัทไว้ที่ราว 423,000 ล้านหยวน หรือ 1.95 ล้านล้านบาท

แต่ในรอบ E นักลงทุนหลักเสนอซื้อหุ้นถึง 50% ด้วยเงินเพียง 30,000 ล้านหยวน ซึ่งหมายความว่ามูลค่าก่อนการระดมทุนเหลือเพียง 60,000 ล้านหยวน หรือลดลงกว่า 80%

รัฐบาลท้องถิ่นในเมืองอี๋ชุน, หนานหนิง, ถงเซียง และผู้ถือหุ้นเดิมอย่าง 360 ต่างไม่พอใจแนวทางระดมทุนนี้ ความเชื่อมั่นในทีมผู้บริหารสั่นคลอน บางรายขอสอบทานข้อมูลการเงิน ขณะที่ โจว หงอี้ (ผู้ก่อตั้ง 360) ก็ยุติการลงทุนเพิ่มอีก 1 หมื่นล้านหยวนเนื่องจากข้อกังวลเรื่องการเงิน ทำให้โอกาส IPO เลือนราง


ถ้าเข้าสู่การล้มละลาย รัฐได้ก่อน – ซัพพลายเออร์อดหมด

Neta เคยหารือกับซัพพลายเออร์ให้เปลี่ยนหนี้เป็นหุ้น โดยเสนอให้ 70% ของหนี้แปลงเป็นหุ้น ร่วมกับนักลงทุนหลักในรอบ E ส่วนที่เหลือ 30% จะทยอยชำระ

อย่างไรก็ตาม หากไม่มีความคืบหน้าในการระดมทุน บริษัทจะประสบปัญหาในการจ่ายเงินเดือน, ประกันสังคม และอาจกระทบต่อเสถียรภาพของพนักงาน รวมถึงทำให้ระดมทุนยิ่งยากขึ้น

และหากเข้าสู่กระบวนการล้มละลาย ทรัพย์สินของบริษัทจะถูกขายทอดตลาดในราคาต่ำ และเงินที่ได้ต้องชำระหนี้ให้กับรัฐก่อน ส่วนซัพพลายเออร์จะไม่ได้รับอะไรเลย


โครงสร้างผู้ถือหุ้น – รัฐวิสาหกิจถือหุ้นรวมเกือบ 50%

ผู้ถือหุ้นของ Neta มีหลายรายที่มาจากภาครัฐ รวมหุ้นแล้วใกล้เคียงกับ 50%


ปัญหาภาระผูกพันในไทย – ถ้าไม่ผลิตในประเทศ จะโดนปรับ

  • ในปี 2022 และ 2023 Neta ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลไทยสูงสุด 150,000 บาท/คัน สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่จำหน่ายในไทย
  • ภายใต้เงื่อนไขของรัฐบาลไทย หากบริษัทจีนได้รับเงินสนับสนุน ต้องดำเนินการผลิตในประเทศให้เท่ากับจำนวนรถที่นำเข้าในปี 2022-2023 ภายในปี 2024
  • หากยังไม่ครบ สามารถขยายเวลาได้ถึงปี 2025 แต่ต้องผลิตในสัดส่วน 1.5 เท่า ของจำนวนที่ขาดไป
  • หากไม่สามารถทำได้ Neta ต้องคืนเงินสนับสนุนพร้อมดอกเบี้ย รวมถึงต้องชำระภาษีที่รัฐบาลไทยเคยยกเว้นไปแล้ว

Autohome

Advertisement

Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้