SKYACTIV Z ขุมพลังไฮบริดรุ่นใหม่ หัวใจสำคัญของ MAZDA CX-5 เจนที่ 3

SKYACTIV Z ขุมพลังไฮบริดรุ่นใหม่ หัวใจสำคัญของ MAZDA CX-5 เจนที่ 3
Spread the love

Advertisement

Advertisement

MAZDA ได้ปล่อยทีเซอร์ All NEW Mazda CX-5 (เจเนอเรชั่นที่ 3) เปิดตัวในโลก 10 ก.ค. 2025 ที่คาดว่าจะมาพร้อมขุมพลัง Skyactiv-Z ใหม่ของแบรนด์

SKYACTIV-Z คือเครื่องยนต์เบนซินเจเนอเรชันใหม่ล่าสุดของ Mazda ที่จะเริ่มใช้งานจริงในปี 2027 โดยถูกพัฒนาให้เป็นสุดยอดของเทคโนโลยีการเผาไหม้ภายใน (“Ultimate Combustion”) เน้นประสิทธิภาพ ความสะอาด และความทนทานสูงสุด โดย Mazda เรียกช่วงนี้ว่า “ยุคทองของเครื่องยนต์สันดาป” ก่อนจะเข้าสู่ยุคพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบในอนาคต คาดการณ์ว่า MAZDA CX-5 ใหม่จะมาพร้อมขุมพลังนี้

สเปกเครื่องยนต์เบื้องต้น

  • ประเภท: เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียง
  • ความจุ: 2.5 ลิตร
  • ระบบส่งกำลัง: จับคู่กับระบบไฮบริด (Hybrid)
  • มาตรฐานสิ่งแวดล้อม:
    • Euro 7 (ยุโรป)
    • LEV IV / Tier 4 (สหรัฐฯ)
    • ค่า NOx (ไนโตรเจนออกไซด์): ลดลงจาก Skyactiv-G ราว 25–30%
    • ค่า PM (ฝุ่นละเอียด): ลดลงมากกว่า 40% ด้วยระบบเผาไหม้สะอาด
  • ประหยัดน้ำมัน มากขึ้น 10–15% เมื่อเทียบกับ Skyactiv-G (ที่เคยทำได้เฉลี่ย 13–15 กม./ลิตร ใน CX-5)

เทคโนโลยีเด่นของ SKYACTIV-Z

1. การเผาไหม้แบบ Lambda One

  • ใช้หลักการ “Lambda = 1” หรือค่าอากาศ-เชื้อเพลิงสมบูรณ์แบบ (อัตราส่วน 14.7:1)
  • ทำให้สามารถเผาไหม้ได้สะอาดมาก ตั้งแต่รอบต่ำไปจนถึงรอบสูง
  • ลดการปล่อยมลพิษ และช่วยให้เครื่องยนต์ประหยัดเชื้อเพลิงสูงสุด
  • Mazda เรียกว่านี่คือ “การเผาไหม้ที่เหมาะสมที่สุดในทุกสภาวะ”
  • Thermal Efficiency (ประสิทธิภาพเชิงความร้อน) มากกว่า 45% (ถือว่าสูงมากสำหรับเครื่องยนต์เบนซินทั่วไป ซึ่งอยู่แค่ ~37–40%)
  • ลดการปล่อย CO₂ ลงได้ ประมาณ 10–15% (เมื่อเทียบกับ Skyactiv-G 2.5L เดิม)

2. ลดชิ้นส่วนเครื่องยนต์ลง

  • ออกแบบให้ เรียบง่ายกว่า Skyactiv-G และ Skyactiv-X
  • เสียงรบกวนและแรงสั่นสะเทือน (NVH) น้อยลงจำนวนชิ้นส่วนลดลง มากถึง 20–25% → ซ่อมง่ายขึ้น น้ำหนักเบาลง และต้นทุนการผลิตต่ำลง
  • การสูญเสียกำลังจากแรงเสียดทาน (Friction Loss) ลดลงประมาณ 20% ลดน้ำหนักเครื่องยนต์รวม ได้ราว 15–20 กก. เทียบกับเครื่อง 2.5L รุ่นก่อนหน้า

พร้อมใช้งานร่วมกับระบบไฮบริด

  • ออกแบบให้รองรับระบบไฮบริดเต็มรูปแบบ (Full Hybrid หรือ Mild Hybrid)
  • พัฒนาโดย Mazda เอง ไม่ใช้เทคโนโลยีของ Toyota อีกต่อไป
  • ใช้กับ Hybrid system efficiency ระดับ 70–80% (ระบบโดยรวม)
  • รองรับการชาร์จจากเครื่องยนต์ได้เกือบ 100% ของสถานการณ์ใช้งาน (full load charge-compatible)

จะใช้ในรถรุ่นใด?

  • รุ่นแรกที่ได้ใช้คือ Mazda CX-5 รุ่นใหม่ (Gen 3) ที่จะเปิดตัวในปี 2025
  • อาจมีการใช้งานต่อเนื่องในรถรุ่นอื่น เช่น

    • Mazda6 ใหม่
    • Mazda MX-5 (เน้นความเบาและประหยัด)
    • Mazda CX-60 / CX-80
    • รถสปอร์ต RX หรือรุ่นที่ใช้โรตารีในอนาคต

เปรียบเทียบ SKYACTIV-G / X / Z

รุ่น เทคโนโลยีหลัก จุดเด่น จุดต่าง
Skyactiv-G ฉีดเชื้อเพลิงตรง อัตราส่วนกำลังอัดสูง ประหยัด ทนทาน เทคโนโลยีพื้นฐาน
Skyactiv-X SPCCI (จุดระเบิดด้วยแรงดันอัด) ประหยัดสูง-ซับซ้อน ซับซ้อน ซ่อมยาก
Skyactiv-Z Lambda=1, Lean Burn สะอาด, ง่าย, รองรับไฮบริด เป็นรุ่นพัฒนาใหม่ล่าสุด

ภาพอิงทีเซอร์ All NEW Mazda CX-5 (เจเนอเรชั่นที่ 3) เปิดตัวในโลก 10 ก.ค. อาจมาพร้อม เบนซิน 2.5 ลิตร+HEV ที่พัฒนาขึ้นเอง Skyactiv-Z

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้