เปิดราคา 861,000 – 1,063,000 บาทในญี่ปุ่น SUZUKI e Vitara EV 433 – 520 กม./ชาร์จ

เปิดราคา 861,000 – 1,063,000 บาทในญี่ปุ่น SUZUKI e Vitara EV 433 – 520 กม./ชาร์จ
Spread the love
Advertisement Advertisement

ซูซูกิ เปิดตัว e Vitara รถยนต์ไฟฟ้าใหม่ในญี่ปุ่น 16 มกราคม 2026 รถไฟฟ้ากลยุทธ์ระดับโลกคันแรก

  • เปิดตัวครั้งแรกที่อิตาลี (มิลาน, พ.ย. 2024)

  • เปิดตัวต่อที่อินเดีย (งาน Bharat Mobility Global Expo 2025, ม.ค. 2025)

  • เป็นรถไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) รุ่นแรกของซูซูกิที่วางกลยุทธ์ระดับโลก

คอนเซ็ปต์สินค้า: “Emotional Versatile Cruiser” ผสมผสานความล้ำสมัยของรถไฟฟ้า เข้ากับความแข็งแกร่งของ SUV ราคาจำหน่าย 3,993,000 – 4,928,000 เยน หรือประมาณ 861,000 – 1,063,000 บาท

ราคาและรุ่นย่อย (รวม VAT 10%)

รุ่น ระบบขับเคลื่อน แบตเตอรี่ วิ่งได้ต่อการชาร์จ (WLTC) การใช้พลังงาน ภาษี Eco Car ราคา (เยน)
X 2WD (ขับหน้า) 49 kWh 433 กม. 124 Wh/km ยกเว้น 3,993,000 หรือ 861,000 บาท
Z 2WD (ขับหน้า) 61 kWh 520 กม. 131 Wh/km ยกเว้น 4,488,000 หรือ 968,000 บาท
Z 4WD (ALLGRIP-e) 61 kWh 472 กม. 144 Wh/km ยกเว้น 4,928,000 หรือ 1.06 ล้านบาท

ได้สิทธิ์เงินสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่น 870,000 เยน (ทุกเกรด)
หลังหักเงินสนับสนุน รุ่นเริ่มต้นเหลือประมาณ 3.1 ล้านเยน (ราว 730,000 บาท)

การออกแบบภายใต้แนวคิด Emotional Versatile Cruiser e VITARA จึงมีดีไซน์ที่ผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีขั้นสูงและความแข็งแกร่ง ระบบส่งกำลัง BEV ที่มอบประสบการณ์การขับขี่ที่คล่องตัวและเฉียบคม ระบบ 4WD ไฟฟ้า ALLGRIP-e ที่ไม่เพียงแต่ให้ความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรดเท่านั้นแต่ยังมีสมรรถนะอันทรงพลัง รวมถึงแพลตฟอร์ม HEARTECT-e ที่พัฒนาขึ้นใหม่สำหรับรถยนต์ BEV โดยเฉพาะ

คุณสมบัติหลักของ e VITARA

1. การออกแบบที่ผสมผสานความรู้สึกล้ำสมัยของ BEV ยุคใหม่และความแข็งแกร่งของ SUV

ธีมการออกแบบคือ High-Tech & Adventure ซึ่งรวบรวมความรู้สึกล้ำสมัยของ BEV และลักษณะที่แข็งแกร่งของ SUV สร้างแรงบันดาลใจให้เกิดความรู้สึกผจญภัย ภายนอกมีการออกแบบที่สะดุดตาโดยมีลักษณะเด่นคือยางขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางใหญ่และฐานล้อที่ยาว ในขณะที่ภายในมีจอแสดงผลแบบบูรณาการพร้อมอุปกรณ์ขั้นสูงและแผงหน้าปัดที่ดูแข็งแกร่งและคอนโซลกลาง ซึ่งสะท้อนถึงธีม High-Tech & Adventure

2. ระบบส่งกำลัง BEV ประกอบด้วย eAxle ที่มีประสิทธิภาพและแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟต

ระบบส่งกำลัง BEV ประกอบด้วย eAxle ประสิทธิภาพสูงที่ผสานรวมมอเตอร์และอินเวอร์เตอร์เข้ากับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟตที่ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ ทำให้สามารถเร่งความเร็วจากจุดหยุดนิ่งได้อย่างคล่องตัวและเร่งความเร็วได้ทันใจขณะแซงจากความเร็วต่ำไปจนถึงความเร็วสูง

3. ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อไฟฟ้า ALLGRIP-e ขับเคลื่อนด้วยเพลา eAxles อิสระ 2 เพลา

ALLGRIP-e คือระบบขับเคลื่อน 4 ล้อไฟฟ้าที่ใช้ความเชี่ยวชาญของซูซูกิในเทคโนโลยีขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยมีเพลา eAxles อิสระ 2 เพลาที่ด้านหน้าและด้านหลัง ระบบนี้ไม่เพียงแต่ให้ประสิทธิภาพที่ทรงพลังเท่านั้น แต่ยังให้การควบคุมที่แม่นยำพร้อมการตอบสนองที่ยอดเยี่ยม นอกจากนี้ยังมีโหมด Trail ที่ช่วยให้หลบหนีจากพื้นผิวขรุขระได้อย่างราบรื่นโดยใช้เบรกกับยางที่หมุนและกระจายแรงบิดขับเคลื่อนไปยังยางอีกข้าง (ฟังก์ชัน LSD)

4. แพลตฟอร์ม HEARTECT-e ที่พัฒนาขึ้นใหม่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ

แพลตฟอร์มนี้ใช้แพลตฟอร์ม HEARTECT-e ที่พัฒนาขึ้นใหม่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ โดยมีโครงสร้างน้ำหนักเบา ป้องกันแรงดันไฟฟ้าสูง และพื้นที่ภายในกว้างขวางเนื่องจากส่วนยื่นสั้น พื้นหลักขจัดส่วนใต้พื้นออกเพื่อเพิ่มความจุของแบตเตอรี่ให้สูงสุด

ข้อมูลด้านเทคนิค

ขนาดตัวถัง

  • ยาว 4,275 มม.
  • กว้าง 1,800 มม.
  • สูง 1,635 มม.
  • ฐานล้อ 2,700 มม.
  • รองรับ 5 ที่นั่ง
  • ระยะห่่างพื้น 180 มม.
  • ดิสก์เบรกหน้า-หลัง

มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวด้านหน้า

  • ให้กำลัง 142 แรงม้า
  • แรงบิด 189 นิวตัน-เมตร
  • แบตเตอรี่ LFP 49kWh วิ่งได้ 433 กม./ชาร์จ WLTC
  • น้ำหนัก 1,702  กก. กก.
  • ล้ออัลลอย 18 นิ้ว  ยาง 225/55R18

มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวด้านหน้า

  • ให้กำลัง 174 แรงม้า
  • แรงบิด 189 นิวตัน-เมตร
  • แบตเตอรี่ LFP 61kWhวิ่งได้ 520 กม./ชาร์จ WLTC
  • น้ำหนัก 1,760 – 1,799 กก. กก.
  • ล้ออัลลอย 18 นิ้ว และ 20 นิ้ว ยาง 225/55R18, 225/50R19

มอเตอร์ไฟฟ้าคู่

  • ให้กำลัง 181 แรงม้า
  • แรงบิด 307 นิวตัน-เมตร
  • แบตเตอรี่ LFP 61kWh วิ่งได้ 472 กม./ชาร์จ WLTC
  • น้ำหนัก 1,860 – 1,899 กก.
  • ล้ออัลลอย 18 นิ้ว และ 20 นิ้ว ยาง 225/55R18, 225/50R19

มิติภายนอก

  • ความยาว 4,275 mm
  • ความกว้าง 1,800 mm
  • ความสูง 1,635 mm
  • ระยะฐานล้อ 2,700 mm

การออกแบบภายนอก

  • ใช้คอนเซปต์ “Emotional Versatile Cruiser” ซึ่งต้องการให้ e Vitara ดู ทันสมัย (modern EV look) แต่ยังคง DNA ความเป็น SUV ที่แข็งแรง
  • ออกแบบบนแพลตฟอร์มใหม่ Heartect-e ที่ทำมาเพื่อ BEV โดยเฉพาะ ทำให้สัดส่วนรถดูลงตัวกว่า Vitara รุ่นสันดาป
  • กระจังหน้าแบบ ปิดทึบเกือบทั้งหมด ตามสไตล์รถไฟฟ้า แต่ตกแต่งด้วยเส้นโครเมียมบาง + ลายกราฟิกเพื่อสร้างเอกลักษณ์
  • ไฟหน้า LED ทรงเรียวยาว พร้อม DRL แบบเส้น (Signature Light Bar) เชื่อมไฟซ้าย–ขวา เพิ่มความล้ำสมัย
  • กันชนหน้าดีไซน์บึกบึน ตกแต่งด้วยแถบสีดำด้าน (matte black) และไฟตัดหมอก LED ฝังในกรอบทรงตั้ง
  • เส้นสายตัวถังชัดเจน มี เส้น Shoulder Line พาดยาวตั้งแต่ไฟหน้าไปจนถึงไฟท้าย
  • ซุ้มล้อ (Wheel Arch) ตกแต่งด้วย พลาสติกสีดำด้าน ให้ความรู้สึก SUV ลุย ๆ
  • กระจกข้างพร้อมไฟเลี้ยวในตัว / กรอบหน้าต่างมีโครเมียมบางจุดเพิ่มความหรู
  • ล้ออัลลอย EV ลายใหม่ ขนาด 17–19 นิ้ว แล้วแต่รุ่นย่อย
  • ไฟท้าย LED ทรง C-shape หรือสี่เหลี่ยมคางหมู (ขึ้นอยู่กับเกรดตลาด)
  • มีแถบไฟเชื่อมกลาง (บางตลาดทำเป็นไฟ LED Strip ยาว)
  • กันชนท้ายออกแบบหนา พร้อมแผ่นกันกระแทกสีเงิน (Skid Plate Style)
  • โลโก้ SUZUKI และชื่อรุ่น e-Vitara แบบตัวอักษรใหม่

การออกแบบภายในห้องโดยสาร

  • เน้นความ เรียบง่าย (Minimalist) + ฟังก์ชันครบครัน
  • ใช้โทนสี ทูโทน (Two-tone) เช่น ดำ-เทา หรือดำ-น้ำตาล เพิ่มความหรูหรา
  • วัสดุเป็น Soft-touch ในหลายตำแหน่ง + พลาสติกคุณภาพสูงในจุดที่ต้องทนทาน
  • ดีไซน์แผงคอนโซลกว้างและ ดูลอยตัว (Floating Style)
  • หน้าจออินโฟเทนเมนต์กลาง (Floating Touchscreen) ขนาดใหญ่ (ประมาณ 12 นิ้ว) รองรับ Apple CarPlay / Android Auto แบบไร้สาย
  • มาตรวัดดิจิทัล (Digital Cluster) เต็มรูปแบบ พร้อมกราฟิก EV โดยเฉพาะ เช่น พลังงานที่ใช้, ระยะทางเหลือ, การชาร์จ ฯลฯ
  • ปุ่มกายภาพ (Physical Buttons) สำหรับแอร์ยังมีอยู่ ใต้ช่องแอร์กลาง → ทำให้ใช้ง่ายขณะขับ ไม่ต้องแตะจอทั้งหมด
  • แท่นชาร์จไร้สาย (Wireless Charging Pad) วางอยู่ใกล้คันเกียร์
  • พวงมาลัย สามก้าน (Three-spoke) แบบมัลติฟังก์ชัน
  • ตกแต่งด้วย โครเมียม / Piano Black ให้ความหรู
  • มี Paddle หรือปุ่มปรับ ระดับการหน่วง (Regenerative Braking) ในบางรุ่น
  • เบาะหุ้มด้วย ผ้า / หนังสังเคราะห์ / หนังแท้ (แล้วแต่เกรดและตลาด)
  • เบาะคู่หน้าออกแบบทรงสปอร์ตเล็กน้อย รองรับสรีระได้ดี
  • เบาะหลังสามารถ เลื่อนและพับแยก 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของ
  • ห้องโดยสารรองรับผู้โดยสารได้ 5 ที่นั่งเต็ม
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ + ช่องแอร์หลัง
  • ระบบไฟ Ambient Light ภายในห้องโดยสาร (บางตลาด)
  • ช่องเสียบ USB-C และ USB-A หลายตำแหน่ง
  • ระบบเสียง 6–8 ลำโพง (แล้วแต่รุ่นย่อย)
  • มี Heat Pump (บางตลาด EU/JP) ช่วยประหยัดพลังงานเมื่อใช้แอร์/ฮีตเตอร์
  • ความจุท้ายรถประมาณ 306–320 ลิตร
  • เมื่อพับเบาะหลังลงสามารถเพิ่มได้มากกว่า 1,000 ลิตร

ระบบความปลอดภัย

ระบบความปลอดภัยเชิงปกป้อง (Passive Safety)

  • ถุงลมนิรภัยรอบคัน อย่างน้อย 6 จุด (คู่หน้า, ด้านข้าง, ม่านนิรภัย, เข่าผู้ขับขี่ในบางตลาด)

  • โครงสร้างตัวถังใหม่ HEARTECT-e เพิ่มความแข็งแรงและซึมซับแรงกระแทก

    Advertisement Advertisement
  • เข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติ + เตือนคาดเข็มขัดทุกที่นั่ง

  • ISOFIX สำหรับเบาะนั่งเด็กด้านหลัง

ระบบช่วยควบคุมรถ (Active Safety)

  • ABS (Anti-lock Braking System) ป้องกันล้อล็อกขณะเบรก

  • EBD (Electronic Brake-force Distribution) กระจายแรงเบรกอัตโนมัติตามน้ำหนักบรรทุก

  • ESP (Electronic Stability Program) ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว

  • Traction Control System (TCS) ลดอาการล้อฟรี

  • Hill Hold Control ช่วยออกตัวบนทางชัน

  • Hill Descent Control (เฉพาะรุ่น AWD) สำหรับลงเขาอย่างปลอดภัย

เทคโนโลยีช่วยขับขั้นสูง (ADAS – Advanced Driver Assistance System)

Suzuki เรียกแพ็กเกจนี้ว่า Suzuki Safety Support

  • Adaptive Cruise Control (ACC) ควบคุมความเร็ว + ระยะห่างรถคันหน้าอัตโนมัติ

  • Lane Departure Warning & Lane Keeping Assist (LKA) แจ้งเตือนและประคองพวงมาลัยไม่ให้รถออกนอกเลน

  • Traffic Sign Recognition (TSR) อ่านป้ายจราจรและแสดงบนหน้าจอ

  • Forward Collision Mitigation / Automatic Emergency Braking (AEB) เบรกอัตโนมัติเมื่อเสี่ยงชน

  • Blind Spot Monitor (BSM) แจ้งเตือนเมื่อมีรถในจุดบอดด้านข้าง

  • Rear Cross Traffic Alert (RCTA) ช่วยถอยออกจากที่แคบ มีรถตัดหลังจะแจ้งเตือน

  • Driver Monitoring System ตรวจจับอาการเหนื่อยล้า/สมาธิลดลง

เทคโนโลยีขับเคลื่อน & ระบบ AWD (AllGrip-e)

  • โหมดการขับขี่ (Drive Modes) : Normal / Eco / Sport

  • รุ่น AWD มี AllGrip-e ควบคุมการส่งแรงบิดไฟฟ้าไปยังล้อทั้ง 4 โดยอัตโนมัติ

  • มี Trail Mode สำหรับถนนลื่นหรือทางขรุขระเบา ๆ → กระจายแรงบิดไปยังล้อที่เกาะถนนดีที่สุด

  • Regenerative Braking Control ให้เลือกปรับแรงหน่วงจากมอเตอร์ไฟฟ้า

เทคโนโลยีเสริมความสะดวก

  • กล้องมองรอบคัน 360 องศา (บางรุ่น)

  • Parking Sensors หน้า–หลัง

  • Auto High Beam ปรับไฟสูงอัตโนมัติ

  • Electronic Parking Brake + Auto Hold

Female trailrunner on rock

 

Advertisement Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้