Nissan พักการผลิต Ariya EV ในสหรัฐฯ: จุดเปลี่ยนกลยุทธ์ไฟฟ้า กับการกลับมาของ Leaf รุ่นใหม่
Nissan พักการผลิต Ariya EV ในสหรัฐฯ: จุดเปลี่ยนกลยุทธ์ไฟฟ้า กับการกลับมาของ Leaf รุ่นใหม่
หลังจากเปิดตัวในปี 2022 พร้อมความหวังว่าจะเป็น “เรือธง EV” ของค่าย Nissan ล่าสุด Ariya EV กลับต้องเจอกับชะตากรรมที่ไม่คาดคิด เมื่อบริษัทประกาศ “พักการผลิต” สำหรับตลาดสหรัฐฯ ตั้งแต่รุ่นปี 2026 เป็นต้นไป ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันทั้งจาก ภาษีนำเข้าใหม่, การหมดอายุเครดิตภาษี EV, และ ยอดขายที่ไม่ถึงเป้า ทำให้ Nissan ต้องเลือกเดินเกมใหม่ หันกลับมาโฟกัสที่ Leaf รุ่นใหม่ปี 2026 แทน
Nissan ยืนยัน “พักการผลิต Ariya”
ในบันทึกภายในที่ Automotive News ได้รับ มีข้อความว่า Nissan จะ “หยุดการผลิต Ariya สำหรับตลาดสหรัฐฯ ในปี 2026” เพื่อ จัดสรรทรัพยากร ไปยังโครงการอื่น โดยเฉพาะการเปิดตัว Leaf รุ่นใหม่ ซึ่งจะเป็น EV ที่ราคาถูกที่สุดในสหรัฐฯ
Nissan ยังได้ออกแถลงการณ์ย้ำว่า:
-
Ariya รุ่นปี 2026 จะไม่มีขายในสหรัฐฯ
-
สต๊อกที่เหลือยังคงจำหน่ายได้
-
บริการหลังการขาย อะไหล่ และการรับประกันยังคงให้การสนับสนุนเต็มที่
-
การตัดสินใจครั้งนี้ จำกัดเฉพาะตลาดสหรัฐฯ Ariya ยังมีบทบาทสำคัญในแผน EV ระดับโลก
ปัจจัยบีบให้ “Ariya” ไปไม่ต่อ
-
ภาษีนำเข้าใหม่ 15% – รถที่ผลิตจากญี่ปุ่นต้องเจอภาษีเพิ่มตามนโยบายของประธานาธิบดี Donald Trump ซึ่งกระทบ Ariya โดยตรง เพราะผลิตจากโรงงาน Tochigi ประเทศญี่ปุ่น
-
หมดสิทธิ์เครดิตภาษี EV $7,500 – ตั้งแต่ 30 กันยายน 2025 เป็นต้นไป Ariya จะไม่สามารถใช้สิทธิ์นี้ ทำให้ราคาสูงกว่าคู่แข่งที่ผลิตในสหรัฐฯ หรือเม็กซิโก
-
ยอดขายไม่ถึงเป้า – ปีที่ดีที่สุดคือ 2024 ที่มียอดไม่ถึง 20,000 คัน ต่ำกว่า Ford Mustang Mach-E, Hyundai Ioniq 5 และ Tesla Model Y หลายเท่าตัว
Ariya ความฝันที่สะดุดกลางทาง
แม้ Ariya จะได้รับคำชมเรื่องดีไซน์หรู เทคโนโลยีล้ำ และสมรรถนะที่นุ่มนวล แต่ด้วย ราคาที่สูงกว่า $40,000 และการส่งมอบล่าช้าในช่วงแรก ทำให้เสียลูกค้าไปจำนวนมาก
Nissan ตั้งใจให้ Ariya เป็นคู่แข่งตรงกับ Tesla Model Y แต่กลับไม่สามารถเจาะตลาดสหรัฐฯ ได้อย่างที่หวัง
Leaf รุ่นใหม่: “ไพ่ใบสำคัญ” ของ Nissan
Nissan ไม่ได้ทิ้ง EV แต่กลับเลือกหันมาทุ่มที่ Leaf รุ่นใหม่ปี 2026 ซึ่งมีราคาเริ่มต้นต่ำกว่า $30,000 (ราว 1.1 ล้านบาท) กลายเป็น EV ที่ถูกที่สุดในตลาดสหรัฐฯ เมื่อเข้าสู่ปี 2026
การเดินเกมนี้สะท้อนว่า Nissan กำลังปรับกลยุทธ์ไปสู่ ตลาด Mass EV ซึ่งเข้าถึงผู้บริโภควงกว้างมากกว่าการพยายามแข่งในตลาดพรีเมียมที่ Ariya อยู่
แนวโน้มอุตสาหกรรม: ไม่ใช่แค่ Nissan ที่ถอย
-
Ford และ GM ต่างก็ประกาศชะลอแผน EV เช่นกัน โดยหันกลับมาเน้น Hybrid และ Plug-in Hybrid (PHEV) เพราะตลาดยังไม่พร้อมสำหรับ EV ล้วน
-
สาเหตุหลักคือ ราคาแพง, โครงสร้างพื้นฐานชาร์จยังไม่ทั่วถึง, และ กำไรที่ยังไม่มั่นคง
นี่คือ “Reality Check” ของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า หลังจากช่วงบูมแรงในปี 2021–2023
