เปิดตัว TESLA Model Y Standard ราคา 1.29 ล้านบาทในสหรัฐฯ ตัดออฟชั่น หั่นราคาลง

Tesla Model 3 และ Model Y “Standard” ใหม่ ลดราคาแรงสุดในรอบปี แต่ก็มาพร้อมการ “ตัดของ” หนักที่สุดในประวัติศาสตร์เทสลา
“อยากได้ Tesla ราคาถูกลงไหม? ได้สิ… แต่ฟีเจอร์บางอย่างขอหายไปก่อนนะ
นี่คือสิ่งที่หลายคนพูดถึงในตอนนี้ หลัง Tesla เปิดตัว “รุ่น Standard” ใหม่สำหรับทั้ง Model 3 และ Model Y ถือเป็นการปรับโครงสร้างไลน์อัพครั้งใหญ่ที่สุดในปี 2025
Elon Musk เคยพูดมาหลายครั้งว่า “Tesla จะทำรถไฟฟ้าราคาย่อมเยาให้คนทั่วไปเข้าถึงได้” และวันนี้ รถรุ่นนั้นก็ถือกำเนิดขึ้นจริง — แต่แทนที่จะสร้างแรงสั่นสะเทือนแบบ Game Changer กลับกลายเป็น “เสียงไอค่อกแค่ก” เบาๆ ที่สะท้อนความจริงว่า ของถูก… ย่อมต้องแลกมาด้วยบางอย่างเสมอ
รุ่น | ราคา (USD) | ราคาไทยโดยประมาณ (1 USD = 32.47 บาท) |
---|---|---|
Model 3 Standard | 36,990 ดอลลาร์ | ≈ 1,201,365 บาท |
Model Y Standard | 39,990 ดอลลาร์ | ≈ 1,297,125 บาท |
เทียบกับรุ่นเดิม
-
Model 3 ถูกลงกว่า 5,500 ดอลลาร์ (≈ 178,585 บาท)
-
Model Y ถูกลงกว่า 5,000 ดอลลาร์ (≈ 162,350 บาท)
ถือเป็นการลดราคาครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ Model 3 เปิดตัวในปี 2017 และทำให้เทสลากลับมาอยู่ในระดับราคาที่ “จับต้องได้” อีกครั้ง — โดยเฉพาะถ้าวันหนึ่งมันถูกนำเข้าไทยในรูปแบบ CKD หรือผลิตในเอเชีย
เครื่องยนต์ไฟฟ้าแบบ RWD พร้อมแบตเตอรี่ขนาดย่อม
ทั้ง Model 3 และ Model Y รุ่น Standard ใช้มอเตอร์ขับล้อหลัง (RWD) เพียงตัวเดียวและติดตั้งแบตเตอรี่ขนาด 69 kWh ซึ่งมีโมดูลน้อยลงหนึ่งชุดจากรุ่น Premium (Long Range เดิม)
Model Y Standard
- ระยะทางวิ่ง (EPA): 321 ไมล์ ≈ 516 กิโลเมตร
- 0–100 กม./ชม.: 6.8 วินาที
- ความเร็วสูงสุด: 201 กม./ชม.
Model 3 Standard
- ระยะทางวิ่ง (EPA): 321 ไมล์ ≈ 516 กิโลเมตร
- 0–100 กม./ชม.: 5.8 วินาที
- ความเร็วสูงสุด: 201 กม./ชม.
แม้ตัวเลขสมรรถนะจะลดลงจากรุ่นเดิม แต่ก็ยังแรงพอจะ “ทิ้งท้ายกระบะดีเซลได้แบบไม่ต้องใช้โหมด Sport” ที่สำคัญยังคงขับสนุกในสไตล์เทสลา — คันเร่งตอบไว เงียบ และแรงบิดมาเต็มตั้งแต่ 0 รอบ
ฟีเจอร์ที่หายไป “ของหรูหลายอย่างถูกตัด”
เทสลาบีบต้นทุนด้วยการ “ตัดของออกแทบทุกจุดที่ไม่จำเป็นต่อการขับขี่” ซึ่งนี่คือสิ่งที่ถูกเปลี่ยนหรือหายไปในรุ่น Standard
ภายใน
-
เบาะหนังเทียมเปลี่ยนเป็น ผ้า Textile
-
เบาะหลังพับด้วยมือ (ไม่มีระบบไฟฟ้า)
-
ไม่มีระบบระบายอากาศที่เบาะหน้า และไม่มีระบบทำความร้อนที่เบาะหลัง
-
พวงมาลัยปรับมือ แทนที่ระบบปรับไฟฟ้า
ระบบความบันเทิง
-
ระบบเสียงลดเหลือ 7 ลำโพง (จาก 15 ลำโพง + Subwoofer)
-
ไม่มีจอหลัง สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
-
ตัดวิทยุ AM/FM ออก
-
ไม่มีฟิลเตอร์ HEPA และโหมด “Bioweapon Defense”
ระบบช่วยขับ
-
ไม่มี Autosteer (ช่วยเลี้ยวอัตโนมัติ)
-
กระจกข้าง พับมือ และ ไม่มีระบบตัดแสงอัตโนมัติ
ระบบตกแต่ง
-
ไม่มีไฟ Ambient Light
-
ระบบโช้กเปลี่ยนเป็น แบบธรรมดา (Passive)
-
ไม่มีระบบกันสะเทือนแบบ Frequency-dependent ที่ให้ความนุ่มหนึบปรับตามถนน
ทั้งหมดนี้ช่วยให้เทสลากดต้นทุนการผลิตได้มาก แต่ก็ทำให้รถรุ่น Standard ดูเรียบง่าย จนบางคนแซวว่า “ดูเหมือนรถให้เช่ามากกว่ารถไฟฟ้าแห่งอนาคต”
หลังคากระจก “ที่ยังอยู่ แต่ถูกซ่อน”
นี่คือเรื่องที่คนพูดถึงมากที่สุด — Model Y Standard ดูเหมือนจะไม่มีหลังคากระจกใส แต่จริงๆ แล้ว “กระจกยังอยู่ครบ!” เทสลาแค่ติด บุหลังคา (Headliner) ปิดทับไว้ เพื่อประหยัดต้นทุนและลดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร
พูดง่ายๆ คือ “ไม่ได้ถอดออก… แค่ซ่อนไว้เฉยๆ”
เทสลาบอกว่าการออกแบบแบบนี้ช่วยกันความร้อนและเสียงได้ดีขึ้น แต่แฟนเทสลาหลายคนกลับบ่นว่า “มันทำให้หายเสน่ห์ของ Model Y ไปครึ่งหนึ่ง”
ดีไซน์เรียบง่ายขึ้น สีตัวถังเหลือ 3 ตัวเลือก
เทสลายังปรับรายละเอียดภายนอกให้เรียบขึ้น ด้านหน้าถอดแถบไฟกลางออก บังโคลนดีไซน์ใหม่ พร้อมล้อขนาด 18 นิ้ว (มาตรฐาน) และ 19 นิ้ว (ออปชัน)
สีตัวถังมีให้เลือกเพียง 3 สี
-
Stealth Grey (ฟรี)
-
Pearl White (+1,000 ดอลลาร์ ≈ 32,470 บาท)
-
Diamond Black (+1,500 ดอลลาร์ ≈ 48,705 บาท)
ถือเป็นการจำกัดทางเลือกเพื่อลดขั้นตอนการผลิตในไลน์โรงงาน Fremont และ Shanghai
ยังมีจอกลาง 15.4 นิ้ว เหมือนเดิม
แม้จะตัดหลายอย่างออก แต่เทสลายังคง “หัวใจสำคัญของแบรนด์” เอาไว้ — นั่นคือ จอสัมผัสขนาดใหญ่ 15.4 นิ้ว ที่ควบคุมทุกอย่างในรถ ตั้งแต่ความเร็ว ลมแอร์ ไปจนถึงที่ปัดน้ำฝน ยังคงรูปแบบ “พวงมาลัยไร้คันเกียร์” เหมือนเดิม และอินเทอร์เฟซภายในก็ยังคงล้ำแบบมินิมอล
“Tesla Standard” กับยุทธศาสตร์กดราคาสู้จีน
ตลาดรถ EV ทั่วโลกตอนนี้กำลังดุเดือด — ค่ายจีนอย่าง BYD, XPeng, Zeekr และ Leapmotor เดินเกมรุกหนัก ด้วยรถราคาถูกลงทุกเดือน เทสลาจึงต้องออก “รุ่น Standard” เพื่อรักษาฐานลูกค้ากลุ่มกลางไว้ โดยเฉพาะในตลาดอเมริกาและยุโรปที่ยอดขายเริ่มชะลอตัว แม้จะเสียฟีเจอร์บางอย่าง แต่สิ่งที่ได้คือ จุดขายด้านราคาและภาพลักษณ์แบรนด์ที่ยังเหนือกว่า
TESLA MODEL 3 Standard