ปี 2022 ย้อนตำนาน Range Rover Sport ภารกิจไต่ Spillway เขื่อนยักษ์ยุโรป สุดโหด ที่ไอซ์แลนด์

ปี 2022 ย้อนตำนาน Range Rover Sport ภารกิจไต่ Spillway เขื่อนยักษ์ยุโรป สุดโหด ที่ไอซ์แลนด์
Spread the love
Advertisement Advertisement

Range Rover Sport เปิดตัวพร้อมการทดสอบสุดโหด ไต่ Spillway กลางสายน้ำเชี่ยวในไอซ์แลนด์

Range Rover Sport เจเนอเรชันที่ 3 เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการโชว์สมรรถนะสุดท้าทายบนสปิลล์เวย์เขื่อนยักษ์ในประเทศไอซ์แลนด์ แสดงให้เห็นถึงพลัง ความแม่นยำ และเทคโนโลยีการควบคุมที่ล้ำสมัยที่สุดของรถ SUV หรูสายสปอร์ต ก่อนเริ่มจำหน่ายทั่วโลกอย่างเป็นทางการ

ไฮไลต์สำคัญ

  • ภารกิจไต่สปิลล์เวย์เขื่อน Karahnjukar ท่ามกลางสายน้ำ 750 ตัน/นาที
  • ผู้ขับคือ Jessica Hawkins สตันท์จากภาพยนตร์ James Bond
  • แพลตฟอร์มใหม่ MLA-Flex แข็งแกร่งกว่าเดิม
  • ช่วงล่าง Dynamic Air Suspension + Stormer Handling Pack
  • เครื่องยนต์ PHEV วิ่งไฟฟ้าล้วนไกล 113 กม.
  • V8 Twin Turbo 530PS แรงระดับสปอร์ตคาร์
  • ดีไซน์ใหม่ Modernist ทั้งภายนอก–ภายใน
  • เทคโนโลยีอัปเดต OTA ได้ 63 โมดูล

Advertisement Advertisement

ภารกิจระดับโลก Spillway Challenge ที่ไม่มีใครกล้าทำมาก่อน ท้าทายธรรมชาติบนเขื่อน Karahnjukar

หนึ่งในฉากเปิดตัวที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคือการไต่ขึ้นสปิลล์เวย์ยักษ์ของเขื่อน Karahnjukar ประเทศไอซ์แลนด์ ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในสปิลล์เวย์ที่อันตรายที่สุดในโลก เพราะมี

  • ความยาวกว่า 294 เมตร

  • องศาความชันระดับทดสอบระบบยึดเกาะ

  • กระแสน้ำไหลลงด้วยอัตรา 750 ตันต่อนาที

พื้นผิวคอนกรีตที่เปียกลื่น บวกกับแรงลงจากน้ำปริมาณมหาศาล ทำให้โอกาส “ไถลตกข้าง” มีทุกวินาที อย่างไรก็ตาม New Range Rover Sport สามารถไต่ขึ้นจนถึงปลายสปิลล์เวย์ได้สำเร็จ เป็นภาพที่ยืนยันว่าระบบช่วงล่างและการยึดเกาะของรถรุ่นนี้เหนือระดับจริง

Jessica Hawkins: จากจอเงินสู่ภารกิจจริง

การทดสอบครั้งนี้ขับโดย Jessica Hawkins สตันท์และนักแข่งสาวจากภาพยนตร์ James Bond – No Time To Die
เธอกล่าวว่า:

“เป็นหนึ่งในโจทย์ที่โหดที่สุดที่เคยเจอ แต่ความนิ่งและการควบคุมของรถทำให้ฉันมั่นใจในทุกจังหวะ”

ก่อนถึงสปิลล์เวย์ ตัวรถต้องผ่านอุปสรรคอีกหลายรูปแบบ ได้แก่

  • ลุยน้ำท่วมระดับลึก

  • ไต่ผนังเขื่อนมุมชันกว่า 40 องศา

  • ผ่านอุโมงค์ชื้นและมืด

  • เร่งขึ้นช่วงสุดท้ายทวนแรงน้ำอันมหาศาล

ทุกช่วงทดสอบคือการยืนยันสมรรถนะของระบบควบคุมใหม่ของ Range Rover Sport อย่างแท้จริง

แพลตฟอร์ม MLA-Flex โครงสร้างใหม่ที่ยกระดับความแข็งแกร่ง

แพลตฟอร์มใหม่ MLA-Flex (Modular Longitudinal Architecture) ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกใน Range Rover Sport เจเนอเรชันนี้
ข้อดีคือ

  • ความแข็งแกร่งของโครงสร้างเพิ่มขึ้น

  • ลดการสั่นสะเทือน (NVH ต่ำกว่าเดิม)

  • รองรับทั้งเครื่องยนต์สันดาป Mild Hybrid, PHEV และ BEV

โครงสร้างนี้คือ “รากฐานสำคัญ” ที่ช่วยให้ช่วงล่างทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และทำให้รถมีความนิ่งแม้เจอแรงสะเทือนหนัก ๆ

ระบบช่วงล่างและสมรรถนะ ไฮไลต์ที่ทำให้รถคันนี้โดดเด่นที่สุด Dynamic Air Suspension รุ่นใหม่

ช่วงล่างถุงลมแบบเปลี่ยนปริมาตรได้ (Switchable-Volume Air Springs)

  • โหมด Comfort ให้ความนุ่ม แน่น เงียบ

  • โหมด Dynamic แข็ง–นิ่ง–เกาะ–คม

  • ปรับระดับความสูงตัวรถอัตโนมัติ

ให้ความรู้สึกทั้งหรูและสปอร์ตในคันเดียว

Stormer Handling Pack คำตอบของการเข้าโค้งระดับรถสปอร์ต

ชุดนี้ประกอบด้วย

  • All-Wheel Steering ล้อหลังเลี้ยวช่วยเพิ่มความคล่องตัวในเมือง และนิ่งขึ้นที่ความเร็วสูง
  • Dynamic Response Pro (ระบบกันโคลงไฟฟ้า 48V) ต้านแรงโคลงสูงสุด 1,400 Nm ลดการโยนตัวขณะเข้าโค้งแรง
  • Active Locking Differential คุมแรงบิดให้เหมาะสมในทุกสภาพถนน
  • Torque Vectoring by Braking ช่วยให้รถเลี้ยวเฉียบแม่นยำขึ้น โดยเฉพาะบนถนนเปียก ทั้งหมดควบคุมโดยระบบ Integrated Chassis Control ที่ทำงานร่วมกับ GPS และข้อมูลถนน eHorizon เพื่อเตรียมรถล่วงหน้าก่อนถึงโค้งหรือพื้นผิวเสีย

ขุมพลังหลากหลาย จากประหยัดถึงโหดสุด

ปลั๊กอินไฮบริด Extended Range (PHEV)

  • 510 PS

  • วิ่งไฟฟ้าล้วนได้ สูงสุด 113 กม. WLTP

  • ปล่อย CO₂ ต่ำสุดเพียง 18 g/km

ตอบโจทย์ทั้งความประหยัดและแรงดึงระดับสปอร์ต

ขุมพลัง Mild Hybrid (6 สูบ Ingenium) V8 Twin Turbo 530PS ตัวท็อปสายโหด

  • 0–100 กม./ชม. ภายในราว 4.5 วินาที

  • ระบบ Dynamic Launch ทำเวลา 0–60 mph เหลือเพียง 4.3 วินาที

เป็น Range Rover Sport ที่แรงที่สุดเท่าที่เคยผลิต

รุ่นไฟฟ้าล้วน (EV) กำลังจะตามมา

Land Rover ยืนยันว่าเวอร์ชัน BEV จะเปิดตัวให้เห็นในอนาคตอันใกล้ ใช้แพลตฟอร์ม MLA-Flex เช่นเดียวกัน

ดีไซน์ภายนอก Modernist Design หรูแต่ดุดัน

  • เส้นตัวถังคม ชัด สไตล์สปอร์ต

  • กระจังหน้าทรงใหม่ ลดขนาด เพิ่มความมินิมัล

  • ไฟท้ายแนวนอนแบบใหม่

  • ซุ้มล้อใหญ่พร้อมล้อขนาด 21”–23”

ภาพรวมคือความหรูแบบ Range Rover ผสมความขึงขังแบบรถสมรรถนะสูงได้ลงตัวมาก

ดีไซน์ภายใน ห้องโดยสารแบบสปอร์ต–หรูเฉพาะตัว

  • ตำแหน่งขับ Command Driving Position

  • จอสัมผัส Pivi Pro 13.1 นิ้ว

  • มาตรวัดดิจิทัล 13.7 นิ้ว

เทคโนโลยีความสบายระดับพรีเมียม

  • ระบบเสียง Meridian Signature 29 ลำโพง

  • ลำโพงในหมอนรองศีรษะ

  • Active Noise Cancellation

  • ระบบฟอกอากาศ Cabin Air Purification Pro

สไตล์หรูสงบแบบ Range Rover แต่คมเฉียบแบบ Sport

เทคโนโลยีดิจิทัลและความปลอดภัย

แพลตฟอร์ม EVA 2.0 + OTA สูงสุด 63 โมดูล ระบบอัปเดตซอฟต์แวร์ผ่านคลาวด์ ทำให้รถพัฒนาได้ตลอดอายุการใช้งาน

ระบบช่วยขับขั้นสูง

  • Adaptive Off-Road Cruise Control

  • กล้องรอบคัน 3D

  • ระบบช่วยจอด

  • ระบบนำทางอัจฉริยะ eHorizon

ช่วยให้การขับทั้งบนถนนและออฟโรดง่ายขึ้นมาก

การผลิตและการวางจำหน่าย

New Range Rover Sport ถูกผลิตที่โรงงาน Solihull สหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นบ้านเดิมของตระกูล Range Rover ทุกเจเนอเรชัน รถพร้อมเปิดจองแล้วในหลายประเทศ สามารถคอนฟิกออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ Land Rover ได้โดยตรง พร้อมชมวิดีโอภารกิจ Spillway บน YouTube ทางการของแบรนด์

Advertisement Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้