เปิดตัว BYD ATTO 2 DM-i Super Hybrid ในยุโรป วิ่งได้ 1,000 กม./ถังน้ำมัน
BYD ATTO 2 DM-i Super Hybrid “ไม่ใช่แค่รถยนต์ แต่มันคือ BYD” คอมแพกต์ SUV รุ่นใหม่ที่เปลี่ยนเกมเรื่องแรง ประหยัด และระยะทาง
BYD ATTO 2 DM-i คือคอมแพกต์ SUV พลังงานทางเลือกรุ่นใหม่สำหรับตลาดยุโรป มาพร้อมเทคโนโลยี Super Hybrid with DM-i ที่พัฒนาต่อยอดจากรุ่นเรือธงทั้ง SEAL U DM-i และ SEAL 6 DM-i ให้ฟีลลิ่งการขับขี่แบบรถไฟฟ้า 100% ผสานความอุ่นใจของระบบไฮบริด ด้วยอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยเพียง 1.8 ลิตร/100 กม. หรือ 55.5 กม./ลิตร และระยะทางรวมสูงสุด 1,000 กม. ต่อการชาร์จและเติมน้ำมันหนึ่งครั้ง
BYD ต้องการสื่ออย่างชัดเจนว่า “It’s not a car, it’s a BYD.” และ ATTO 2 DM-i ก็คือหนึ่งในตัวแทนสำคัญที่สะท้อนแนวคิดนี้ ด้วยการรวมข้อดีของรถไฟฟ้า รถไฮบริด และรถเครื่องยนต์สันดาปเข้าไว้ในคันเดียว ทั้งประสบการณ์ขับขี่แบบ EV ค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิงต่ำ และเทคโนโลยีล้ำสมัยรอบคัน
ไฮไลต์จุดเด่น BYD ATTO 2 DM-i
- ประสบการณ์ขับขี่แบบรถไฟฟ้า 100% – แรงเงียบ ตอบสนองฉับไว
- วิ่งโหมดไฟฟ้าล้วนได้สูงสุด 90 กม. (รุ่น Boost)
- อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยเพียง 1.8 ลิตร/100 กม. ลดต้นทุนเชื้อเพลิงอย่างชัดเจน
- ระยะทางรวมสูงสุด 1,000 กม. ต่อการชาร์จ + เติมน้ำมันหนึ่งครั้ง
- ระบบสั่งงานเสียง “Hi BYD” ใช้ AI และ Large Language Model ฉลาดกว่าคำสั่งเสียงทั่วไป
- ระบบความปลอดภัยและ ADAS ครบชุด รองรับมาตรฐานยุโรป
ดีไซน์ภายนอก BYD ATTO 2 DM-i คอมแพกต์ SUV ที่ดูบึกบึนและทันสมัย
BYD ATTO 2 DM-i ยังคงคาแรกเตอร์แบบ SUV เต็มตัว แม้ตัวรถจะมีมิติกะทัดรัด แต่ให้ภาพลักษณ์ที่ดุดัน มั่นคง และคล่องตัวในเมือง
มิติตัวถัง
- ความยาว 4,330 มม. (ยาวกว่า ATTO 2 EV ประมาณ 20 มม.)
- ความกว้าง 1,830 มม.
- ความสูง 1,675 มม.
- ระยะฐานล้อ 2,620 มม. – ช่วยเพิ่มพื้นที่และความโปร่งในห้องโดยสาร
ดีไซน์ด้านหน้า
- ไฟหน้า Full LED พร้อมเส้น Daytime Running Light ดีไซน์คมชัด
- กันชนหน้าทรงเหลี่ยมคม เพิ่มความสปอร์ตและปราดเปรียว
- ช่องลมแนวตั้ง (Air Curtain) ช่วยลดแรงต้านลมและเพิ่มประสิทธิภาพ
- กระจังหน้าขนาดใหญ่ดีไซน์ใหม่ในรุ่น DM-i แตกต่างจากเวอร์ชันไฟฟ้าล้วน
ดีไซน์ด้านข้าง
- เส้นสายตัวถังโค้งมนผสมสันเหลี่ยม ให้มิติรถดูกระชับแต่ทรงพลัง
- หลังคาแบบ “Floating Roof” ให้ความรู้สึกลอยตัวทันสมัย
- ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 16 นิ้ว (Active) และ 17 นิ้ว (Boost)
- การ์ดกันกระแทกด้านล่างตัวถังเพิ่มอารมณ์รถลุย
ดีไซน์ด้านท้าย
- สปอยเลอร์หลังทรงสปอร์ต
- ไฟท้ายลาย “Chinese Knot” คล้ายเลข 8 และสัญลักษณ์ Infinity สื่อถึงความมงคลและไม่สิ้นสุด
- ไฟท้ายแบบคาดยาวเต็มความกว้างตัวรถ (Full-width Light Bar)
- กันชนท้ายทรงหนา ให้ภาพลักษณ์มั่นคง
สำหรับสีตัวถัง ATTO 2 DM-i มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี โดยจะมีสี Midnight Blue เป็นสีพิเศษเฉพาะรุ่น Super Hybrid อีกด้วย
หัวใจสำคัญ เทคโนโลยี Super Hybrid with DM-i
Super Hybrid with DM-i คือเทคโนโลยีที่ทำให้ BYD สามารถขึ้นมาเป็นผู้นำในตลาดปลั๊กอินไฮบริดทั้งในจีนและยุโรป เพราะออกแบบให้รถทำงานเหมือน EV ก่อนเป็นอันดับแรก และใช้เครื่องยนต์เป็นตัวช่วยให้วิ่งไกลและประหยัดมากขึ้น
องค์ประกอบหลักของระบบ Super Hybrid with DM-i
- เครื่องยนต์ BYD Xiaoyun ขนาด 1.5 ลิตร พร้อมประสิทธิภาพความร้อนสูงถึง 43.04%
- แบตเตอรี่ Blade Battery ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัยและความทนทาน
- มอเตอร์ไฟฟ้าความเร็วสูงคู่ พร้อมชุดควบคุมกำลังไฟฟ้ารวมในตัว
- ระบบควบคุมอัจฉริยะ DM-i ที่บริหารพลังงานทั้งจากแบตเตอรี่และเครื่องยนต์เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
โหมดการทำงานหลักของระบบ
1) EV Mode
ในสถานการณ์ส่วนใหญ่ ATTO 2 DM-i จะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก ทำให้ได้ฟีลลิ่งการขับขี่แบบรถไฟฟ้าเต็มตัว ทั้งความเงียบ นุ่มนวล และการตอบสนองทันใจ
2) HEV Mode
เมื่อแบตเตอรี่ลดลงหรือใช้ความเร็วสูงต่อเนื่อง เครื่องยนต์จะทำหน้าที่เป็น Generator ปั่นไฟส่งให้มอเตอร์และแบตเตอรี่ โดยที่ล้อส่วนใหญ่ยังหมุนด้วยแรงจากมอเตอร์ ทำให้ยังคงความรู้สึกเหมือน EV แต่มีความอุ่นใจของการใช้น้ำมันได้
เมื่อผู้ขับต้องการอัตราเร่งสูง ระบบจะเปลี่ยนเป็นโหมดที่เครื่องยนต์และมอเตอร์ทำงานร่วมกันแบบ Parallel ให้กำลังเต็มที่สำหรับการเร่งแซงหรือขึ้นทางชัน
ผลลัพธ์ที่ได้คือ
- อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยต่ำสุดในคลาสเพียง 1.8 ลิตร/100 กม.
- ระยะทางรวมสูงสุด 1,000 กม. (ชาร์จเต็ม + เติมน้ำมันเต็มถัง)
- ฟีลลิ่งการขับขี่เหมือนรถไฟฟ้า แม้จะใช้งานโหมดไฮบริด
สองรุ่นย่อย BYD ATTO 2 DM-i Active และ Boost
BYD ATTO 2 DM-i Active – ตัวเลือกคุ้มค่า
- กำลังรวมสูงสุด 166 PS (122 kW)
- แบตเตอรี่ความจุ 7.8 kWh
- ระยะทางโหมดไฟฟ้าล้วน (EV) สูงสุด 40 กม. (มาตรฐาน WLTP)
- ระยะทางรวมสูงสุด 930 กม.
- เหมาะสำหรับคนที่ต้องการปลั๊กอินไฮบริดคุ้มค่า ใช้ไฟฟ้าในชีวิตประจำวัน และมีเครื่องยนต์สำรองเมื่อเดินทางไกล
BYD ATTO 2 DM-i Boost – ตัวท็อป จัดเต็มทั้งแรงและความล้ำ
- กำลังรวมสูงสุด 212 PS (156 kW)
- อัตราเร่ง 0–100 กม./ชม. เพียง 7.5 วินาที
- แบตเตอรี่ความจุ 18 kWh
- ระยะทางโหมดไฟฟ้าล้วนสูงสุด 90 กม. (WLTP)
- ระยะทางรวมสูงสุด 1,000 กม.
- ชาร์จ AC ขนาด 6.6 kW จาก 15–100% ภายในประมาณ 3 ชั่วโมง (เมื่อใช้จุดชาร์จ 32A แบบสามเฟส)
- รองรับฟังก์ชัน Vehicle to Load (V2L) จ่ายไฟให้เครื่องใช้ไฟฟ้าภายนอกได้สูงสุด 3.3 kW
สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความแรง วิ่งไกล ใช้งานโหมด EV ได้มาก และอยากได้เทคโนโลยีจัดเต็มในคันเดียว รุ่น Boost ถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์อย่างมาก
ห้องโดยสาร BYD ATTO 2 DM-i พรีเมียม โปร่งสบาย และอัดแน่นด้วยเทคโนโลยี
ดีไซน์ห้องโดยสารของ ATTO 2 DM-i เน้นความเรียบหรูทันสมัย พร้อมจัดวางอุปกรณ์ให้ใช้งานง่าย วัสดุและงานประกอบถูกปรับให้มีความรู้สึกพรีเมียมมากกว่ารถในกลุ่มคอมแพกต์ทั่วไป
- หน้าจอเรือนไมล์ดิจิทัล 8.8 นิ้ว แสดงข้อมูลสำคัญชัดเจน
- หน้าจอกลางแบบทัชสกรีนขนาด 12.8 นิ้ว รองรับคำสั่งแบบ Multi-finger และการควบคุมระบบปรับอากาศผ่านจอ
- ระบบสั่งงานด้วยเสียง “Hi BYD” ที่ใช้เทคโนโลยี Generative AI และ Large Language Model
- คอนโซลกลางออกแบบให้ใช้งานง่าย มีช่องเก็บของและที่วางแก้วหลายจุด
- พื้นห้องโดยสารด้านหลังแบบ Flat Floor นั่งสบายได้จริงทั้ง 3 ตำแหน่ง
- เบาะคู่หน้าดีไซน์ใหม่ พร้อมพนักพิงศีรษะปรับได้
- รุ่น Boost มาพร้อมหลังคา Panoramic Glass Roof เพิ่มความโปร่งโล่ง
พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้าย
- ความจุพื้นฐาน 425 ลิตร
- เมื่อพับเบาะหลังแบบแยกพับ ความจุเพิ่มขึ้นเป็น 1,335 ลิตร
อุปกรณ์มาตรฐาน Active และ Boost ให้ความคุ้มค่าคนละแบบ
อุปกรณ์หลักในรุ่น BYD ATTO 2 DM-i Active
- สีตัวถังแบบเมทัลลิกเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
- ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว
- ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED
- กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า
- ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ
- หน้าจอเรือนไมล์ 8.8 นิ้ว + จอกลาง 12.8 นิ้ว
- ช่องชาร์จ USB Type-C 4 ตำแหน่ง
- เซนเซอร์ถอยหลัง + กล้องมองหลัง
- ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control)
- กุญแจอัจฉริยะ รองรับการปลดล็อกผ่านสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์สวมใส่
อุปกรณ์ที่เพิ่มในรุ่น BYD ATTO 2 DM-i Boost
- ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว
- เซนเซอร์หน้า + กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา
- เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้าพร้อมระบบอุ่นเบาะ
- พวงมาลัยพร้อมระบบทำความร้อน
- กระจกบังลมหลังแบบ Privacy Glass
- หลังคา Panoramic พร้อมม่านบังแดดไฟฟ้า
- แท่นชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สาย (Wireless Charging) กำลังสูงสุด 50W
- ระบบ Vehicle to Load (V2L) จ่ายไฟภายนอกได้สูงสุด 3.3 kW
ความปลอดภัยและระบบช่วยขับ (ADAS) ครบถ้วน
BYD ATTO 2 DM-i ถูกออกแบบให้ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงของยุโรป จึงมาพร้อมทั้งระบบป้องกันเชิงรับ (Passive Safety) และระบบช่วยขับ (Active Safety / ADAS) อย่างครบถ้วน
ระบบความปลอดภัยสำคัญ
- ถุงลมนิรภัยด้านหน้า
- ถุงลมนิรภัยด้านข้าง
- ถุงลมนิรภัยม่านด้านข้างตลอดแนว
ระบบช่วยขับและ ADAS
- Driver Monitoring System (DMS)
- Adaptive / Intelligent Cruise Control (ACC/ICC)
- Intelligent Speed Limit Control
- Emergency Lane Keep Assist
- Lane Departure Assist (LDA)
- Blind Spot Detection (BSD)
- Door Opening Warning (DOW)
- Traffic Sign Recognition (TSR)
- Automatic Emergency Braking (AEB)
- Traction Control System
- Hill Descent Control
- Forward & Rear Collision Warning (FCW, RCW)
- Rear Cross Traffic Alert (RCTA) และ Rear Cross Traffic Brake (RTCB)
กำหนดการวางจำหน่ายและการรับประกัน BYD ATTO 2 DM-i
BYD ATTO 2 DM-i เตรียมวางจำหน่ายในประเทศต่าง ๆ ในยุโรปช่วงต้นปี 2026 โดยราคาจะประกาศในแต่ละตลาดในภายหลัง ทั้งนี้รถจะมาพร้อมแพ็กเกจรับประกันที่ครอบคลุมตามมาตรฐานของ BYD ในยุโรป
- รับประกันคุณภาพตัวรถ 6 ปี
- รับประกันระบบขับเคลื่อนและแบตเตอรี่ 8 ปี
ทำไม BYD ATTO 2 DM-i จึงเป็นคอมแพกต์ SUV ที่ “ต่างจากรถคันอื่น”
BYD ATTO 2 DM-i ไม่ได้เป็นเพียงรถปลั๊กอินไฮบริดธรรมดา แต่เป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ผู้ใช้สามารถก้าวเข้าสู่โลกของรถไฟฟ้าได้อย่างมั่นใจมากขึ้น โดยไม่ต้องกังวลเรื่องระยะทางหรือโครงสร้างชาร์จไฟ
- ขับขี่ด้วยฟีลลิ่งแบบ EV แต่มีเครื่องยนต์สำรอง
- ประหยัดเชื้อเพลิงในระดับ 1.8 ลิตร/100 กม. ที่คู่แข่งยากจะเทียบ
- รองรับการเดินทางไกลถึง 1,000 กม. ต่อการเติมและชาร์จหนึ่งครั้ง
- ห้องโดยสารคุณภาพดี พื้นที่ใช้สอยคุ้มค่า พร้อมเทคโนโลยี AI ช่วยขับและช่วยคิด
- ระบบความปลอดภัยและ ADAS ครบเครื่อง รองรับมาตรฐานยุโรป
สำหรับคนที่ต้องการรถคอมแพกต์ SUV ที่ขับสนุก ประหยัด วิ่งไกล และ “ล้ำ” กว่ารถทั่วไป BYD ATTO 2 DM-i คือหนึ่งในตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม และอาจเป็นโมเดลที่พิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า “มันไม่ใช่แค่รถยนต์ แต่มันคือ BYD”
