Chery เร่งปักธงอาเซียน ทุ่ม 800 ล้านดอลลาร์ สร้างโรงงานเวียดนามใหญ่สุดในภูมิภาคอาเซียน เสริมเกมรุกคู่โรงงานไทย

ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่จากประเทศจีน เดินหน้ากลยุทธ์ขยายฐานการผลิตในภูมิภาคอาเซียนอย่างจริงจัง หลังมีรายงานว่า บริษัทเตรียมก่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์แห่งใหม่ในประเทศเวียดนาม ซึ่งจะกลายเป็นโรงงานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของ Chery ในอาเซียน และมีบทบาทสำคัญควบคู่ไปกับฐานการผลิตในประเทศไทย

โรงงานเวียดนาม ลงทุน 800 ล้านดอลลาร์ กำลังผลิตสูงสุด 2 แสนคันต่อปี

โรงงานแห่งใหม่ของ Chery จะตั้งอยู่ที่จังหวัดฮึงเอียน ประเทศเวียดนาม ใช้งบลงทุนรวมประมาณ 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 24,864 ล้านบาท โดยเมื่อเดินเครื่องเต็มกำลัง จะมีกำลังการผลิตสูงสุดถึง 200,000 คันต่อปี

การก่อสร้างและขยายกำลังการผลิตจะดำเนินการเป็นขั้นตอน ได้แก่

• ระยะแรก: กำลังการผลิตประมาณ 30,000–60,000 คันต่อปี
• ระยะกลาง: เพิ่มกำลังการผลิตตามการเติบโตของตลาด
• เป้าหมายปี 2030: กำลังการผลิตเต็มพิกัด 200,000 คันต่อปี

เป้าหมายใหญ่ ขึ้น Top 3 ตลาดรถยนต์เวียดนามใน 5 ปี

Chery วางเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ที่ชัดเจน โดยตั้งเป้า ภายใน 5 ปี จะก้าวขึ้นเป็นแบรนด์รถยนต์อันดับ 3 ในตลาดเวียดนาม  เพื่อสนับสนุนเป้าหมายดังกล่าว Chery เตรียมเปิดตัวรถยนต์ใหม่จำนวนมาก โดยในปี 2026 เพียงปีเดียว จะเปิดตัวรถใหม่ถึง 16 รุ่น ครอบคลุมหลายเซกเมนต์ และตั้งเป้ายอดขายขั้นต่ำ ไม่น้อยกว่า 10,000 คันต่อปี ในช่วงเริ่มต้น

Omoda & Jaecoo หัวหอกตลาดอาเซียน ครบ ICE / Hybrid / EV

ในเชิงแบรนด์ Chery จะใช้กลยุทธ์ “แบรนด์เฉพาะตลาด” โดยผลักดัน Omoda & Jaecoo เป็นแบรนด์หลักในเวียดนามและอาเซียน ครอบคลุมไลน์อัป

• รถยนต์เครื่องยนต์สันดาป (ICE)
• รถยนต์ไฮบริด (HEV / PHEV)
• รถยนต์ไฟฟ้า 100% (BEV)

แนวทางดังกล่าวช่วยให้ Chery สามารถตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคในแต่ละประเทศ ซึ่งยังอยู่ในช่วง “เปลี่ยนผ่านพลังงาน” ไม่ได้พึ่งพารถยนต์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว

ขยายดีลเลอร์เวียดนาม ควบคู่ฐานการผลิต

นอกจากการลงทุนด้านโรงงาน Chery ยังเดินหน้าขยายเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายในเวียดนาม จากเดิม 40 แห่ง เพิ่มเป็น 75 แห่ง เพื่อเพิ่มการเข้าถึงลูกค้า เสริมความแข็งแกร่งด้านบริการหลังการขาย และสร้างความเชื่อมั่นในระยะยาว

บทบาทของ “โรงงานไทย” ในแผนยุทธศาสตร์อาเซียน

แม้เวียดนามจะเป็นโรงงานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอาเซียนของ Chery แต่ ประเทศไทยยังคงเป็นฐานการผลิตเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญ โดยเฉพาะในบทบาทของ

• ศูนย์การผลิตเพื่อส่งออกไปยังอาเซียนตอนใต้
• ฐานการประกอบรถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริดสำหรับตลาดพวงมาลัยขวา
• ศูนย์โลจิสติกส์และซัพพลายเชนในภูมิภาค

โรงงานไทยและโรงงานเวียดนามจะทำงานในลักษณะ “Complementary Strategy” คือเสริมกันมากกว่าทับซ้อนกัน โดยไทยเน้นบทบาทการผลิตเชิงเทคนิคและการส่งออก ขณะที่เวียดนามเน้นปริมาณและตลาดภายในประเทศ

สรุป Chery กำลังสร้างโครงข่ายการผลิตอาเซียนเต็มรูปแบบ

การลงทุนในเวียดนามมูลค่ากว่า 24,864 ล้านบาท ไม่ได้เป็นเพียงการสร้างโรงงานใหม่ แต่เป็นการประกาศจุดยืนของ Chery ในฐานะผู้เล่นระดับภูมิภาคอย่างแท้จริง เมื่อผสานกับฐานการผลิตในประเทศไทย จะทำให้ Chery มีโครงสร้างการผลิตอาเซียนที่ครบวงจร พร้อมแข่งขันกับแบรนด์ญี่ปุ่นและผู้ผลิตท้องถิ่นในระยะยาว