
เครดิตภาพ Carsguide.com.au
ล่าสุดได้มีการทดสอบกระบะพลังงานใหม่ NEV ของแบรนด์ BYD ดูเหมือนว่าจะมีรายละเอียด ให้เห็นบางส่วนอย่างไฟหน้าแบบแยกส่วน และ แถบไฟวิ่งกลางวันแบบ LED กระจังหน้าออกแบบใหม่ ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ยาง 265/65 R18 และ พอร์ตชาร์จบริเวณด้านข้างกระบะท้าย
นอกจากนี้ยังมีภาพไฟท้ายแบบ Through-type คาดว่าจะมีการเชื่อมไฟทั้งสองฝั่งเข้าด้วยกันอย่างลงตัวเหมือนรถยนต์ BYD รุ่นอื่นๆ
BYD จะเปิดตัวกระบะภายในปี 2023 เบื้องต้น อาจเป็นกระบะรุ่นแรกของแบรนด์ที่มาพร้อมระบบปลั๊กอินไฮบริด PHEV และ ไฟฟ้าล้วน BEV ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น
Wang Chuanfu ประธานและประธานบริษัท BYD กล่าวว่า ในปี 2023 ประเทศจีน พวกเขาจะเปิดตัวแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าใหม่ 2 แบรนด์หนึ่งในนั้นจะใช้ชื่อ Yangwang และ อีกแบรนด์จะเป็นรถยนต์ในกลุ่ม Professional และ Personalized ครอบคลุมทั้งรถครอบครัวและรถหรู (ตอนนี้ยังไม่ระบุชัดเจนว่าจะเป็นกลุ่นไหน แต่คาดว่าคือกระบะ หรือไม่ก็ SUV)
ปัจจุบัน Dynasty และ Ocean เป็นสองซีรี่ส์ผลิตภัณฑ์หลักของแบรนด์ BYD หลัก ในขณะที่ Denza เป็นแบรนด์หรูที่ BYD ควบคุม 90% และ Mercedes-Benz 10% ( แต่เดิมเป็นกิจการร่วมค้า 50/50 แต่ Daimler ลดขนาดลง เข้าถือหุ้นในกลางปี 2022 )
เราจะไม่แปลกใจเลย หาก BYD กำลังสร้างกระบะไฟฟ้า เพราะพวกเขาคือผู้ผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ NEV อันดับ 1 ของเมืองจีน และ ล่าสุดทาง Geely เปิดขายกระบะไฟฟ้าในนาม Geely Radar RD6 กระบะไฟฟ้า 632 กม./ชาร์จ CLTC ทั้งหมดล้วนเป็นเพียงการเริ่มต้น หาก BYD ไม่เริ่มชิงตลาดนี้ก่อน โอกาศเป็นเจ้าตลาดกระบะไฟฟ้าอาจน้อยกว่านี้
ก่อนหน้านี้ BYD ได้ประกาศแผนการสำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ โดยระบุว่าจะเปิดตัวรถปิกอัพที่มาพร้อมปลั๊กอินไฮบริด บนขุมพลัง 1.5T และ 2.0T และ ไฟฟ้า ในปี 2023 Yiche กล่าวในรายงานล่าสุดโดยอ้างภาพนิ่งจากการประชุม BYD เมื่อต้นปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน BYD ยังไม่มีผลิตภัณฑ์ใดในตลาดรถกระบะที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น และ เมืองจ่างๆในจีน ได้ผ่อนปรนข้อจำกัดการเข้าถึงรถกระบะ ทำให้กลุ่มนี้กลับมานิยมอีกครั้ง ปัจจุบัน รถกระบะเป็นผลิตภัณฑ์เฉพาะในประเทศจีนเมื่อเทียบกับรถซีดาน SUV และ MPV และตลาดนี้มีเจ้าตลาดอย่าง Great Wall Motor
ยอดขายรถยนต์ BYD ในจีน มกราคม 2023
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2023 BYD AUTO ประเทศจีน ประกาศยอดขายรถยนต์พลังงานใหม่ NEV ในเดือนมกราคม รวม 151,341 เพิ่มขึ้น 58.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในจำนวนนี้ มีการขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคล 150,164 คัน (รวมการส่งออก 10,409 คัน) เพิ่มขึ้น 57.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ดูเหมือนว่ายอดขายรถยนต์ BYD กำลังปรับตัวลดลง หลังจากมียอดขายพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องกว่า 10 เดือนในปี 2022 ถึงอย่างนั้น ตลาดรถยนต์ต้นปีมักจะไม่ค่อนร้อนแรง โดยเฉพาะในเดือนมกราคม รวมทั้งมีวันหยุดตรุษจีน ที่เป็นสาเหตุใหญ่ของยอดขายที่ลดลง
BYD ประกาศยอดขายดังกล่าวในตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้นในวันนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้น 62.44 เปอร์เซ็นต์จาก 93,168 คันในปีที่แล้ว แต่ลดลงกว่า 35.65 เปอร์เซ็นต์จาก 235,197 คัน ในเดือนธันวาคม 2022
หลังจาก BYD ประกาศอย่างเป็นทางการ ในการหยุดผลิต และ จำหน่ายรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยสันดาปล้วน แต่เน้นผลิตรถยนต์ไฟฟ้า หรือ กลุ่มพลังงานใหม่ NEV ซึ่งรวมทั้ง ไฮบริด , ปลั๊กอินไฮบริด , เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน และ ไฟฟ้าล้วน
สำหรับมกราคมที่ผ่านมา ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) อยู่ที่ 71,338 คัน เพิ่มขึ้น 53.79 เปอร์เซ็นต์จาก 46,386 คันในเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ลดลง 36.27 เปอร์เซ็นต์จากเดือนธันวาคม 2022
รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) อยู่ที่ 78,826 คัน เพิ่มขึ้น 69.37 เปอร์เซ็นต์จาก 46,540 คันในปีที่แล้ว แต่ลดลง 35.74 เปอร์เซ็นต์จากเดือนธันวาคม 2022
สำหรับมกราคม 2023 BYD ขายรถยนต์พลังงานใหม่ ในต่างประเทศได้ 10,409 คัน ลดลง 8.05% จาก 11,320 คันในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา บริษัทประกาศตัวเลขยอดขายรถยนต์ NEV ในต่างประเทศเป็นครั้งแรกในเดือนกรกฎาคม 2022
ภายในห้องโดยสาร BYD 07
Render By CARWP by Jonathan Machado