Advertisement

Advertisement

5 สีตัวถังในไทย KIA EV5 490 – 665 กม./ชาร์จ NEDC ราคา 1.24 – 1.74 ล้านบาท

5 สีตัวถังในไทย KIA EV5 490 – 665 กม./ชาร์จ NEDC ราคา 1.24 – 1.74 ล้านบาท

Advertisement

Advertisement

 

 

 

 

 

 

 

 


ราคาจำหน่าย KIA EV5 ในไทยนำเข้าจากจีน

  • EV5 LITE Standard FWD  1,249,000 บาท
  • EV5 AIR Standard FWD  1,349,000 บาท
  • EV5 EARTH Long Range FWD  1,549,000 บาท
  • EV5 EARTH Exclusive Performance AWD  1,749,000 บาท

มาพร้อมการรับประกันคุณภาพตัวรถ ดังนี้

  • ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง นาน 7 ปี
  • รับประกัน High-Voltage Battery นาน 8 ปี หรือ 160,000 km.
  • ฟรี KIA Home Charger พร้อมค่าติดตั้ง

รุ่น LITE Standard FWD  1,249,000 บาท

  • ไฟหน้า LED แบบ Multi Reflection 3 จุด
  • ระบบไฟหน้าทำงานอัตโนมัติ (Auto light)
  • ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (Day Time Running Light)
  • ไฟหรี่หน้า และไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED
  • ไฟท้ายแบบ LED
  • สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรก
  • แร็คหลังคา
  • ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ (Rain Sensor)
  • กระจกมองข้างปรับและพับด้วยไฟฟ้า
  • กระจกไฟฟ้าเลื่อนขึ้น – ลงอัตโนมัติ ทุกตำแหน่ง พร้อมระบบป้องกันการหนีบ
  • กุญแจ Smart key
  • มือจับประตูแบบ Flush type ทำงานแบบ Manual
  • วัสดุตกแต่งซุ้มล้อ และกาบข้างสีดำด้าน
  • เบาะนั่งหุ้มผ้าและหนังสังเคราะห์
  • เบาะนั่งผู้ขับ ปรับด้วยไฟฟ้า
  • แผงปิดสัมภาระอเนกประสงค์ แบบปรับตั้งได้
  • หน้าปัดแบบ Digital Supervision จอแสดงผล LCD TFT 12.3”
  • พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน หุ้มหนังสังเคราะห์ แบบ 4 ก้าน ปรับระดับ 4 ทิศทาง
  • สวิตช์เกียร์แบบ Column-type Shift by Wire พร้อม Paddle Shift ปรับการทำงานของ Regenerative Brake
  • สวิตซ์ควบคุมโหมดการขับขี่
  • ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระ 2 โซน พร้อมช่องระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารแถวที่ 2
  • แผงบังแดดคู่หน้าพร้อมกระจกแต่งหน้า และไฟส่องสว่าง
  • ระบบมัลติมิเดีย (Infotainment) : จอแสดงผล LCD TFT 12.3″
  • ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย (Bluetooth)
  • ระบบสั่งการด้วยเสียง (เชื่อมต่อผ่าน Android Auto™ / Apple Carplay®)
  • ลำโพง 6 จุด
  • USB ชาร์จเจอร์
  • ถุงลมนิรภัยคู่หน้า และด้านข้าง
  • ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง
  • ถุงลมนิรภัยป้องกันระหว่างผู้ขับขี่ และผู้โดยสารเบาะหน้า
  • ระบบเบรก ABS + EBD พร้อมระบบ Multi-Collision Brake
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESC) และควบคุมการทรงตัวขณะลากจูง (TSA)
  • ระบบเบรกมือแบบไฟฟ้า (EPB) พร้อม Auto Brake Hold
  • ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (HAC) และควบคุมเบรกขณะลงทางลาดชัน (DBC)
  • เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบ 3 จุด ELR ปรับระดับสูง – ต่ำ
  • เข็มขัดนิรภัยแถวที่ 2 แบบ 3 จุด ELR
  • จุดยึดสำหรับติดตั้งเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX) บนเบาะแถวที 2
  • ระบบแจ้งเตือนมีผู้โดยสารอยู่ด้านหลัง (Rear Seat Alert)
  • เซ็นเซอร์ช่วยเหลือการเข้าจอดด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง (Parking Distance Warning Front, Side and Rear) เฉพาะด้านหน้าและหลัง
  • กล้องมองภาพด้านหลังขณะถอยจอด
  • ระบบรักษาความเร็วคงที่อัตโนมัติแบบแปรฝัน (Smart Cruise Control with Stop & Go)
  • ระบบช่วยควบคุมให้รถอยู่ในช่องจราจร (Lane Following Assist และ Lane Keeping Assist)
  • ระบบป้องกันการชนด้านหน้าพร้อม ตรวจจับรถยนต์ คน และจักรยาน พร้อม Junction Assist (Forward Collision Avoidance Assist)

Standard RWD

  • มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 218 แรงม้า
  • แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร
  • แบตเตอรี่ 400V Technology Lithium-ion Phosphate (LFP) ขนาด 64.2 kWh
  • สามารถวิ่งได้ 490 กม./ชาร์จ NEDC
  • ความเร็วสูงสุด 185 กม./ชม.
  • ขับเคลื่อนล้อหน้า
  • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 8.5 วินาที
  • รองรับการชาร์จ DC 102kW 10-80% ภายใน 36 นาที
  • รองรับการชาร์จ AC7 kW Single-phase 10-100% ภายใน 9.43 ชั่วโมง

รุ่น AIR Standard FWD  1,349,000 บาท เพิ่มเติม

  • ราคา เพิ่ม 100,000 บาท
  • ซันรูฟ แบบ Panoramic บริเวณด้านหน้า และหลัง
  • ฝากระโปรงท้ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (เปิด-ปิดอัตโนมัติ)
  • กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ
  • ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless Charger)
  • สวิตช์ควบคุมระบบป้องกันเด็กเปิดประตูหลังแบบไฟฟ้า
  • กล้องมองรอบทิศทาง (Surround View Monitor)
  • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Collision Avoidance Assist)
  • ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาบนหน้าจอ Blind-Spot View Monitor (BVM)
  • ระบบแจ้งเตือนและหลีกลี่ยงการชนขณะถอยหลัง (RCCA : Rear Cross Traffic Collision Avoidance)
  • ระบบป้องกันการออกจากรถขณะมีรถวิ่งมาด้านข้าง (Safe Exit Assist)

รุ่น EARTH Long Range FWD  1,549,000 บาท เพิ่มเติม

  • ราคาเพิ่ม 200,000 บาท
  • มือจับประตูแบบ Flush type ทำงานอัตโนมัติ
  • วัสดุตกแต่งซุ้มล้อ และกาบข้างสีดำเงา
  • เบาะนั่งหุ้มหนังสังเคราะห์
  • เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า ปรับด้วยไฟฟ้า

Long Range RWD

  • มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 218 แรงม้า
  • แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร
  • แบตเตอรี่ 400V Technology (NMC) ขนาด 88.0 kWh
  • สามารถวิ่งได้ 665 กม./ชาร์จ NEDC
  • ความเร็วสูงสุด 185 กม./ชม.
  • ขับเคลื่อนล้อหน้า
  • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 8.9 วินาที
  • รองรับการชาร์จ DC 102kW 10-80% ภายใน 36 นาที
  • รองรับการชาร์จ AC7 kW Single-phase 10-100% ภายใน 9.43 ชั่วโมง

รุ่น EARTH Exclusive Performance AWD  1,749,000 บาท เพิ่มเติม

  • ราคาเพิ่ม 200,000 บาท
  • เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า ปรับด้วยไฟฟ้า
  • ไฟเรืองแสง Ambient Light ภายในห้องโดยสาร

Performance AWD

  • มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ 2 ตัว กำลังสูงสุด 313 แรงม้า
  • แรงบิดสูงสุด  นิวตันเมตร
  • แบตเตอรี่ 400V Technology (NMC) ขนาด 88.0 kWh
  • สามารถวิ่งได้ 620 กม./ชาร์จ NEDC
  • ความเร็วสูงสุด 185 กม./ชม.
  • ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD
  • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.1 วินาที
  • รองรับการชาร์จ DC 141kW 10-80% ภายใน 38 นาที
  • รองรับการชาร์จ AC 7 kW Single-phase / 11 kW Three-phase 10-100% ภายใน 8.10 ชั่วโมง

ขุมกำลัง KIA EV5

Standard RWD

  • มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 218 แรงม้า
  • แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร
  • แบตเตอรี่ 400V Technology Lithium-ion Phosphate (LFP) ขนาด 64.2 kWh
  • สามารถวิ่งได้ 490 กม./ชาร์จ NEDC
  • ความเร็วสูงสุด 185 กม./ชม.
  • ขับเคลื่อนล้อหน้า
  • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 8.5 วินาที
  • รองรับการชาร์จ DC 102kW 10-80% ภายใน 36 นาที
  • รองรับการชาร์จ AC7 kW Single-phase 10-100% ภายใน 9.43 ชั่วโมง

Long Range RWD

  • มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 218 แรงม้า
  • แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร
  • แบตเตอรี่ 400V Technology (NMC) ขนาด 88.0 kWh
  • สามารถวิ่งได้ 665 กม./ชาร์จ NEDC
  • ความเร็วสูงสุด 185 กม./ชม.
  • ขับเคลื่อนล้อหน้า
  • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 8.9 วินาที
  • รองรับการชาร์จ DC 102kW 10-80% ภายใน 36 นาที
  • รองรับการชาร์จ AC7 kW Single-phase 10-100% ภายใน 9.43 ชั่วโมง

Performance AWD

  • มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ 2 ตัว กำลังสูงสุด 313 แรงม้า
  • แรงบิดสูงสุด  นิวตันเมตร
  • แบตเตอรี่ 400V Technology (NMC) ขนาด 88.0 kWh
  • สามารถวิ่งได้ 620 กม./ชาร์จ NEDC
  • ความเร็วสูงสุด 185 กม./ชม.
  • ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD
  • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.1 วินาที
  • รองรับการชาร์จ DC 141kW 10-80% ภายใน 38 นาที
  • รองรับการชาร์จ AC 7 kW Single-phase / 11 kW Three-phase 10-100% ภายใน 8.10 ชั่วโมง

แบตเตอรี่ EV5 ได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดทั้งสี่ฤดูกาล แม้ในสภาพอากาศร้อนและเย็นจัด ระบบปั๊มความร้อนขั้นสูงซึ่งเป็นคุณสมบัติยอดนิยมของ EV6 ได้ถูกรวมไว้ใน EV5 เพื่อจัดการอุณหภูมิของแบตเตอรี่ ทำให้มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพที่สม่ำเสมอโดยไม่คำนึงถึงสภาวะภายนอก

โดยจะนำเสนอระบบเบรกแบบใหม่และระบบ i-Pedal ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถชะลอความเร็วและเร่งความเร็วได้โดยใช้แป้นเหยียบเพียงแป้นเดียว ซึ่งช่วยลดความเมื่อยล้าและเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่

KIA EV5 ไฟฟ้าโมเดลเล็กกว่า EV9 มาพร้อมการออกแบบคล้ายๆ KIA EV9 ภายใต้ปรัชญาการออกแบบ “Opposites United (เอกภาพของสิ่งที่ตรงกันข้าม)” กระจังหน้าที่ปิดสนิท Digital Tiger Face และ Star Map ระบบไฟอันเป็นเอกลักษณ์ ชุดไฟแบบ LED ลากเชื่อมทั้งสองฝั่งมีความสปอร์ตอย่างมาก ช่องดักอากาศทรงสี่เหลี่ยมคางหมูขนาดใหญ่ กันชนหน้าสีดำผิวด้าน

  • นักออกแบบของ Kia มุ่งมั่นที่จะสร้างรถยนต์ที่ดึงดูดสายตาอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลักปรัชญา ‘Bold for Nature’ ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจในการผสมผสานองค์ประกอบจากธรรมชาติและโลกวัตถุ มีบทบาทสำคัญในการออกแบบภายนอกของ EV Series

เมื่อมองจากด้านข้างตัวรถ หลังคามีกว้างอย่างมากทำให้พื้นที่ Headroom กว้างมากขึ้น กลุ่มไฟท้าย J-style คู่ พร้อมโลโก้ KIA บริเวณตรงกลาง ล้ออัลลอยขนาดใหญ่คล้ายๆ KIA EV9 ขนาด 21 นิ้ว

“ Kia EV5 ถูกสร้างขึ้นเพื่อกำหนดนิยามใหม่ของประเภท SUV ขนาดกะทัดรัดด้วยรูปแบบที่กำหนดโดยปรัชญาการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของ Kia ‘ Opposites United’” Karim Habib รองประธานบริหารและหัวหน้าของ Kia Global Design Center กล่าว “ในทุกขั้นตอน นักออกแบบของ Kia ได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับเพื่อนร่วมงานด้านวิศวกรรมเพื่อสร้างโซลูชันแบบองค์รวมเพื่อการขับเคลื่อนที่ยั่งยืน ด้วยเหตุนี้ EV5 จึงสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับการออกแบบ ประสิทธิภาพ และการใช้งานจริง ในขณะเดียวกันก็มอบความเพลิดเพลินและประสบการณ์ผู้ใช้ในระดับใหม่”

ภายในห้องโดยสาร

ล่าสุดมีข้อมูลเพิ่มเติม สำหรับรายละเอียดภายในห้องโดยสาร เบื้องต้นจะมาพร้อมถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 14 ทิศทาง กล่องทำความร้อน และ ความเย็นแบบลิ้นชักกลางขนาด 4 ลิตร ระบบเสียง Harman Kardon โต๊ะพับด้านหลัง (ด้านขวา) ปัั้มความร้อน เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ ระบบอินโฟเทนเมนต์ Navigation Cockpit (ccNC) รองรับการอัพเดทซอฟต์แวร์แบบ over-the-air ประกอบด้วยจอแสดงผล Panoramic Wide Display ซึ่งรวมคลัสเตอร์ขนาด 12.3 นิ้ว และระบบสาระบันเทิงขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมด้วยจอแสดงผลควบคุมสภาพอากาศขนาด 5 นิ้ว

Unified Graphical User Interface (GUI) ใหม่ของแบรนด์ถูกนำไปใช้ระหว่างหน้าจอภาพและเสียง การนำทาง และเทเลเมติกส์ (AVNT) และ CDU ช่วยให้มั่นใจได้ถึงความสอดคล้องของการแสดงข้อมูลที่ได้รับการปรับปรุง เมนูที่ใช้งานง่ายช่วยเพิ่มความสามารถในการใช้งานฟังก์ชันเฉพาะของ EV และทำให้ผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบแง่มุมต่างๆ เช่น ระยะและการชาร์จ EV ได้อย่างรวดเร็ว การไหลเวียนของข้อมูลอย่างราบรื่นได้รับการเสริมด้วย HUD (Head Up Display) ที่บังลมซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริม

ปุ่มต่างๆ จะถูกเก็บไว้ให้น้อยที่สุดทั่วทั้งห้องโดยสาร ใต้หน้าจอ AVNT ส่วนกลาง ปุ่มลัดที่ซ่อนอยู่สี่ปุ่มจะมีฟังก์ชันเริ่ม/หยุด พร้อมด้วย AVNT และการควบคุมระบบทำความร้อน การระบายอากาศ และเครื่องปรับอากาศ (HVAC) ก่อนหน้านี้ระบบเหล่านี้จะต้องมีปุ่มควบคุม 17 ปุ่ม

ระบบควบคุมสภาพอากาศแบบ 3 โซนช่วยให้ผู้ขับขี่ ผู้โดยสารด้านหน้า และผู้โดยสารแถวที่ 2 ควบคุมแยกกันได้ ในขณะที่ฟีเจอร์ระบบ After-blood ช่วยลดกลิ่นของเครื่องปรับอากาศ ทำให้มั่นใจได้ถึงสภาพแวดล้อมในห้องโดยสารที่น่าพึงพอใจสำหรับผู้โดยสารทุกคน

EV5 มีให้เลือกหลายที่นั่งซึ่งมีผ้า PET รีไซเคิลที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและหนัง Bio-PU ที่ด้านหน้าของรถ เบาะนั่งแบบม้านั่งยาว (สำหรับตลาดจีนเท่านั้น) ผสมผสานกับระบบไฟสร้างบรรยากาศ มอบพื้นที่ที่สะดวกสบายสำหรับผู้โดยสาร ที่วางแขนที่คอนโซลกลางยังรวมโต๊ะและที่เก็บของไว้ด้วย ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานของรถ

Advertisement

Advertisement

ที่นั่งปรับเอนได้รับการออกแบบมาเพื่อป้องกันอาการปวดหลังและกระดูกสันหลังด้วยมุมด้านหลังที่ปรับได้อย่างต่อเนื่อง ที่นั่งพักผ่อนมีฟังก์ชันการนวดสี่โหมดพร้อมความเข้มข้นสามระดับ ช่วยให้ผู้โดยสารสามารถเลือกการตั้งค่าจุดที่เหมาะสมระหว่างการชาร์จได้ ทำให้พวกเขารู้สึกสดชื่นอย่างเต็มที่เมื่อกลับมาเดินทางต่อ ที่นั่งแบบคอมฟอร์ทมอบความเป็นอยู่ที่ดีในระดับที่ยอดเยี่ยม ด้วยช่องนวดลม 6 ช่อง ระบบรองรับบั้นเอวสี่ทิศทาง ฟังก์ชั่นทำความร้อนและระบายอากาศสามขั้นตอน และที่วางเท้า เบาะนั่งนิรภัยของรุ่นนี้ประกอบด้วยถุงลมนิรภัย 3 ใบและพนักพิงศีรษะแบบปรับได้ 4 ทิศทาง มอบการปกป้องผู้โดยสารสูงสุด

สามารถเปลี่ยนด้านหลังของรถให้เป็นห้องนอนได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยเบาะนั่งแถวที่ 2 พับราบได้ 0 องศา พวกเขาสามารถเพลิดเพลินกับอาหารที่ซื้อล่วงหน้าซึ่งจัดเก็บไว้ในตู้เย็น/เครื่องอุ่นที่คอนโซลด้านหลัง ตัวเครื่องมีฟังก์ชั่นอุ่นอาหารและทำความเย็นเครื่องดื่มด้วยช่วงอุณหภูมิ 5 ถึง 55 องศาเซลเซียส และความจุ 4.0 ลิตร สามารถใช้งานได้หลายวิธี เช่น การอุ่นอาหารเช้าแบบซื้อกลับบ้านระหว่างการเดินทาง การอุ่นเครื่องดื่ม เช่น ชาและกาแฟ และการเก็บเครื่องดื่มเย็นฉ่ำและน้ำดื่มระหว่างการเดินทางแคมป์ปิ้งในฤดูร้อน

ระบบไฟภายใน 64 สี ระบบไฟตามอารมณ์จะซิงโครไนซ์กับโหมดการขับขี่ของรถได้อย่างราบรื่น โดยจะหรี่แสงลงเมื่อสภาพแสงน้อย และแจ้งเตือนอย่างละเอียดหากรถออกนอกเส้นทางเกินขีดจำกัดความเร็ว ซึ่งช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมและความตระหนักรู้ของผู้ขับขี่

EV5 มีถุงลมนิรภัยทั้งหมด 7 ใบ นอกจากเทคโนโลยีเข็มขัดนิรภัยที่ล้ำสมัยแล้ว โครงสร้างยังได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมให้มีความแข็งแกร่งสูงสุดอีกด้วย แน่นอนว่าระบบดังกล่าวมาพร้อมกับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) ล่าสุดของแบรนด์และระบบความปลอดภัยเชิงรุกที่หลากหลาย

พร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่ได้แก่ ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะควบคุมระยะไกลรุ่นที่สอง (RSPA2) ระบบช่วยเหลือการขับขี่บนทางหลวง (HDA2) ที่สามารถเปลี่ยนเลนได้กึ่งอัตโนมัติด้านหน้า/ด้านข้าง/ด้านหลัง ระบบช่วยหลีกเลี่ยงการชนขณะจอดรถ (PCA) และระบบเตือนระยะห่างขณะจอด (PDW)

ขนาดตัวถัง KIA EV5

  • ยาว 4,615 มม.
  • กว้าง 1,875 มม.
  • สูง 1,715 มม.
  • ระยะฐานล้อ 2,750 มม.

ขนาดตัวถัง Song PLUS EV

  • ยาว 4,785 มม.
  • กว้าง 1,890 มม.
  • สูง 1,660 มม.
  • ระยะฐานล้อ 2,765 มม.

การออกแบบภายนอก

  • ไฟหน้า LED แบบ Multi Reflection 3 จุด
  • ระบบไฟหน้าทำงานอัตโนมัติ (Auto light)
  • ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (Day Time Running Light)
  • ไฟหรี่หน้า และไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED
  • ไฟท้ายแบบ LEDสปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรก
  • แร็คหลังคาซันรูฟ แบบ Panoramic บริเวณด้านหน้า และหลัง
  • ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ (Rain Sensor)
  • กระจกมองข้างปรับและพับด้วยไฟฟ้า
  • กระจกไฟฟ้าเลื่อนขึ้น – ลงอัตโนมัติ ทุกตำแหน่ง พร้อมระบบป้องกันการหนีบ
  • กุญแจ Smart key
  • มือจับประตูแบบ Flush type ทำงานอัตโนมัติ
  • มือจับประตูแบบ Flush type ทำงานแบบ Manual
  • วัสดุตกแต่งซุ้มล้อ และกาบข้างสีดำเงาวัสดุตกแต่งซุ้มล้อ และกาบข้างสีดำด้าน
  • ฝากระโปรงท้ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (เปิด-ปิดอัตโนมัติ)

ภายในห้องโดยสาร

  • เบาะนั่งหุ้มหนังสังเคราะห์
  • เบาะนั่งหุ้มผ้าและหนังสังเคราะห์
  • เบาะนั่งผู้ขับ ปรับด้วยไฟฟ้า
  • เบาะนั่งผู้ขับ แบบ Relaxation ปรับด้วยไฟฟ้า พร้อมฟังก์ชันนวดหลัง และระบบจดจำตำแหน่งเบาะนั่งผู้ขับ
  • เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า ปรับด้วยไฟฟ้า
  • ระบบระบายอากาศ และทำความอุ่นเบาะนั่งคู่หน้า
  • โต๊ะอเนกประสงค์แบบพับได้ บริเวณหลังเบาะผู้โดยสาร
  • ลิ้นชักอเนกประสงค์พร้อมฟังก์ชันปรับอุณหภูมิ 5-55 องศาเซลเซียสแผงปิดสัมภาระอเนกประสงค์ แบบปรับตั้งได้
  • หน้าปัดแบบ Digital Supervision จอแสดงผล LCD TFT 12.3”ระบบแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกหน้า (HUD)
  • พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน หุ้มหนังสังเคราะห์ แบบ 4 ก้าน ปรับระดับ  4 ทิศทาง
  • สวิตช์เกียร์แบบ Column-type Shift by Wire พร้อม Paddle Shift ปรับการทำงานของ Regenerative Brake
  • สวิตซ์ควบคุมโหมดการขับขี่
  • กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ
  • ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระ 2 โซน พร้อมช่องระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารแถวที่ 2
  • แผงบังแดดคู่หน้าพร้อมกระจกแต่งหน้า และไฟส่องสว่าง
  • ไฟเรืองแสง Ambient Light ภายในห้องโดยสาร

ระบบความบันเทิง

  • ระบบมัลติมิเดีย (Infotainment) : จอแสดงผล LCD TFT 12.3″
  • ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย (Bluetooth)
  • ระบบสั่งการด้วยเสียง (เชื่อมต่อผ่าน Android Auto™ / Apple Carplay®)
  • ลำโพง 6 จุด
  • ลำโพง Harman Kardon รอบคัน 10 จุด
  • USB ชาร์จเจอร์
  • ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless Charger)

ระบบความปลอดภัย

  • ถุงลมนิรภัยคู่หน้า และด้านข้าง
  • ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง
  • ถุงลมนิรภัยป้องกันระหว่างผู้ขับขี่ และผู้โดยสารเบาะหน้า
  • ระบบเบรก ABS + EBD พร้อมระบบ Multi-Collision Brake
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESC) และควบคุมการทรงตัวขณะลากจูง (TSA)
  • ระบบเบรกมือแบบไฟฟ้า (EPB) พร้อม Auto Brake Hold
  • ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (HAC) และควบคุมเบรกขณะลงทางลาดชัน (DBC)
  • เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบ 3 จุด ELR ปรับระดับสูง – ต่ำ
  • เข็มขัดนิรภัยแถวที่ 2 แบบ 3 จุด ELRจุดยึดสำหรับติดตั้งเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX) บนเบาะแถวที 2
  • สวิตช์ควบคุมระบบป้องกันเด็กเปิดประตูหลังแบบไฟฟ้า
  • ระบบแจ้งเตือนมีผู้โดยสารอยู่ด้านหลัง (Rear Seat Alert)
  • เซ็นเซอร์ช่วยเหลือการเข้าจอดด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง (Parking Distance Warning Front, Side and Rear)
  • กล้องมองภาพด้านหลังขณะถอยจอด
  • กล้องมองรอบทิศทาง (Surround View Monitor)

ADAS

  • ระบบรักษาความเร็วคงที่อัตโนมัติแบบแปรฝัน (Smart Cruise Control with Stop & Go)
  • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Collision Avoidance Assist)
  • ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาบนหน้าจอ Blind-Spot View Monitor (BVM)
  • ระบบแจ้งเตือนและหลีกลี่ยงการชนขณะถอยหลัง (RCCA : Rear Cross Traffic Collision Avoidance)
  • ระบบช่วยควบคุมให้รถอยู่ในช่องจราจร (Lane Following Assist และ Lane Keeping Assist)
  • ระบบป้องกันการชนด้านหน้าพร้อม ตรวจจับรถยนต์ คน และจักรยาน พร้อม Junction Assist (Forward Collision Avoidance Assist)
  • ระบบป้องกันการออกจากรถขณะมีรถวิ่งมาด้านข้าง (Safe Exit Assist)

นายฌ็อง–ดาวิด คริสติญอง อาเรล รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์และการตลาด บริษัท เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) จํากัด กล่าวว่า “The Kia EV5 เป็นรถยนต์พลังงานฟ้ารุ่นที่ 2 ในตระกูลรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของเกีย รถยนต์รุ่นนี้ใช้แพลตฟอร์ม EV เฉพาะของเกีย ซึ่งทำหน้าที่เป็นพื้นฐานที่แข็งแกร่งให้กับประสิทธิภาพของยานพาหนะ รวมทั้งช่วยเสริมสมรรถนะในการขับขี่โดยรวมให้โดดเด่นยิ่งขึ้น ด้วยปรัชญาการออกแบบ ‘Opposites United’ อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์เกีย ทำให้ The Kia EV5 เป็นรถยนต์รุ่นที่มีความสมดุลอย่างกลมกลืน ผสานจุดเด่นแห่งยุคใหม่ของการเดินทางด้วยรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมดีไซน์อันโดดเด่นในสไตล์รถเอสยูวี รวมถึงความคล่องตัวและความสะดวกสบายที่เหนือชั้น เข้ากับเทคโนโลยีขั้นสูง สมรรถนะแรงเต็มอัตรา และฟีเจอร์ความปลอดภัยแบบขั้นสุด ดีไซน์ห้องโดยสารภายในที่แปลกใหม่โดยได้รับแรงบันดาลใจจากรถยนต์รุ่น The Kia EV9 เอสยูวีขนาดใหญ่ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเร็วๆ นี้ โดยมีพื้นที่ภายในที่กว้างขวาง คล้ายกับห้องนั่งเล่นในบ้านทั้งในด้านคอนเซปต์และฟังก์ชันการใช้งานที่เป็นมากกว่าห้องโดยสารรถยนต์แบบเดิมๆ ซึ่ง The Kia EV5 จะเป็นตัวพลิกเกมและจะเป็นรุ่นที่ผลักดันการเติบโตในด้านยอดขายในตลาดประเทศไทยให้กับเรา โดยเราตั้งเป้าเจาะกลุ่มมิลเลนเนียล และครอบครัวยุคใหม่ที่อาศัยในเขตเมือง มีคาแรกเตอร์เป็น ‘ผู้สร้างนวัตกรรมแห่งชีวิต’ (Life Innovator) และ‘ผู้กำหนดเทรนด์’ (Trendsetter) ที่กำลังมองหารถยนต์พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและระบบอัจฉริยะ เป็นรถยนต์ที่มีคุณสมบัติของเอสยูวีขนาดกลางครบถ้วนอย่างแท้จริง ทั้งในด้านความคล่องตัว สไตล์ที่โดดเด่น และความกว้างขวางของห้องโดยสาร”

The Kia EV5 วางจำหน่ายในประเทศไทยถึง 4 รุ่น ได้แก่: The Kia EV5 Light, The Kia EV5 Air, The Kia EV5 Earth Long Range และ The Kia EV5 Earth Exclusive AWD ซึ่งเป็นรุ่นท็อปที่มาพร้อมการติดตั้งระบบส่งกำลังระดับสูงสุด และฟีเจอร์ชั้นนำคุณภาพดีที่สุดของเรา โดยมาพร้อมตัวเลือกระบบส่งกําลังไฟฟ้าหลากรูปแบบ โดยใน 2 รุ่นแรก คือ The Kia EV5 Light และ The Kia EV5 Air มีการติดตั้งแบตเตอรี่ขนาด 64.2 กิโลวัตต์/ชั่วโมง ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหน้าขนาด 160 กิโลวัตต์ โดยทั้งรุ่น Light และรุ่น Air ให้ระยะทางจากพลังงานไฟฟ้าตามมาตรฐาน NEDC สูงสุดถึง 490 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง สามารถสร้างอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ภายในเวลา 8.5 วินาที ด้วยกําลังมอเตอร์สูงสุด 217 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดถึง 310 นิวตันเมตร มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว อีกทั้งยังมีฟีเจอร์มาตรฐานเพื่อความปลอดภัยมากมาย ได้แก่ ระบบเบรก ABS+EBD พร้อมระบบ Multi-Collision Brake (MCB), ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESC), เซ็นเซอร์ช่วยเหลือการเข้าจอดทั้งด้านหน้าและด้านหลัง, ระบบช่วยควบคุมให้รถอยู่ในช่องจราจร (LFA และ LKA) ระบบป้องกันการชนด้านหน้า (FCAA) พร้อม Junction Assist และระบบควบคุมความเร็วและระยะห่างจากรถคันหน้าอัตโนมัติ Smart Cruise Control with Stop & Go โดยในรุ่น The Kia EV5 Air ยังมีระบบฟีเจอร์เพิ่มเติมอื่นๆ อาทิ ซันรูฟแบบ Panoramic, ฝากระโปรงท้ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Electric Tailgate), ระบบชาร์จมือถือแบบไร้สาย (Wireless Charger) และระบบแสดงภาพรอบทิศทาง Surround View Monitor (SVM)

The Kia EV5 รุ่น Earth Long Range มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 88.1 กิโลวัตต์/ชั่วโมง และมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 160 กิโลวัตต์เช่นเดียวกับ 2 รุ่นแรก ในขณะที่ให้ระยะการวิ่งจากพลังงานไฟฟ้าตามมาตรฐาน NEDC ได้ไกลมากถึง 665 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง สำหรับ The Kia EV5 Earth Exclusive AWD ซึ่งเป็นรุ่นท็อป ติดตั้งแบตเตอรี่ขนาด 88.1 กิโลวัตต์/ชั่วโมง และมาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวที่ให้กําลังรวมถึง 308 แรงม้า หรือ 230 กิโลวัตต์  และแรงบิดสูงสุดถึง 480 นิวตันเมตร โดยการผสมผสานอันทรงพลังนี้ ช่วยให้รถเอสยูวีรุ่นนี้สามารถพุ่งทะยานขึ้นจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ภายในเวลาเพียง 6.1 วินาที โดยรถยนต์รุ่น The Kia EV5 Earth Exclusive AWD สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุดในระยะ 620 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน NEDC อีกทั้งยังรองรับการชาร์จไฟฟ้าแบบรวดเร็ว 141 kW (ผ่าน DC Fast Charge) โดยมีระยะเวลาในการชาร์จจาก 10% ถึง 80% ภายในเวลาเพียง 38 นาที โดยทั้ง The Kia EV5 Earth Long Range และ The Kia EV5 Earth Exclusive AWD มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว นอกเหนือไปจากระบบความปลอดภัยมาตรฐานรุ่นล่าสุดของเกียที่ติดตั้งใน The Kia EV5 ทุกรุ่นย่อยแล้ว The Kia EV5 รุ่น Earth Long Range และ รุ่น Earth Exclusive AWD ยังมีระบบความปลอดภัยเพิ่มเติม ทั้งระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) ซึ่งทำงานร่วมกับระบบป้องกันการชนขณะถอยหลัง (RCCA) ระบบป้องกันการชนจากมุมอับสายตาขณะแซง (BCAA) ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาบนหน้าจอ (BVM) ระบบ Smart Cruise Control (SCC) พร้อม Stop & Go รวมไปจนถึงระบบช่วยควบคุมให้รถอยู่ในช่องจราจร (LFA และ LKA) ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่รักษาระยะห่างกับรถยนต์คันหน้าอย่างเหมาะสม ช่วยให้รถยนต์วิ่งอยู่ตรงกลางของช่องจราจร และช่วยเหลือผู้ขับขี่ขณะเปลี่ยนช่องจราจร ยิ่งไปกว่านี้ยังมีระบบช่วยเหลือเพื่อความปลอดภัยขณะลงจากรถ (Safe Exit Assist) อีกด้วย

นอกจากนี้ The Kia EV5 ยังมาพร้อมตัวเลือกการปรับที่นั่งอันหลากหลาย และวัสดุหุ้มเบาะโดยสารในรูปแบบต่างๆ ทั้งวัสดุหุ้มผ้า รีไซเคิลจากพลาสติก PET และหนังสังเคราะห์ Bio-PU ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อตอบสนองความต้องการของครอบครัว ยุคมิลเลนเนียล โดยในรุ่น Earth Exclusive AWD มีเบาะนั่งสำหรับผู้ขับขี่แบบ Relaxation Seat ที่มาพร้อมฟังก์ชันการนวดถึง 4 รูปแบบ ระบบทำความอุ่น และระบายอากาศ 3 ระดับ รวมถึงหมอนรองน่องแบบปรับด้วยไฟฟ้า นอกจากนี้ใน The Kia EV5 รุ่น Earth Exclusive AWD ยังมาพร้อมกับลิ้นชักอเนกประสงค์พร้อมฟังก์ชันปรับอุณหภูมิที่สามารถใช้เป็นตู้เย็น หรือตู้เก็บความร้อนสำหรับแช่เย็นเครื่องดื่ม หรือเก็บความร้อนของอาหารระหว่างการเดินทาง หรือการออกทริปแคมป์ปิ้งได้อย่างสะดวกสบาย โดยรถยนต์ The Kia EV5 ทุกรุ่นมาพร้อมแผงปิดสัมภาระอเนกประสงค์ที่สามารถปรับตั้งให้กลายเป็นโต๊ะทานข้าวสำหรับการรับประทานอาหารของสมาชิกในครอบครัวได้ทั้งแบบในรถและแบบเอาท์ดอร์ มากไปกว่านี้ ภายในห้องโดยสารของ The Kia EV5 ยังได้ระบการติดตั้งระบบอินโฟเทนเมนต์และเทคโนโลยีเพื่อการเชื่อมต่อที่ทันสมัย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความสะดวกสบาย ให้กับทุกการเดินทาง มาพร้อม ‘Panoramic Wide Display’ ประกอบด้วย หน้าจออินโฟเทนเมนท์แบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว, จอแสดงผลแบบคลัสเตอร์ขนาด 12.3 นิ้ว และจอแสดงผลสำหรับระบบปรับอากาศภายในห้องโดยสารขนาด 5 นิ้ว ที่ให้ข้อมูลและเนื้อหาที่ครอบคลุมแก่ผู้ขับขี่เพื่อสร้างประสบการณ์แบบอิมเมอร์ซีฟที่เหนือชั้น ด้วยเมนูคำสั่งที่ไม่ซับซ้อน ช่วยให้สามารถใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ที่เกี่ยวกับ EV ได้ง่ายยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบระยะและสถานะการชาร์จไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็วผ่านการมองเพียงครั้งเดียว

 

 

เครดิตภาพ koreancarblog

 

 

 

Official : KIA EV4 Electric Stinger Concept ต้นแบบไฟฟ้า ตัวเล็กกว่า EV6

https://www.car250.com/new-kia-ev3.html

Autohome/Dongchedi.com

Advertisement

Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้