BYD โกยกำไร 4.1 หมื่นล้านล้านบาท Q1 2025 ทุ่มวิจัยทะลุ 6.4 หมื่นล้านบาท

Advertisement
สรุปผลประกอบการผู้ผลิตรถยนต์นั่งส่วนบุคคลจีน ไตรมาส 1 ปี 2025
ในไตรมาสแรกของปี 2025 BYD ยังคงเป็นผู้นำตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของจีน โดยทำกำไรสุทธิสูงสุดถึง 9.155 พันล้านหยวน (ประมาณ 41,457 ล้านบาท) และมีอัตรากำไรขั้นต้นที่น่าประทับใจถึง 20.7% ซึ่งสูงกว่า Tesla ที่ 16.3% ในช่วงเดียวกัน อย่างไรก็ตาม BYD ก็มีการลงทุนด้าน R&D อย่างมหาศาลถึง 14.223 พันล้านหยวน หรือ 64,407 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่ากำไรสุทธิที่ทำได้
ภาพรวมความสามารถในการทำกำไรและค่าใช้จ่าย R&D
- BYD: กำไรสุทธิ 9.155 พันล้านหยวน หรือ 41,457 ล้านบาท / ค่าใช้จ่าย R&D 14.223 พันล้านหยวน หรือ 64,407 ล้านบาท (อัตรากำไรขั้นต้น 20.7%)
- Geely: กำไรสุทธิ 5.672 พันล้านหยวน หรือ 25,687 ล้านบาท / ค่าใช้จ่าย R&D 3.328 พันล้านหยวน หรือ 15,070 ล้านบาท (อัตรากำไรขั้นต้น 15.78%)
- SAIC Group: กำไรสุทธิ 3.023 พันล้านหยวน หรือ 13,689 ล้านบาท / ค่าใช้จ่าย R&D 3.881 พันล้านหยวน หรือ 17,574 ล้านบาท (อัตรากำไรขั้นต้น 8.13%)
- Great Wall Motors (GWM): กำไรสุทธิ 1.751 พันล้านหยวน หรือ 7,929 ล้านบาท / ค่าใช้จ่าย R&D 1.906 พันล้านหยวน หรือ 8,631 ล้านบาท (อัตรากำไรขั้นต้น 17.84%)
- Changan: กำไรสุทธิ 1.353 พันล้านหยวน หรือ 6,126 ล้านบาท / ค่าใช้จ่าย R&D 1.501 พันล้านหยวน หรือ 6,797 ล้านบาท (อัตรากำไรขั้นต้น 13.86%)
- BAIC: กำไรสุทธิ 929 ล้านหยวน หรือ 4,206 ล้านบาท / ค่าใช้จ่าย R&D 82 ล้านหยวน หรือ 371 ล้านบาท (อัตรากำไรขั้นต้น 9.9%)
- Seres: กำไรสุทธิ 748 ล้านหยวน หรือ 3,387 ล้านบาท / ค่าใช้จ่าย R&D 1.051 พันล้านหยวน หรือ 4,759 ล้านบาท (อัตรากำไรขั้นต้น 27.62%)
- Li Auto: กำไรสุทธิ 647 ล้านหยวน หรือ 2,929 ล้านบาท / ค่าใช้จ่าย R&D 2.51 พันล้านหยวน หรือ 11,366 ล้านบาท (อัตรากำไรขั้นต้น 20.51%)
- Leapmotor: กำไรสุทธิ – 13 ล้านหยวน หรือ -66 ล้านบาท / ค่าใช้จ่าย R&D 80 ล้านหยวน หรือ 362 ล้านบาท (อัตรากำไรขั้นต้น 14.9%)
- Xpeng: กำไรสุทธิ – 66 ล้านหยวน หรือ – 298 ล้านบาท / ค่าใช้จ่าย R&D 1.98 พันล้านหยวน หรือ 8,966 ล้านบาท (อัตรากำไรขั้นต้น 15.56%)
ที่มา: รายงานทางการเงินไตรมาส 1 ปี 2025 ของบริษัทรถยนต์ โดย Autohome
Advertisement
ข้อสังเกตที่สำคัญ
- Seres โดดเด่นด้วยอัตรากำไรขั้นต้นสูงสุดถึง 27.62% ความสำเร็จของโมเดล Aito M9 ช่วยให้ Seres เป็นรายแรกที่เจาะตลาดรถยนต์หรูของจีนได้สำเร็จ
- แบรนด์รถยนต์พลังงานใหม่อย่าง Li Auto, Leapmotor, และ Xpeng แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการที่สำคัญ โดยเฉพาะ Leapmotor และ Xpeng ที่ใกล้จะถึงจุดคุ้มทุนแล้ว
- มีเพียง Geely และ BAIC เท่านั้นที่ค่าใช้จ่าย R&D ในไตรมาสน้อยกว่ากำไรสุทธิที่ทำได้ ถึงแม้ Geely จะยังคงลงทุนสูง แต่ค่าใช้จ่าย R&D ของ BAIC ที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับคู่แข่งรายอื่น ๆ อาจเป็นข้อกังวลต่ออนาคตของแบรนด์ในเครืออย่าง Stelato และ Arcfox ซึ่งเป็นสิ่งสะท้อนว่าเทคโนโลยีรถยนต์พลังงานใหม่ยังอยู่ในช่วงของการพัฒนาอย่างรวดเร็ว และการลงทุนด้าน R&D อย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ผลิตรถยนต์ในตลาดนี้
BYD: กำไรสุทธิ 9.155 พันล้านหยวน หรือ 41,457 ล้านบาท / ค่าใช้จ่าย R&D 14.223 พันล้านหยวน หรือ 64,407 ล้านบาท (อัตรากำไรขั้นต้น 20.7%)
ยอดขาย BYD ไตรมาส 1 ปี 2025 ทะลุเป้า!
BYD ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในไตรมาสแรกของปี 2025 โดยมียอดขายรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) สูงถึง 1,000,804 คัน เพิ่มขึ้น 59.81% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แสดงว่ารถ 1 คัน BYD ได้กำไร 41,000 บาทโดยประมาณ
ภาพรวมยอดขาย Q1 2025
- ยอดขาย NEV ทั้งหมด: 1,000,804 คัน (เพิ่มขึ้น 59.81% จากปีก่อนหน้า)
- ยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคล: 986,098 คัน (เพิ่มขึ้น 57.93% จากปีก่อนหน้า)
- รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV): 416,388 คัน (42.2% ของ NEV ทั้งหมด) เพิ่มขึ้น 38.74%
- รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV): 569,710 คัน (57.8% ของ NEV ทั้งหมด) พุ่งขึ้น 75.68% PHEV เป็นกำลังสำคัญที่ขับเคลื่อนยอดขายของ BYD ในไตรมาสนี้
- ยอดขายรถยนต์เพื่อการพาณิชย์: 14,706 คัน (เพิ่มขึ้นมหาศาลถึง 688.53% จากปีก่อนหน้า)
- ยอดขายในต่างประเทศ: 206,084 คัน (เพิ่มขึ้น 110.51% จากปีก่อนหน้า) แสดงให้เห็นถึงการขยายตลาดทั่วโลกที่แข็งแกร่ง
Advertisement