Advertisement

Advertisement

BYD เซ็น MOU 9 เดือน 9 รับส่วนลด 150,000 บาท ก่อนเปิดตัว BYD ATTO 3 EV 480 กม./ชาร์จ ในประเทศไทย 10 ตุลาคม

BYD เซ็น MOU 9 เดือน 9 รับส่วนลด 150,000 บาท ก่อนเปิดตัว BYD ATTO 3 EV 480 กม./ชาร์จ ในประเทศไทย 10 ตุลาคม

Advertisement

Advertisement
จากซ้าย
มิสเตอร์ เคอ ยู่ปิน (Mr. Ke Yubin) ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทย บริษัท บีวายดี ออโต้ (ประเทศไทย) จำกัด
มิสเตอร์ หลิว เสวียเลี่ยง (Mr. Liu Xueliang) ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท บีวายดี ออโต้ อินดัสทรี จำกัด
คุณณัฐกร อุเทนสุต ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต
คุณประธานวงศ์ พรประภา  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Rêver Automotive จำกัด            
คุณประธานพร พรประภา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Rêver Automotive จำกัด 
เครดิตภาพ เอ ชัยกร

BYD ATTO 3

สีฟ้า surf blue
สีเขียว forest green
สีเทา boulder grey
สีขาว ski white
สีแดง parkour red

วันที่ 9 กันยายน 2022 BYD ได้ทำการเซ็น MOU* กับกรมสรรสามิต เพื่อเข้าร่วมโครงการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า100% ของรัฐบาลไทย รับส่วนลด EV สูงสุด 150,000 คัน ก่อนเปิดตัว BYD ATTO 3 ในวันที่ 10 ตุลาคมนี้

  • พร้อมเปิดตัวโชว์รูม และ ศูนย์บริการ 31 แห่งทั่วประเทศในปี 2022 โดยเน้นกรุงเทพ ปริมณฑล และ ต่างจังหวัด เริ่ม ตุลาคมนี้ และ เพิ่ม 60 แห่งในปีหน้า
  • ร่วมกับ SHARGE สถานีชาร์จไฟฟ้ากว่า 1,000 แห่ง
  • ตั้งเป้ายอดขาย 10,000 คันในปี 2023
  • เริ่มต้นจากการนำเข้า BYD รถยนต์ EV อันดับต้นของโลก มาสร้างประสบการณ์การขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าให้ดียิ่งขึ้นและปลอดภัยกว่าเดิม
  • ประกาศความพร้อมก้าวสู่การเป็น Solutions Provider ด้านพลังงานใหม่ (New Dream Energy)

*MOU หรือ Memorandum of Understanding คือ หนังสือบันทึกข้อตกลงระหว่างองค์กรที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งตัวแทนทั้ง 2 ฝ่าย จะต้องทำการลงนามรับทราบในบันทึกข้อตกลง เพื่อทำให้เอกสารบันทึกข้อตกลงนั้นมีผลบังคับใช้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท ต้องผลิตเพื่อชดเชยการนำเข้าในปี 2565-2566 โดยสามารถผลิตรถรุ่นใดก็ได้

ต้องเป็นผู้ประกอบอุตสาหกรรมภายในประเทศ, ผลิตรถยนต์ชดเชยในปี 2567 เท่ากับจำนวนที่นำเข้า CBU ในปี 2565-2566 หากจำเป็นต้องขยายเวลา การผลิตชดเชยได้ถึง 2568 และจะต้องผลิตในอัตราส่วน 1 ต่อ 1.5 เท่า (นำเข้า 1 คัน ผลิต 1.5 คัน)

  • ลดอากรนำเข้าสูงสุด 40 % ระหว่าง 2565 – 2566
  • ลดภาษีสรรพสามิต จาก 8% เหลือ 2% ระหว่าง 2565 – 2568
  • เงินหนุนระหว่างปี 2565 – 2568
    • แบตเตอรี่ต่ำกว่า 30kWh ได้เงินหนุน 70,000 บาท
    • แบตเตอรี่สูงกว่า 30kWh ได้เงินหนุน 150,000 บาท
BYD เซ็นสัญญา WHA Group ตั้งโรงงานไทยบนที่ดิน 600 ไร่ในระยอง ด้วยกำลังผลิต 150,000 คันต่อปี ส่งออก และ ขายไทย

BYD Auto เป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของโลก โดยมียอดขาย 641,000 EV ในครึ่งแรกของปี 2022 นอกจากนี้ยังเป็นบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอิน (BEV และ PHEV) ที่ใหญ่เป็นอันดับสี่และบริษัท BEV ใหญ่เป็นอันดับสี่ โดยมีส่วนแบ่งการตลาดทั่วโลก 9.1% และ 7% ตามลำดับในปี 2021

BYD มียอดขายรถยนต์ในเมืองจีนเป็นหลัก โดยมียอดขายทะลุ 100,000 ต่อเดือนในเดือนมีนาคม 2022 และคาดว่าจะขายได้ระหว่าง 1.5 ล้านถึง 2 ล้าน EV ปลั๊กอินในปี 2022 ประมาณ 3 ถึง 4 เท่าของปริมาณในปี 2021

ในเดือนมิถุนายน 2565 BYD Auto ประกาศว่าขายได้ประมาณ 641,000 EVs ในช่วงครึ่งแรกของปี 2022 แซงเทสลาเพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในโลก

(กรุงเทพมหานคร) 8 สิงหาคม 2565 –  Rêver Automotive (เรเว่ ออโตโมทีฟ) จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวบริษัท ในฐานะผู้จัดจำหน่ายและให้บริการหลังการขายสำหรับกลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ (Thailand Authorized Distributor) พร้อมนำเสนอ  BYD แบรนด์รถยนต์พลังงานใหม่อันดับต้นของโลก ประกาศขับเคลื่อนประเทศสู่ NEV Nation ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม

ความมุ่งมั่นที่จะสร้างประเทศไทยให้ดีขึ้นกับพันธกิจในการผลักดัน Net Zero Emission ให้เกิดขึ้นอย่างแท้จริงของกลุ่มนักธุรกิจเลือดใหม่ นำทีมโดย ประธานวงศ์ – ประธานพร พรประภา ด้วยเป้าหมายสร้าง NEV Ecosystem ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยเทคโนโลยีและยานยนต์พลังงานรูปแบบใหม่ ทำให้ บริษัท Rêver Automotive จำกัด ได้รับความไว้วางใจจาก บริษัท บีวายดี ออโต้ อินดัสทรี จำกัด ให้เป็นผู้จัดจำหน่ายและให้บริการหลังการขายรถยนต์ BYD ในตลาดประเทศไทยอย่างเป็นทางการ (Thailand Authorized Distributor)

Rêver Automotive จุดประกายความเป็นไปได้ใหม่ๆ เพื่อไปได้ไกลกว่าสิ่งที่ฝัน

Rêver Automotive คือการรวมตัวกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่พร้อมจะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศ สู่ NEV Nation ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม มาพร้อมกับแนวคิดและความมุ่งมั่นที่จะสร้างประเทศไทยให้ดีขึ้นด้วยการผลักดัน Net Zero Emission หรือ การลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ มีเป้าหมายปลายทางคือการสร้าง NEV Ecosystem ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้เกิดขึ้นในประเทศ ด้วยเทคโนโลยีและยานยนต์พลังงานรูปแบบใหม่ (New Energy Vehicle – NEV)

ประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Rêver Automotive จำกัด กล่าวว่า Rêver Automotive เชื่อว่าอนาคตของประเทศไทยสร้างได้ตั้งแต่วันนี้ เราจึงมุ่งมั่นที่จะส่งมอบโซลูชั่นด้านพลังงานในฝันรูปแบบใหม่ หรือ NEW DREAM ENERGY โดยนำเสนอเทคโนโลยีที่ช่วยสนับสนุนและรองรับระบบนิเวศของนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อเปิดประตูสู่ความเป็นไปได้ใหม่ๆ และสร้างประเทศในฝันสำหรับทุกคน เริ่มต้นจากการนำเข้า BYD รถยนต์ EV อันดับต้นของโลก เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ”

ความยิ่งใหญ่ของ BYD ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อชีวิตที่ดียิ่งขึ้น

BYD เป็นองค์กรไฮเทคชั้นนำของโลก ที่มีขอบเขตธุรกิจครอบคลุมด้านอิเล็กทรอนิกส์, พลังงานใหม่, การขนส่งระบบราง และรถยนต์พลังงานใหม่ ในฐานะ “บริษัทที่เน้นด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม” (Technology-based, Innovation-oriented) BYD ภายใต้การนำของ Mr. Wang Chuanfu, President BYD มีพนักงานกว่า 290,000 คนทั่วโลก โดยมีวิศวกร R&D มากกว่า 40,000 คน และสถาบันวิจัย 11 แห่งทั่วโลก ทีมออกแบบ in-house ประกอบด้วยนักออกแบบกว่า 400 คน จาก 10 ประเทศ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา BYD มุ่งมั่นทุ่มเท คิดค้น พัฒนานวัตกรรม สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เพื่อตอบรับวิสัยทัศน์เพียงหนึ่งเดียวคือ การทำให้โลกเย็นลง 1 องศาเซลเซียส ในปี 2565 BYD ประกาศยกเลิกการผลิตรถยนต์สันดาป และผลิตยานยนต์ไฟฟ้า 100% เป็น “รายแรกของโลก” ล่าสุด BYD มียอดขายรถยนต์พลังงานใหม่ทะลุ 1 ล้านคัน และกลายเป็นแบรนด์จีน  รายแรกที่เข้าสู่ “One Million Club” ของยานยนต์พลังงานใหม่ ซึ่งปัจจุบัน BYD ขยายธุรกิจ ไปกว่า 400 เมือง ในกว่า 70 ประเทศและภูมิภาค ครอบคลุม 6 ทวีป

จุดเริ่มต้นของการผลักดัน NEV Ecosystem ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย

BYD มีที่มาจากคำว่า Build Your Dreams ซึ่งสอดคล้องกับ Rêver จากภาษาฝรั่งเศสที่แปลว่าความฝันเช่นเดียวกัน จุดเชื่อมโยงของ 2 บริษัทคือการสร้างสิ่งแวดล้อมในฝัน มอบอากาศสะอาดให้กับมวลมนุษยชาติ โดย Rêver Automotive มีพันธกิจหลักที่จะเป็น Solutions Provider ด้านพลังงานในฝันรูปแบบใหม่ (New Dream Energy) ซึ่งเริ่มต้นจากการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมยานยนต์พลังงานใหม่จาก BYD แบรนด์รถยนต์อันดับต้นของโลกที่ขึ้นแท่นยอดขาย New Energy Vehicle อันดับ 1 ในจีน ถึง 9 ปีซ้อน และได้รับการยอมรับจากทั่วโลก การันตีด้วยยอดขาย ตั้งแต่ปี 2562 -2565 (มิถุนายน) รวมทั้งหมด 2,150,859 คัน มาให้คนไทยได้สัมผัสในอนาคตอันใกล้นี้ นับเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญสำหรับคนไทย ที่ Rêver Automotive ได้จุดประกายความเป็นไปได้ใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น เพราะไม่เพียงแต่นำเสนอยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานใหม่ (NEV)   จาก BYD เท่านั้น แต่ Rêver Automotive ยังมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อน NEV Nation พร้อมกับสร้างระบบนิเวศที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน

ปั้นแบรนด์ให้แข็งแรง จากรากฐานที่มั่นคง

Rêver Automotive ทุ่มงบลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท พร้อมเตรียมปั้น BYD ให้เป็น Top 5 ในตลาดยานยนต์ไทยภายใน 5 ปี ด้วยกลยุทธ์ที่ผนึกกำลังจากทั้งความรู้ความชำนาญในธุรกิจรถยนต์ของทีมงานกับผลิตภัณฑ์จาก BYD ที่มีความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็น Blade Battery ที่ขึ้นแท่นเป็นแบตเตอรี่ EV ที่ดีและปลอดภัยที่สุดในตลาด ผ่านการทดสอบชนิดเอ็กซ์ตรีมที่เรียกว่า “Nail Penetration Test” ด้วยอายุการใช้งานยาวนานขึ้น ระยะการขับขี่ที่ดีขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือมีความปลอดภัยสูงสุด ช่วยแก้ปัญหา และลดความกังวลด้านความปลอดภัยให้กับตลาดรถยนต์ไฟฟ้า และ e-platform 3.0 แพลตฟอร์มแห่งอนาคตที่ยกระดับการขับขี่รถยนต์ EV ไปอีกขั้น ทั้งอัตราการเร่ง ระยะทางขับขี่ และความเร็วในการชาร์จ การควบคุมอุณหภูมิให้ต่ำอย่างเสถียร ยกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้อัจฉริยะยิ่งขึ้น โดยภายในปีนี้ Rêver Automotive จะเปิดตัวและนำรถยนต์พลังงานใหม่จาก BYD มาให้คนไทยได้สัมผัสนวัตกรรมที่ดียิ่งกว่าอย่างแน่นอน

สำหรับกลยุทธ์การตลาด Rêver Automotive ในฐานะผู้จัดจำหน่ายและให้บริการหลังการขายรถยนต์ BYD ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ตั้งเป้าหมายที่จะเป็น Top ในตลาดรถยนต์พลังงานใหม่ของไทยภายใน 5 ปี ผนึกพลังการบริการการขาย และบริการหลังการขายทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์อย่างเท่าเทียมกัน มุ่งเน้นประสานเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อความพึงพอใจของลูกค้า ผ่าน Rêver Super Application ที่จะเปิดตัวพร้อมรถรุ่นแรก และขยายโครงข่ายพันธมิตร โดยจะมีตัวแทนจำหน่ายที่มีทั้งโชว์รูมและศูนย์บริการหลังการขายเต็มรูปแบบ 31 แห่งภายในปีนี้ นอกจากนี้ยังร่วมมือกับ SHARGE เพื่อเปิดสถานีชาร์จเพิ่มขึ้นจากเดิมในไทยให้ถึง 1,000 สถานี ครอบคลุมทั้งประเทศ ในขณะเดียวกันก็สร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องการใช้รถ EV และการชาร์จไฟภายในบ้านที่สะดวกง่ายดายเหมือนชาร์จดีไวซ์ทั่วๆ ไป ทั้งง่าย รวดเร็ว และคุ้มค่า ตอกย้ำความมั่นใจว่าผู้บริโภคจะได้รับประสบการณ์ใหม่ในการขับขี่อย่างครบวงจร พร้อมร่วมขับเคลื่อนประเทศด้วยพลังงานใหม่

“ในฐานะนักลงทุนที่มองเห็นเทรนด์โลกอนาคต พลังงานใหม่ คือเทคโนโลยีที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงและขับเคลื่อนไปสู่อนาคตที่ดีกว่าได้อย่างแท้จริง การลงทุนที่ถูกทางจะสร้างคุณค่าอย่างมหาศาลให้กับผู้ลงทุนในอนาคต พร้อมจุดประกายและขับเคลื่อนความเป็นไปได้ใหม่ๆ ให้กับมนุษยชาติ นักลงทุนระดับโลกหลายรายที่เข้ามาลงทุนใน BYD ล้วนแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในอนาคตที่เติบโตของแบรนด์ ที่พร้อมจะสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดียิ่งขึ้นให้กับผู้คน” ประธานพร พรประภา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Rêver Automotive จำกัด กล่าว

Advertisement

Advertisement

Atto 3 เปิดตัวในออสเตรเลียเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2022 หรือที่รู้จักในชื่อ Yuan Plus ในประเทศจีน โดยมีราคาตั้งแต่ 44,381 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (หรือประมาณ 1.07 ล้านบาท) ในรุ่น Superior และมีราคาสูงสุด 47,381 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (หรือประมาณ 1.14 ล้านบาท) ในรุ่น Superior Extended Range สำหรับประเทศไทยจะมีการเปิดตัวในวันที่ 10 ตุลาคม นอกจากนี้จะมีการเปิดตัว BYD Dolphin ตามมาหลัง

ปี 2022 เป็นปี ที่เราจะเห็นวิวัฒนาการอย่างรวดเร็ว ของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า และ เป็นการเริ่มต้นใหม่ ในการพัฒนา BYD สำหรับตลาดออสเตรเลีย ” Wang Chuanfu ประธานและประธาน BYD กล่าวในแถลงการณ์ที่งานเปิดตัว EV “ในปีนี้ BYD จะเปิดตัวรถยนต์นั่งพลังงานใหม่หลายรุ่นสู่ตลาดออสเตรเลีย”

BYD Yuan PLUS ออกแบบโดย Chief Interior Design Director Michele Paganetti (อดีตนักออกแบบของ Mercedes-Benz) นั้นแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ในปัจจุบันอื่นๆ ภายใต้แนวคิด “Rhythmic Space” ใหม่ ทำให้รถยนต์เต็มไปด้วยเส้นโค้งอย่างมีสไตล์ แสดงให้เห็นแรงบันดาลใจใหม่ๆของ BYD

BYD Yuan PLUS พัฒนาภายใต้แพลตฟอร์มใหม่ e-platform 3.0 และใช้ภาษาการออกแบบรูปลักษณ์ล่าสุด “Long Yan Aesthetics” 3.0 เพื่อสร้าง SUV ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัด

  • BYD e-platform 3.0 แพลตฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์ไฟฟ้าใหม่ ซึ่งรองรับระบบการขับขี่อัตโนมัติชั้นสูงได้

BYD Yuan Pro EV ภายนอกออกแบบ Dragon Face 3.0 ล่าสุดของตระกูล BYD พร้อมการอัปเดตใหม่หน้าใหม่ โดยเฉพาะบริเวณส่วนหน้ากระจังหน้าแบบปิด ปลายฝากระโปรงโครเมี่ยม อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ BYD พร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ขนาดยาง 215/55 R18 เปิด-ปิดประตูท้ายด้วยระบบสัมผัส

ขนาดตัวถัง

  • ยาว 4455 มม.
  • กว้าง 1875 มม.
  • สูง 1615 มม.
  • ฐานล้อ 2720 มม.
  • ความกว้างล้อหน้า / หลัง : 1,575 / 1,580 มม.
  • ความสูงจากพื้น 175 มม.
  • น้ำหนักตัวรถ : 1,680 – 1,750 กก.

การออกแบบภายในค่อนข้างจะออกแฟนตาชี บนสีทูโทน ลวดลายบริเวณคอนโซลหน้าคล้ายมังกร พร้อมเครื่องปรับอากาศทรงแปลกตา พวงมาลัย 3 ก้านใหม่ ติดตั้ง ปุ่มควบคุมที่พวงมาลัย – เครื่องเสียง, โทรศัพท์, ACC และ Multi-Function Display พร้อมหน้าปัดดิจิตอล 5 นิ้ว คันเกียร์อิเล็กทรอนิกส์ Keyless Entry & Keyless Start

คอนโซลกลางและที่พักแขนขนาดใหญ่ เบาะหนังระดับพรีเมียม เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และผู้โดยสารด้านหน้า 4 ทิศทาง เบาะหลังแยกพับแบบ 60/40 พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระสูงสุด 1,330 ลิตร โดยที่เบาะหลังปรับลง

หน้าจออินโฟเทนเมนท์ขนาดใหญ่ 12.8 นิ้วที่สามารถหมุนได้ระหว่างแนวนอนและแนวตั้ง นอกจากนี้ยังมีร ระบบเสียง Dirac ลำโพง 8 ตัว ระบบชาร์จมือถือแบบไร้สาย หลังคาซันรูฟไฟฟ้า

รุ่นท๊อป Extended Range

  • มอเตอร์ฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor ให้กำลัง 201 แรงม้า
  • แรงบิตสูงสุด 310 นิวตัน-เมตร
  • BYD Blade Battery 60.48KWh
  • สามารถวิ่งได้ 480 กม./ชาร์จ NEDC (420 กม./ชาร์จ WLTP)
  • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม ภายใน 7.3 วินาที
  • หัวชาร์จแบบ Type 2
  • หัวชาร์จแบบ CCS2  รองรับได้สูงสุด 80 kW (Extended Range)
  • ราคาจำหน่าย 47,381 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1.58 ล้านบาท

BYD Atto 3 Super Charger DC MAX (80kw) และสามารถชาร์จใหม่ได้ในเวลาประมาณ 45 นาที พร้อม รับประกันแบตเตอรี่ 7 ปี

ระบบช่วงล่าง

  • ช่วงล่างหน้า MacPherson Strut
  • ช่วงล่างหลัง Suspension Multi-Link
  • เบรกหน้า Ventilated Discs
  • เบรกหลัง Discs

ระบบความปลอดภัยมาตรฐาน เช่น

  • ถุงลมนิรภัย SRS ด้านหน้า 7 ตำแหน่ง
  • เบรกมือไฟฟ้า (EPB)
  • ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS)
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (ESP)
  • ระบบควบคุมการลื่นไถล (TCS)
  • ระบบกระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EBD)
  • ระบบ​ควบคุม​ขณะ​ขับ​ลง​ทาง​ลาดชัน (HDC)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ (ICC)
  • ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)
  • คำเตือนการชนด้านหน้า (FCW)
  • คำเตือนการชนท้าย (RCW)
  • คำเตือนเปิดประตู (DOW)
  • คำเตือนการออกนอกเลน (LDW)
  • ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ (LKA)
  • ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ (RCTA)
  • ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB)
https://youtube.com/watch?v=u1mGyaJxIMI%3Ffeature%3Doembed

BYD / Whichcar.com.au/

Advertisement

Advertisement

ใส่ความเห็น

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้