BYD มีนอย TANG L SUV ไฟฟ้าที่ดีกว่า Xiaomi YU7 แต่ไม่มีคนสนใจ
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา Xiaomi ได้เปิดตัวรถยนต์ SUV รุ่น YU7 ที่หลายคนตั้งตารอคอยในประเทศจีน และสามารถกวาดยอดจองแบบล็อกอิน (ไม่คืนเงิน) ได้ถึง 240,000 คันภายใน 18 ชั่วโมง! แม้สื่อจะมุ่งเน้นไปที่ผลกระทบต่อรถยนต์ SUV อย่าง Tesla Model Y ซึ่งน่าจะได้รับผลกระทบจากยอดขาย YU7 ในจีน แต่ SUV รุ่นใหม่ของ Xiaomi ก็จะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อสตาร์ทอัพ EV ของจีน รวมถึงผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ๆ อย่าง BYD ด้วย
ทำให้แบรนด์อย่าง BYD มีเหตุผลที่ต้องไม่พอใจอย่างมาก ไม่เพียงแต่ YU7 จะสร้างแรงกดดันต่อยอดขายรถ SUV ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ของพวกเขา เช่น Sealion 8 และ Song L เท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะ Xiaomi ดำเนินการเปิดตัว YU7 เข้าสู่ตลาดได้ดีเพียงใด และวิธีที่พวกเขาใช้ประโยชน์จากการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งและฐานลูกค้าที่เป็นแฟนตัวยง
ในเดือนเมษายน ผู้ผลิตรถยนต์จากเซินเจิ้น BYD ได้เปิดตัว SUV เรือธงของพวกเขาในชื่อ BYD Tang L โดยที่ไม่มีการจองล่วงหน้าหลายพันคัน ไม่มียอดขายหลายพันคันในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และไม่ได้รับความสนใจจากสื่อกระแสหลักส่วนใหญ่ เหตุผลเดียวที่คุณอาจรู้จักรถคันนี้ คือการรองรับการชาร์จเร็วพิเศษของ BYD และความจริงที่ว่าสามารถชาร์จระยะทาง 370 กม. ได้ในเวลาเพียง 5 นาที
เปรียบเทียบ BYD Tang L และ Xiaomi YU7
- BYD Tang L เริ่มต้นที่ 239,800 หยวน (ประมาณ 1,088,000 บาท) ซึ่งถูกกว่า YU7 อยู่ 13,700 หยวน (ประมาณ 62,000 บาท) เป็นรถขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) พร้อมมอเตอร์เดี่ยว 500 kW ซึ่งหมุนได้ 30,511 รอบต่อนาที (RPM) ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 240 กม./ชม. มี สถานีเชื่อมต่อโดรนติดตั้งบนหลังคา ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 0.29 ตร.ม. เปิดได้ด้วยการคลิกปุ่มและปล่อยโดรนออกมา
- Xiaomi YU7 รุ่นเริ่มต้น ราคา 253,500 หยวน หรือ 1,150,000 บาท เป็นรถขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) พร้อมมอเตอร์เดี่ยว ให้กำลังสูงสุด 319 แรงม้า PS และหมุนได้สูงสุด 22,000 RPM ความเร็วสูงสุดเท่ากันที่ 240 กม./ชม.
แบตเตอรี่และการชาร์จ
- Tang L RWD ใช้แบตเตอรี่ LFP Blade ขนาด 100.5 kWh ซึ่งสามารถให้ระยะทาง CLTC ได้ 670 กม. ใช้แพลตฟอร์มการชาร์จ 1000V ของ BYD และแบตเตอรี่มีอัตราการชาร์จ 8.4C
- BYD Tang L ยังรองรับการชาร์จแบบสองหัว ทำให้คุณสามารถเสียบสายชาร์จสองเส้นพร้อมกันได้ SUV สามารถชาร์จจาก 10% ถึง 70% ได้ใน 6 นาที และจาก 0 – 100% ใน 29.7 นาที นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มระยะทาง CLTC ได้ 370 กม. ใน 5 นาที
- Xiaomi YU7 ใช้แบตเตอรี่ LFP ขนาด 96.3 kWh จาก CATL ให้ระยะทาง CLTC 835 กม. ใช้การชาร์จ 800V และแบตเตอรี่มีอัตราการชาร์จ 5.2C สามารถชาร์จจาก 10% ถึง 80% ได้ใน 21 นาที และเพิ่มระยะทาง 465 กม. ได้ใน 15 นาที
ระบบช่วยขับขี่ (ADAS)
- BYD Tang L มีระบบ ADAS DiPilot 300 (God’s Eye B) ที่ขับเคลื่อนด้วย Nvidia Drive Orin X ซึ่งให้พลังประมวลผล 254 TOPS (ล้านล้านการทำงานต่อวินาที)
- Xiaomi YU7 มี Xiaomi Assisted Driving Pro ADAS ซึ่งขับเคลื่อนด้วย Nvidia Drive AGX Thor ที่ให้พลังประมวลผล 700 TOPS ในทางทฤษฎี Xiaomi เป็นผู้ชนะในจุดนี้ อย่างไรก็ตาม นักรีวิวหลายคนต่างก็พูดถึง ADAS ของ Xiaomi อย่างระมัดระวัง โดยบอกว่ายังมีพื้นที่ให้ปรับปรุง และค่อนข้าง “อนุรักษ์นิยม” ความเห็นที่ฉันชอบที่สุดมาจาก Sean นักรีวิวรถยนต์จาก Telescope ซึ่งได้ทดสอบกับ SU7 Ultra และอธิบายว่า “สิ่งสุดท้ายที่คุณต้องการเมื่อขับรถ 1500 แรงม้า คือการโดนบีบแตรเพราะขับช้า และวันนี้ผมโดนบีบแตร”
ขนาดและน้ำหนัก
BYD Tang L มีขนาดใหญ่กว่า YU7 เล็กน้อยและหนักกว่ามาก ขนาดที่แน่นอนมีดังนี้ (ยาว/กว้าง/สูง):
- BYD Tang L: 5040/1996/1760 มม. ระยะฐานล้อ 2,950 มม.
- Xiaomi YU7: 4999/1996/1608 มม. ระยะฐานล้อ 3,000 มม.
น้ำหนักรถเปล่าของ Tang L คือ 2,675 กก. ในขณะที่น้ำหนักรถเปล่าของ YU7 คือ 2,315 กก.
การใช้พลังงาน
เนื่องจากมอเตอร์ที่ทรงพลังกว่า น้ำหนักที่มากกว่า และการเพิ่มประสิทธิภาพที่ดีขึ้น YU7 จึงมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Tang L ในด้านการใช้พลังงาน โดยมีอัตราการใช้พลังงานอยู่ที่ 13.3 kWh/100 กม. เทียบกับ 17.4 kWh/100 กม. ซึ่งไม่น่าแปลกใจเพราะการใช้พลังงานไม่ใช่จุดที่ BYD ทำได้ดีโดยทั่วไป
BYD Tang L เหนือกว่า YU7 ในหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแพลตฟอร์มอี (e-platform) ความสามารถในการชาร์จ และกำลังมอเตอร์ YU7 โดดเด่นในด้านการใช้พลังงาน การเชื่อมต่อ และรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ มากมายที่แฟนๆ Xiaomi จะชื่นชอบ
การเปรียบเทียบสเปคสำคัญ
