Chery ส่งออกรถยนต์จากจีน 1.18 ล้านคันใน 11 เดือนแรก BYD 878,498 คัน ประจำปี 2025

Chery ส่งออกรถยนต์จากจีน 1.18 ล้านคันใน 11 เดือนแรก BYD 878,498 คัน ประจำปี 2025
Spread the love
Advertisement Advertisement








 

BYD จ่อสร้างประวัติศาสตร์ ส่งออกรถยนต์ทะลุ 1 ล้านคันในปี 2025 ตัวเลขพุ่งแรง ไล่จี้ Chery และแซง Tesla ในหลายตลาด

สรุปไฮไลต์: ข้อมูลอุตสาหกรรมล่าสุด (เผยแพร่ 23 ธ.ค. 2025) ระบุว่า BYD ส่งออกรถยนต์นั่งเดือนพฤศจิกายน 2025 จำนวน 128,067 คัน โต +313.4% YoY และ +59.9% MoM ขณะเดียวกันยอดส่งออกสะสม ม.ค.–พ.ย. 2025 แตะ 878,498 คัน โต +144% จนมีโอกาสสูงมากที่จะ ทะลุ 1 ล้านคันในปี 2025 หากเดือนธันวาคมทำได้ใกล้เคียงพฤศจิกายน

หมายเหตุ: บทความนี้เรียบเรียงและขยายความจากชุดข้อมูลและตารางอันดับ “Passenger car exports” ที่อ้างอิงจาก Yiche Ranking ตามข้อความต้นฉบับที่ผู้ใช้ให้มา

ทำไม “1 ล้านคันส่งออก” ของ BYD จึงเป็นเหตุการณ์ใหญ่ระดับอุตสาหกรรม

การส่งออกรถยนต์ครบ 1 ล้านคันภายในปีเดียว ไม่ได้เป็นเพียงสถิติที่สวยงามในเชิงประชาสัมพันธ์ แต่เป็นตัวชี้วัด “ความพร้อมระดับโลก” ในหลายมิติพร้อมกัน ได้แก่

1) ความสามารถด้านกำลังการผลิตและซัพพลายเชน
การจะส่งออกรถจำนวนมากในเวลาจำกัด ต้องอาศัยซัพพลายเชนที่มั่นคง ตั้งแต่แบตเตอรี่ มอเตอร์ ระบบอิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงโลจิสติกส์และการจัดส่งที่มีประสิทธิภาพ

2) ความสามารถด้านการทำตลาดข้ามภูมิภาค
แต่ละประเทศมีมาตรฐานความปลอดภัย กฎด้านภาษี โครงสร้างราคา และความต้องการผู้บริโภคต่างกัน การเติบโตของ BYD ในหลายทวีปพร้อมกันสะท้อนว่าแบรนด์กำลัง “จับจังหวะตลาด” ได้ดี

3) จุดเปลี่ยนเชิงโครงสร้าง: จาก ICE สู่ NEV
สิ่งที่ทำให้กรณีของ BYD มีนัยสำคัญเป็นพิเศษ คือ BYD ถูกระบุว่า ผลิตเฉพาะรถพลังงานใหม่ (NEVs) ซึ่งหมายความว่ายอดส่งออกที่พุ่งขึ้นนั้นกำลังผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่ยุครถไฟฟ้า/ปลั๊กอินไฮบริดอย่างเป็นรูปธรรม

ตัวเลขสำคัญ: พ.ย. 2025 ส่งออก 128,067 คัน โต 313.4% YoY

ตัวเลขของเดือนพฤศจิกายน 2025 เป็นประเด็นที่ต้องหยิบมาเน้น เพราะเป็นเดือนที่ BYD เร่งความเร็วอย่างชัดเจนทั้งสองมิติ

• ยอดส่งออกเดือนพฤศจิกายน 2025: 128,067 คัน
• เติบโตเมื่อเทียบรายปี (YoY): +313.4%
• เติบโตเมื่อเทียบรายเดือน (MoM): +59.9%

การโตพร้อมกันทั้ง YoY และ MoM ในระดับสูงเช่นนี้ มักสะท้อน 3 สมมติฐานหลักในเชิงอุตสาหกรรม ได้แก่

(ก) การส่งมอบล็อตใหญ่ปลายไตรมาส/ปลายปี
ปลายปีมักเป็นช่วงที่ผู้ผลิตเร่งส่งมอบเพื่อปิดยอด ทั้งฝั่งคำสั่งซื้อจากต่างประเทศและการจัดตารางเรือขนส่ง

(ข) การขยายเครือข่ายประเทศปลายทาง
หากเครือข่ายดีลเลอร์/พันธมิตรในต่างประเทศเริ่มนิ่ง ยอดจะกระโดดแบบขั้นบันได ไม่ได้โตแบบค่อยเป็นค่อยไป

(ค) การแข่งขันด้านราคาและผลิตภัณฑ์ที่ “ลงตัว” กับตลาด
ตลาดที่เป็นเป้าหมายของ BYD จำนวนมากเป็นตลาดที่ผู้บริโภคไวต่อราคา แต่ต้องการเทคโนโลยีและต้นทุนการใช้งานต่ำ (TCO) ซึ่งรถ NEV ตอบโจทย์ได้ดี

ยอดส่งออกสะสม 11 เดือน: 878,498 คัน (+144%) และเหตุผลที่ “เกือบการันตี” ทะลุ 1 ล้าน

ข้อมูลสะสม มกราคม–พฤศจิกายน 2025 ของ BYD อยู่ที่ 878,498 คัน เติบโต +144% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ประเด็นสำคัญที่ต้นฉบับย้ำไว้คือ ตัวเลขนี้ มากกว่ายอดส่งออกรวมทั้งปี 2024 ของ BYD แล้วมากกว่าสองเท่า ทำให้ปี 2025 กลายเป็นปีที่ “ความเร็ว” ของการขยายตลาดต่างประเทศสูงกว่าปีที่ผ่านมาอย่างชัดเจน

คำนวณทางตรรกะจากตัวเลขที่มี:
BYD ทำได้ 878,498 คันใน 11 เดือน หากเดือนธันวาคมทำได้เพียงใกล้เคียงกับพฤศจิกายน (128,067 คัน) ยอดทั้งปีจะขยับไปใกล้ 1,006,565 คัน ซึ่งหมายความว่า “เพียงรักษาระดับเดิม” ก็พอที่จะทะลุ 1 ล้านคันได้แล้ว

นี่คือเหตุผลที่บรรณาธิการของต้นฉบับสรุปว่า BYD แทบจะ “การันตี” สถิติดังกล่าว หากไม่มีปัจจัยสะดุดด้านโลจิสติกส์หรือการส่งมอบในเดือนธันวาคม

อันดับผู้ส่งออกเดือนพฤศจิกายน: BYD ไล่จี้ Chery แบบระยะประชิด

ในเดือนพฤศจิกายน 2025 ตาราง “Passenger car exports — November 2025 (Top 20 manufacturers)” ระบุว่า

• อันดับ 1: Chery 135,190 คัน
• อันดับ 2: BYD 128,067 คัน

ช่องว่างระหว่างสองรายอยู่ที่เพียง 7,123 คัน ซึ่งถือว่า “แคบ” เมื่อเทียบกับขนาดตลาดส่งออกจีนในภาพรวม และยิ่งแคบลงไปอีกเมื่อมองว่า BYD โต YoY สูงถึง +313.4% ในขณะที่ Chery โต YoY +29.2% เท่านั้น

มุมมองเชิงการแข่งขัน:
หาก BYD ยังรักษาแรงส่งแบบเร่งตัว (Acceleration) ในไตรมาสถัดไปได้ โอกาสแซงอันดับรายเดือน “เกิดขึ้นได้” โดยเฉพาะในเดือนที่ Chery ไม่ได้เร่งส่งออกล็อตใหญ่

แตกต่างอย่างมีนัย: Chery ส่งออก ICE เป็นหลัก แต่ BYD คือ NEV ล้วน

ต้นฉบับชี้ว่า ช่องว่างระหว่าง BYD กับ Chery มีความน่าสนใจ 2 เหตุผลสำคัญ

เหตุผลที่ 1: โครงสร้างสินค้าไม่เหมือนกัน
Chery ถูกระบุว่า “ส่งออกส่วนใหญ่เป็นรถเครื่องยนต์สันดาป (ICE)” ขณะที่ BYD “ผลิตเฉพาะรถพลังงานใหม่ (NEV)” ทำให้การไล่จี้ของ BYD เป็นการสะท้อนการเติบโตของตลาด NEV ในเวทีโลกโดยตรง

Advertisement Advertisement

เหตุผลที่ 2: ช่องว่างเดือนพฤศจิกายนแคบมาก
เมื่อช่องว่างรายเดือนใกล้กันมาก ความเป็นไปได้ที่ BYD จะมียอดเดือนธันวาคมเหนือ Chery จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจในเชิงสถิติ

นัยสำคัญคือ “ผู้นำส่งออกรถจีน” อาจกำลังเปลี่ยนมือจากผู้เล่นที่พึ่ง ICE ไปสู่ผู้เล่นที่ขับเคลื่อนด้วย NEV เป็นหลัก ซึ่งสะท้อนทิศทางอุตสาหกรรมโลกในระยะยาว

BYD ครองแชมป์ยอดขาย NEV หลายประเทศ และขึ้นแบรนด์อันดับ 1 ในบางตลาด

ต้นฉบับระบุว่าในเดือนพฤศจิกายน BYD เป็นผู้นำยอดขายรถพลังงานใหม่ในหลายประเทศ ได้แก่ บราซิล ตุรกี อิตาลี สเปน ฮังการี และโครเอเชีย อีกทั้งยังขึ้นเป็น “แบรนด์ยอดขายรวมอันดับ 1” ในบางตลาด เช่น สิงคโปร์

หากดูสะสม 11 เดือนแรกของปี 2025 BYD ยังนำตลาด NEV ใน บราซิล ตุรกี สเปน และอิตาลี และเป็นแบรนด์ยอดขายรวมอันดับ 1 ใน สิงคโปร์และฮ่องกง

ความหมายเชิงกลยุทธ์: การขึ้นเป็นผู้นำ “NEV” บ่งชี้ถึงความแข็งแรงของพอร์ตสินค้าพลังงานใหม่ แต่การขึ้นเป็น “แบรนด์ยอดขายรวม” คือการชนะในสนามที่รวมทั้ง ICE/HEV/NEV ซึ่งยากกว่าและสะท้อนอำนาจแบรนด์ในระดับหนึ่ง

แซง Tesla แล้ว 11 ตลาด: สัญญาณว่าเกม EV เข้าสู่ยุค “ผู้คุมต้นทุน”

หนึ่งในประเด็นเด่นที่สุดคือ BYD ถูกระบุว่า มียอดขายแซง Tesla ใน 11 ตลาดสำคัญ ในปี 2025 ได้แก่

ยุโรป: สหราชอาณาจักร, เยอรมนี, อิตาลี, สเปน, ออสเตรีย, ไอร์แลนด์
เอเชีย: มาเลเซีย, ตุรกี, สิงคโปร์, ไทย, จีน

อ่านเกมแบบอุตสาหกรรม: สัญญาณนี้ไม่ได้หมายความว่า Tesla อ่อนแอลงในทุกมิติ แต่สะท้อนว่า BYD กำลังแข็งแรงขึ้นในเรื่อง “ความหลากหลายรุ่น/ช่วงราคา” และการทำตลาดเชิงพื้นที่ (Localization) ที่บางประเทศต้องการรถในราคาที่เข้าถึงได้มากกว่า

ในทางปฏิบัติ การแข่งขัน EV ระยะถัดไปมักไม่ใช่แค่ “ใครเทคโนโลยีล้ำกว่า” แต่เป็น “ใครบริหารต้นทุนและซัพพลายเชนได้ดีกว่า” เพื่อทำราคาแข่งขันพร้อมรักษามาร์จิ้นในระยะยาว

ขยายแผนที่โลก เข้าถึง 119 ประเทศ/ภูมิภาค และผลิต NEV ครบ 15 ล้านคัน

ณ เดือนธันวาคม 2025 ต้นฉบับระบุว่า รถพลังงานใหม่ของ BYD เข้าถึงแล้ว 119 ประเทศและภูมิภาค ทั่วโลก

พร้อมกันนั้น BYD ยังทำหมุดหมายใหม่เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2025 ด้วยการผลิตรถพลังงานใหม่ครบ 15 ล้านคัน และถูกระบุว่าเป็น “ผู้ผลิตรถยนต์รายแรกที่ทำได้”

ความหมายเชิงอุตสาหกรรม: ปริมาณการผลิตสะสมระดับนี้ช่วยให้เกิด Economy of Scale ทั้งในสายการผลิต แบตเตอรี่ การจัดซื้อชิ้นส่วน และการกระจายต้นทุน R&D ซึ่งมักกลายเป็นข้อได้เปรียบสำคัญในการทำตลาดต่างประเทศ

มุมมองบรรณาธิการ ทำไม BYD “เกือบการันตี” ทะลุ 1 ล้านคันในปี 2025

ต้นฉบับสรุปไว้ชัดเจนว่า ด้วยยอดส่งออก 11 เดือนที่ 878,498 คัน และยอดเดือนพฤศจิกายน 128,067 คัน เพียงเดือนธันวาคมทำได้ใกล้เคียงเดิม BYD ก็มีโอกาสสูงมากที่จะทะลุ 1 ล้านคัน

แม้ในเชิงปริมาณ BYD ยังตามหลัง Chery แต่ความแตกต่างเชิงคุณภาพอยู่ที่ “BYD คือ NEV ล้วน” ในขณะที่ Chery มีสัดส่วน ICE สูงกว่า ทำให้การไล่จี้ครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นภาพสะท้อนของการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมยานยนต์โลก

บทสรุป: ปี 2025 อาจถูกจดจำว่าเป็นปีที่ BYD เปลี่ยนสถานะจาก “ผู้เล่นจีนที่เติบโตเร็ว” ไปสู่ “ผู้เล่นระดับโลกที่กำหนดทิศทางตลาด NEV” อย่างจริงจัง

สิ่งที่ควรจับตาต่อในเดือนธันวาคม และปี 2026

1) ยอดส่งออกเดือนธันวาคม 2025
หากทำได้มากกว่า 128,067 คัน จะเป็นการตอกย้ำแรงส่งปลายปี และอาจ “แซง Chery รายเดือน” ได้

2) รูปแบบการแข่งขันในแต่ละภูมิภาค
ยุโรปมีการแข่งขันด้านมาตรฐาน/กฎระเบียบสูง ขณะที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และลาตินอเมริกามักแข่งขันด้านราคา–ความคุ้มค่า–เครือข่ายบริการ

3) ความสามารถในการรักษามาร์จิ้น
เมื่อการส่งออกเพิ่มขึ้น คำถามสำคัญคือ BYD จะรักษากำไรต่อคันได้ดีแค่ไหน โดยเฉพาะในตลาดที่มีสงครามราคา

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) สำหรับ SEO

BYD จะส่งออกรถครบ 1 ล้านคันในปี 2025 ได้จริงหรือไม่?

จากตัวเลขส่งออกสะสม ม.ค.–พ.ย. 2025 ที่ 878,498 คัน หากเดือนธันวาคมทำได้ใกล้เคียงพฤศจิกายน (128,067 คัน) ยอดรวมทั้งปีมีแนวโน้มสูงมากที่จะเกิน 1 ล้านคัน

ทำไมการไล่จี้ Chery ของ BYD จึงน่าสนใจ?

เพราะ Chery ถูกระบุว่าเน้นส่งออก ICE เป็นหลัก ขณะที่ BYD ผลิตเฉพาะ NEV ทำให้การแข่งขันครั้งนี้สะท้อนการเปลี่ยนผ่านของตลาดโลกสู่รถพลังงานใหม่อย่างชัดเจน

BYD แซง Tesla ในประเทศไหนบ้างในปี 2025?

ต้นฉบับระบุ 11 ตลาด ได้แก่ สหราชอาณาจักร เยอรมนี อิตาลี สเปน ออสเตรีย ไอร์แลนด์ มาเลเซีย ตุรกี สิงคโปร์ ไทย และจีน

BYD เป็นผู้นำยอดขาย NEV ในประเทศใดบ้าง?

ในเดือนพฤศจิกายน BYD นำยอดขาย NEV ในบราซิล ตุรกี อิตาลี สเปน ฮังการี และโครเอเชีย และยังเป็นแบรนด์ยอดขายรวมอันดับ 1 ในสิงคโปร์

Passenger car exports — November 2025 (Top 20 manufacturers)

Rank Manufacturer Export volume (vehicles) MoM YoY
1 Chery 135,190 +8.3% +29.2%
2 BYD 128,067 +59.9% +313.4%
3 SAIC Passenger Vehicle 54,289 +19.7% +7.8%
4 Great Wall Motor 50,775 -1.8% +31.5%
5 Geely 42,091 +1.3% +28.3%
6 Changan 19,902 -19.5% +38.5%
7 SAIC-GM-Wuling 19,813 -10.0% +5.5%
8 Jiangsu Yueda Kia 15,812 -0.2% -7.5%
9 Tesla China 13,555 -61.8% +152.6%
10 Dongfeng 11,704 -6.8% +35.5%
11 JAC 11,515 +22.1% +33.8%
12 JMC Ford 10,176 -9.3% n/a
13 Leapmotor 9,348 +42.4% +608.7%
14 SAIC-GM 8,843 +29.7% +28.2%
15 GAC Trumpchi 8,244 +36.9% -20.7%
16 Livan 7,083 +43.8% +8.6%
17 Spotlight 6,617 +134.5% n/a
18 Changan Ford 6,277 +13.4% -13.0%
19 Beijing Hyundai 5,424 +18.0% +18.6%
20 XPeng 5,057 +1.2% +40.4%
Source: Yiche Ranking

Passenger car exports — Jan–Nov 2025 (Top 20 manufacturers)

Rank Manufacturer Export volume (vehicles) YoY change
1 Chery 1,188,337 +14.0%
2 BYD 878,498 +144.0%
3 SAIC Passenger Vehicles 481,239 -1.5%
4 Great Wall Motor 390,578 +6.9%
5 Geely 378,594 +4.8%
6 Changan 276,156 +4.8%
7 Tesla China 222,706 -10.5%
8 SAIC-GM-Wuling 217,978 +22.7%
9 Jiangsu Yueda Kia 159,650 +4.0%
10 Dongfeng 114,233 +110.4%
11 JAC 108,596 -13.8%
12 GAC Trumpchi 66,615 -21.7%
13 Beijing Hyundai 60,514 +76.0%
14 Volvo Asia Pacific 60,503 -60.1%
15 Changan Ford 56,725 -9.5%
16 Leapmotor 53,685 +1019.6%
17 JMC Ford 49,543 n/a
18 Spotlight 48,745 n/a
19 SAIC-GM 42,442 -36.9%
20 Polestar 41,409 +2.8%
Source: Yiche Ranking

carnewschina

Advertisement Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้