Dacora Motors ท้าชน Cadillac Celestiq เปิดตัวรถหรูสุดแหวกแนวเริ่ม 16.3 ล้านบาทในสหรัฐฯ

สรุปรถหรู Dacora Motors สู้ Cadillac Celestiq
- รถไฟฟ้าหรูหน้าใหม่จาก Dacora Motors เคลมว่าเป็น “อัลตร้าลักชัวรีผลิตในอเมริกาคันแรกในรอบเกือบ 100 ปี”
- ดีไซน์ย้อนยุคแหวกแนว แรงบันดาลใจจากยุค 1930, ฝากระโปรงไม้, ไฟหน้ากลม, ล้อคลุมหลัง, ตัวรถสูงเท่า SUV
- ห้องโดยสารหรูแบบธรรมชาติ ไม่มีพลาสติก ใช้ไม้ ขนแกะ หนังปลอดสารพิษ / หน้าจอซ่อนได้ / อินโฟเทนเมนต์ฉายบนไม้
- ภายในเปลี่ยนได้ตามฤดูกาล เช่น ขนแกะฤดูหนาว ลินินฤดูร้อน / มีตัวเลือก 3–7 ที่นั่ง พร้อมฟีเจอร์หรู: เครื่องชงกาแฟ, บอนไซ, ตู้นิรภัย
- พลังแรง 800+ แรงม้า วิ่งได้ 400 กม./ชาร์จ / เร่ง 0-100 ใน 4 วินาที / มีรุ่นไฮบริดให้เลือก
- ผลิตในนิวยอร์ก ราคาคันละ 500,000 ดอลลาร์ (จองได้ด้วยเงินมัดจำ 50,000 ดอลลาร์)
- ยอดจองทะลุแผนผลิตปีแรกแล้ว แต่ยังไม่มีตัวเลขชัดเจน
Dacora Motors ท้าชน Cadillac Celestiq ด้วยรถหรูสุดแหวกแนว ผลิตมือในนิวยอร์ก เริ่มต้น 500,000 ดอลลาร์
บริษัทสตาร์ทอัพหน้าใหม่ Dacora Motors กำลังสร้างกระแสในวงการยานยนต์สหรัฐฯ ด้วยการเปิดตัวรถหรูรุ่นแรกที่พวกเขาเคลมว่าเป็น “รถยนต์อัลตร้าลักชัวรีที่ผลิตในอเมริกาเป็นครั้งแรกในรอบเกือบศตวรรษ” — ซึ่งแน่นอนว่า Cadillac คงไม่เห็นด้วยกับคำกล่าวอ้างนี้
ดีไซน์ย้อนยุคสุดแปลกตา
รถของ Dacora Motors มีดีไซน์ที่ดูราวกับว่าให้ AI จินตนาการว่ารถหรูในสไตล์ Volkswagen Beetle จะมีหน้าตาแบบไหน แต่ทางบริษัทบอกว่ารถรุ่นนี้ออกแบบร่วมกับ Pininfarina สตูดิโอออกแบบชื่อดังจากอิตาลี และได้รับแรงบันดาลใจจากยุค Streamline Moderne ของทศวรรษ 1930
- Dacora Motors เป็นสตาร์ทอัพ EV สัญชาติอเมริกันที่มุ่งสร้างรถยนต์ระดับ ultra‑luxury โดยชูจุดเด่นในการ ออกแบบรถย้อนยุค 1930s สไตล์ Streamline Moderne ผสมกับงานหัตถศิลป์แบบโคชบิลด์ (coach‑built) และวัสดุพรีเมียม เช่น ไม้เนื้อแข็ง หนังถักและผ้าวูล
- Dacora Motors ก่อตั้งขึ้นในปี 2023 โดยมีผู้ก่อตั้ง คือ Kristie และ Eric D’Ambrosio‑Correll ซึ่งต่างเป็นบัณฑิตจาก MIT และร่วมกันก่อตั้งแบรนด์แห่งนี้เพื่อสร้างรถยนต์ EV หรูระดับ ultra‑luxury ที่ผลิตจากสหรัฐอเมริกา หากสนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวคิด วิศวกรรม หรืออนาคตของพวกเขา
รายละเอียดตัวถังประกอบด้วย
- ฝากระโปรงไม้ทำมือ
- ไฟหน้าทรงกลม
- บังโคลนหนา
- ล้อสไตล์มินิมอล
- เส้นโครเมียมตกแต่งแนวย้อนยุค
- กระจกหลังคาแบบโดดเด่น
- ท้ายลาดคล้ายฟาสต์แบ็ก
- ไฟท้ายทรง Afterburner
- ล้อหลังมีฝาครอบ
- ความสูงจากพื้นคล้าย SUV (191 มม.)
ห้องโดยสาร: หรู เรียบ และเปลี่ยนได้ตามฤดูกาล
ห้องโดยสารเน้นความเรียบหรูโดยไม่มีพลาสติกเลย ใช้วัสดุอย่างไม้แท้ ขนแกะทอ และ bioleather ปราศจากสารพิษ โดยปฏิเสธคอนเซ็ปต์ “จอภาพครองแดชบอร์ด” ด้วยการซ่อนจอดิจิทัลไว้หลังแผงไม้กึ่งโปร่งแสง และโปรเจกต์หน้าจออินโฟเทนเมนต์ลงบนแผงไม้
ความพิเศษ:
-
ห้องโดยสารโมดูลาร์ เปลี่ยนได้ตามฤดูกาล เช่น ขนแกะสำหรับฤดูหนาว ลินินสำหรับฤดูร้อน
-
เลือกได้ 3–7 ที่นั่ง
- 3 ที่นั่ง Executive Lounge พร้อมโต๊ะทำงาน
- 4 ที่นั่ง Captain Chair พร้อมคอนโซลสั่งทำ
- 6–7 ที่นั่ง Bench Seat พร้อมพื้นที่วางขาด้านหลังสูงสุด 1,143 มม.
คอนโซลกลางมีตัวเลือกแปลกใหม่
- กล่องใส่ซิการ์
- เครื่องชงเอสเพรสโซในตัว
- สวนบอนไซใต้โดมแก้ว
- ตู้นิรภัยไบโอเมตริกซ์
- ตู้เย็นขนาดเล็ก
พลังงานไฟฟ้าเต็มพิกัด หรือเลือกเป็นไฮบริดก็ได้
แม้รายละเอียดทางเทคนิคจะยังคลุมเครือ แต่ Dacora เคลมว่าสเปกคร่าว ๆ จะมี:
- กำลังมากกว่า 800 แรงม้า (597 กิโลวัตต์ / 811 PS)
- ระยะทางวิ่ง 400 ไมล์ (644 กม.) ต่อการชาร์จ
- น้ำหนักรวม 6,500 ปอนด์ (2,948 กก.)
- เร่งจาก 0–96 กม./ชม. ได้ภายใน 4 วินาที
นอกจากนี้ ยังมีรุ่น ไฮบริด ให้เลือกด้วย แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดใด ๆ
ผลิตในนิวยอร์ก ราคาเริ่มต้น 500,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 16.3 ล้านบาท รถทุกคันจะผลิตด้วยมือที่โรงงานของบริษัทใน Hudson Valley บนพื้นที่ 100 เอเคอร์ รัฐนิวยอร์ก เปิดจองแล้ววันนี้ด้วยเงินมัดจำ 50,000 ดอลลาร์ (คืนได้) หรือ 1.63 ล้านบาท
แม้จะเปิดราคาสูงกว่า Cadillac Celestiq ที่เริ่มต้นราว 340,000 ดอลลาร์ หรือ 11.1 ล้านบาท แต่ Dacora อ้างว่ามียอดจองล่วงหน้าเกิน 150% ของกำลังการผลิตปีแรกแล้ว แม้จะไม่บอกจำนวนชัดเจนก็ตาม