Euro NCAP คืออะไร และ “ดาว” มาจากอะไรบ้าง

Euro NCAP (European New Car Assessment Programme) คือโครงการประเมินความปลอดภัยรถยนต์ใหม่ในยุโรป โดยทดสอบการชนและระบบช่วยเหลือความปลอดภัย แล้วสรุปผลเป็นระดับดาว 0–5 ดาว

การประเมินจะแบ่งเป็น 4 หมวดหลัก (เรียกง่าย ๆ ว่า “4 เสาหลัก”) ได้แก่

• Adult Occupant Protection – การปกป้องผู้โดยสารผู้ใหญ่
• Child Occupant Protection – การปกป้องผู้โดยสารเด็ก
• Vulnerable Road Users – การปกป้องผู้ใช้ถนนที่เปราะบาง เช่น คนเดินเท้า/นักปั่น
• Safety Assist – ระบบช่วยเหลือความปลอดภัย เช่น AEB, LKA, การตรวจจับ/เตือน ฯลฯ

ดาว 5 ดวงจึงไม่ได้หมายถึง “ตัวถังแข็ง” อย่างเดียว แต่เป็นผลรวมของทั้งตัวถัง + ถุงลม + ระบบช่วยขับ + การปกป้องคนเดินถนน ฯลฯ

ประเด็นใหญ่ของปี 2025 “ผ่านครั้งเดียว ไม่ได้แปลว่าผ่านตลอดไป”

หลายคนเข้าใจว่า รถรุ่นหนึ่งเคยได้ 5 ดาวแล้ว ก็จะเป็น “5 ดาวตลอดกาล” แต่ในความจริง Euro NCAP/ANCAP มีการปรับเกณฑ์ให้เข้มขึ้นเป็นระยะ และการประเมินซ้ำสามารถทำให้ดาวเปลี่ยนได้

พูดให้ชัดคือ ดาวเป็นผลของ “มาตรฐาน ณ ปีนั้น ๆ” ไม่ใช่ตราประทับนิรันดร์

Euro NCAP 2025 เปลี่ยนอะไร? ทำไมหลายรุ่นหลุด 5 ดาว

สิ่งที่เกิดขึ้นในปี 2025 คือ Euro NCAP ใช้เกณฑ์ที่เข้มงวดมากขึ้นในหลายจุด โดยใจความสำคัญคือ ยกระดับความคาดหวังต่อ “ระบบช่วยเหลือ” และ “การปกป้องผู้ใหญ่” ให้สูงขึ้นจนรถยอดนิยมหลายรุ่นทำคะแนนไม่ถึงเส้นขั้นต่ำ

1) เกณฑ์ขั้นต่ำของ “5 ดาว” ถูกกำหนดชัดและโหดขึ้น

การจะได้ 5 ดาว รถต้องทำคะแนนถึงเกณฑ์ขั้นต่ำในทุกหมวดพร้อมกัน ไม่ใช่เด่นบางหมวดแล้วเฉลี่ยผ่าน

2) Safety Assist กลายเป็น “ตัวตัดเกรด” ของรถยุคใหม่

ยุคก่อน รถที่โครงสร้างดี ถุงลมครบ อาจพอ “แบก” ดาวได้ แต่ยุคใหม่ Euro NCAP ให้ความสำคัญกับระบบช่วยเหลือมากขึ้น เพราะอุบัติเหตุจำนวนมาก “ป้องกันได้ก่อนชน” หากระบบทำงานแม่นและเร็วพอ

รถที่มีระบบพื้นฐานครบ แต่ประสิทธิภาพ/ขอบเขตการทำงานยังไม่ถึงเกณฑ์ใหม่ จึงเสียคะแนนหมวด Safety Assist อย่างชัดเจน

3) การปกป้องผู้ใหญ่ (Adult) บางรุ่นต่ำกว่า 80% แบบเฉียด ๆ แต่ผลคือ “หลุด 5 ดาว”

นี่คือจุดที่ทำให้คนตกใจ เพราะหลายรุ่นไม่ได้คะแนน “แย่” เพียงแต่ ไม่ถึงเส้นขั้นต่ำ ในหมวดสำคัญ เมื่อเกณฑ์กำหนดว่า Adult ต้อง ≥80% แต่รถได้ 79% ก็เท่ากับ “ตก” ในเชิงระบบ

เคสตัวอย่างแบบเจาะคะแนน ใครหลุดกี่ดาว และหลุดเพราะอะไร

เพื่อให้เห็นภาพชัด มาดูคะแนนตามตัวเลขที่ถูกสรุปจากการเปรียบเทียบ “ทดสอบเดิม” กับ “ทดสอบใหม่ปี 2025” ของแต่ละรุ่น

ตาราง: เปรียบเทียบคะแนนเดิม vs คะแนนใหม่ (Euro NCAP)

ประเด็นที่น่าสนใจมาก: ในกลุ่มรถที่หลุด 5 ดาว หลายรุ่น “ไม่ได้คะแนนเลวร้าย” แต่ติดตรง ผ่านไม่ถึงเส้นขั้นต่ำ โดยเฉพาะหมวด Adult (ต้อง ≥80%) และหมวด Safety Assist (ต้อง ≥70%)

ทำไม T-Cross ถึงโดนหนักสุด (5 ดาว → 3 ดาว)

เคสของ Volkswagen T-Cross เป็นตัวอย่างชัดว่า “ข้อสอบใหม่” เน้นระบบช่วยเหลือและผู้ใช้ถนนมากขึ้นจนรถบางรุ่นเสียคะแนนหลายหมวดพร้อมกัน โดยเฉพาะ Safety Assist 57% และ VRU 60% ซึ่งต่ำกว่าเส้นที่ทำให้ไปต่อในระดับ 4–5 ดาวได้ยาก

ทำไม Yaris Cross โดน 4 ดาว ทั้งที่ Assist 76% และ VRU 83%

เพราะหมวด Adult 79% ต่ำกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำ 80% เพียง 1% แต่ระบบการให้ดาวถือว่า “ไม่ผ่านเงื่อนไขสำคัญ” จึงหลุด 5 ดาวทันที แม้หมวดอื่นจะดูดี

ทำไม Qashqai หลุด ทั้งที่เป็นรถยอดนิยมและมีชุดความปลอดภัย

คะแนนใหม่ของ Qashqai อยู่ที่ Adult 78% และ Assist 62% จึงไม่ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำของ 5 ดาว โดยเฉพาะ Assist ที่ต่ำกว่า 70% ชัดเจน

แล้วรถที่ “ยังรักษา 5 ดาว” ในปี 2025 มีอะไรบ้าง

แม้หลายรุ่นจะหลุด แต่ก็ยังมีรถที่ “รักษา/ได้ 5 ดาว” ภายใต้เกณฑ์ใหม่ ซึ่งสะท้อนว่ารถกลุ่มนี้ทำการบ้านด้านความปลอดภัยเชิงระบบมาดี

รายชื่อรุ่นที่ถูกยกตัวอย่างว่าได้/รักษา 5 ดาว

• Audi A3
• Cupra Formentor
• Skoda Octavia
• Toyota bZ4X
• Subaru Solterra
• Volkswagen Golf
• Volkswagen ID.4
• Mitsubishi Outlander
• Toyota HiAce
• Tesla Model Y

ภาพรวมของรถกลุ่มนี้มักมีแนวร่วมกันคือ “ระบบช่วยเหลือ” ครอบคลุม, เซนเซอร์/ซอฟต์แวร์พัฒนามากขึ้น และมีการออกแบบเพื่อเงื่อนไขการทดสอบยุคใหม่ (ทั้งก่อนชน–ระหว่างชน–หลังชน)

แก่นแท้ของเกณฑ์ใหม่ ความปลอดภัยไม่ใช่แค่ “ตอนชน” แต่รวม “ก่อนชน” และ “หลังชน”

มุมมองความปลอดภัยยุคใหม่ถูกขยายจากเดิมที่โฟกัส “การรับแรงกระแทก” เป็นหลัก ไปสู่ความปลอดภัยแบบครบวงจร ได้แก่

1. Safe Driving – ความปลอดภัยระหว่างขับ (ลดโอกาสเกิดเหตุ)
2. Crash Avoidance – การหลีกเลี่ยงการชนด้วยระบบช่วยเหลือ
3. Crash Protection – การปกป้องเมื่อเกิดการชน
4. Post-crash – ความปลอดภัยหลังชน เช่น การเข้าถึง/การทำงานของระบบบางอย่าง

เมื่อ “ข้อสอบ” ครอบคลุมทั้งวงจร รถที่เด่นเฉพาะตัวถังแต่ระบบช่วยเหลือยังไม่แน่น ก็มีสิทธิ์ดาวลดได้

มุมมองสำหรับผู้ซื้อ ดาวลดควรตีความอย่างไร ไม่ให้เข้าใจผิด

1) ดาวคือผลของ “ปีที่ทดสอบ”

ให้จำกฎง่าย ๆ: 5 ดาว ปีเก่า ≠ 5 ดาว ปีใหม่ เพราะเกณฑ์เปลี่ยน

2) รถ 4 ดาว ปี 2025 อาจ “ปลอดภัยกว่า” รถ 5 ดาว ปี 2017 ก็ได้

นี่เป็นเหตุผลที่ห้ามดูดาวอย่างเดียว ต้องดู ปีทดสอบ และดูคะแนนแยกหมวด

3) ดู “หมวดที่ตก” เพื่อรู้ความเสี่ยงจริง

เช่น ถ้าตกเพราะ Adult ต่ำกว่าเกณฑ์ → โครงสร้าง/การปกป้องผู้ใหญ่ยังไม่ถึงเส้นยุคใหม่
ถ้าตกเพราะ Safety Assist ต่ำ → ระบบช่วยเหลือยังไม่ครอบคลุม/ประสิทธิภาพไม่ถึงเกณฑ์

ทำไมคะแนน Safety Assist ถึงมีพลังมากขึ้นในยุคนี้

เพราะอุบัติเหตุจำนวนมาก “ไม่ควรเกิด” หากระบบช่วยเหลือทำงานทันและแม่น

ระบบที่มักมีผลต่อคะแนนยุคใหม่ ได้แก่

• AEB ที่ตรวจจับคนเดินถนน/นักปั่น/รถที่หยุดนิ่ง/รถตัดหน้า
• LKA / Lane Centering และการทำงานเมื่อเส้นไม่ชัด
• ระบบเตือนจุดอับสายตา/รถตัดผ่านด้านหลัง (บางเกณฑ์ให้ความสำคัญเพิ่มขึ้น)
• ระบบช่วยจำกัดความเร็ว/อ่านป้าย/เตือนความเร็ว
• การเตือนเข็มขัดนิรภัยทุกตำแหน่ง และตรรกะเตือนที่เข้มงวดขึ้น

ดังนั้น ต่อให้รถ “ถุงลมครบ” แต่ ADAS/Assist ยังเป็นแพ็กเกจพื้นฐาน คะแนนอาจไม่พอชนเส้นขั้นต่ำ

แนวโน้มปี 2026: ข้อสอบจะยากขึ้นอีก

อีกประเด็นที่หลายคนมองข้ามคือ การปรับเกณฑ์ไม่ได้หยุดแค่ปี 2025 โดยมีสัญญาณว่า ปี 2026 จะมีข้อกำหนดใหม่เพิ่ม ทำให้รถบางรุ่นอาจต้องอัปเกรดระบบ/ออปชันเพิ่มเพื่อรักษาดาว

ในเชิงอุตสาหกรรม นี่คือแรงกดดันให้ผู้ผลิตต้อง:

• เพิ่มประสิทธิภาพ ADAS ให้ทำงานได้จริงมากขึ้น
• เพิ่มเซนเซอร์/ซอฟต์แวร์/การประมวลผล
• ใส่ระบบความปลอดภัยเป็น “มาตรฐาน” มากกว่าตัวเลือก

ผลตามมาคือ ผู้บริโภคจะได้เทคโนโลยีความปลอดภัยมากขึ้น แต่ต้นทุนรถอาจสูงขึ้นด้วยเช่นกัน

FAQ: คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับ Euro NCAP 2025

Q1: รถที่หลุด 5 ดาว แปลว่าห้ามซื้อไหม?

ไม่จำเป็น ให้ดู “เหตุผลที่หลุด” และดูคะแนนแยกหมวด รถ 4 ดาวยุคใหม่ยังถือว่ามาตรฐานดี เพียงแต่ไม่ถึงเส้น 5 ดาวตามกติกาใหม่

Q2: ทำไมบางรุ่นคะแนนตกเยอะ ทั้งที่รถรุ่นเดิม?

เพราะเป็นการประเมินซ้ำภายใต้เกณฑ์ที่เข้มขึ้น ทำให้คะแนนหมวด Assist/VRU/Adult เปลี่ยนได้มาก แม้ตัวรถไม่ได้เปลี่ยนชัดเจน

Q3: ทำไม Yaris Cross หลุดเพราะ 79% แค่ 1% ก็หลุด?

เพราะเกณฑ์ขั้นต่ำเพื่อ 5 ดาวกำหนด Adult ต้อง ≥80% การต่ำกว่าแม้ 1% ก็ถือว่าไม่ผ่านเงื่อนไขสำคัญ

Q4: คะแนน Euro NCAP ใช้กับรถไทยได้ตรง ๆ ไหม?

ใช้เป็น “แนวทาง” ได้ดีมาก แต่ต้องระวังว่า สเปกรุ่นย่อย/ออปชัน ADAS ในไทยอาจต่างจากยุโรป จึงควรเทียบสเปกจริงของรุ่นที่ขายในไทยด้วย

Q5: แล้วควรดูอะไรนอกจากดาว?

ให้ดูคะแนน 4 หมวด + รายงานรายละเอียด (เช่น การทดสอบ AEB กับคนเดินถนน/นักปั่น, การเตือนเข็มขัด ฯลฯ) และดูปีที่ทดสอบ

บทสรุป “ดาว” ไม่ได้โกหก แต่ต้องอ่านให้ถูก

สิ่งที่ Euro NCAP 2025 สะท้อนชัดคือ โลกยานยนต์กำลังย้ายจาก “ความปลอดภัยเชิงรับ” (ชนแล้วค่อยปกป้อง) ไปสู่ “ความปลอดภัยเชิงรุก” (ช่วยหลบ/ลดการชนตั้งแต่ต้น) ดังนั้น การที่ Toyota Yaris Cross หรือ Nissan Qashqai หลุด 5 ดาว ไม่ได้แปลว่ารถเลวลง แต่สะท้อนว่า เกณฑ์ใหม่ตั้งเพดานไว้สูงมาก โดยเฉพาะหมวด Adult และ Safety Assist

ข้อแนะนำสุดท้าย: ก่อนตัดสินใจซื้อรถ ให้ดูปีทดสอบ + คะแนนแยกหมวด + สเปกความปลอดภัยของรุ่นย่อยที่คุณจะซื้อจริง เท่านี้คุณจะไม่ถูก “ตัวเลขดาว” หลอกตา