Geely เปิดเกมรุก Q1 ปี 2025 กำไรพุ่ง 264% ยอดขายรวม 704,000 คัน โตขึ้น 48% คาดปีนี้ขาย 2.71 ล้านคัน

Geely เปิดเกมรุกปี 2025 กำไรพุ่ง 264% เตรียมส่ง Zeekr ขึ้นแท่น BBA แห่งแดนมังกร!
เมื่อความเร็วของพลังงานใหม่กลายเป็นเข็มทิศของวงการรถยนต์ Geely กำลังกลายเป็นพายุลูกใหม่ที่กวาดล้างทุกสถิติ
ในวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา Geely Automobile Holding Ltd. ได้แถลงผลประกอบการประจำไตรมาสแรกปี 2025 พร้อมชี้ทิศทางอนาคตที่ชัดเจนและดุดันยิ่งกว่าที่เคย โดยเฉพาะแผนควบรวมกิจการกับ Zeekr ที่เรียกได้ว่า “มากกว่าการรวมคือการปฏิวัติ”
1. การแถลงข่าวและกลยุทธ์รวมกิจการกับ Zeekr
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2025 Geely Automobile Holding Ltd. จัดแถลงผลประกอบการไตรมาส 1 พร้อมตอบข้อสงสัยเรื่องการควบรวมกับแบรนด์ Zeekr โดย Li Donghui ซีอีโอ Geely Group ระบุว่า การบูรณาการภายในถือเป็นยุทธศาสตร์หลักในตอนนี้
ในปี 2024 Geely เริ่มประสานงานร่วมกันในด้านเทคโนโลยี ฐานการผลิต การจัดซื้อและ R&D เพื่อลดต้นทุน โดยมีเป้าหมาย ประหยัดค่าใช้จ่าย R&D หลายพันล้านหยวน และค่าจัดซื้ออีกหลายหมื่นล้านหยวน เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายบริหารและการตลาด
2. โครงสร้างบริหารใหม่หลังการควบรวม
- Gui Shengyue ยังคงเป็น CEO ของ Geely Auto
- Gan Jiayue เป็น CEO ของกลุ่ม Geely Automobile
- An Conghui อดีต CEO ของ Zeekr จะเลื่อนขึ้นเป็น CEO ของ Geely Holding Group
3. ผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2025
- รายได้รวม: 725 พันล้านหยวน (≈ 3.35 แสนล้านบาท) → โต 25%
- กำไรสุทธิ: 56.7 พันล้านหยวน (≈ 2.62 แสนล้านบาท) → โต 264%
- ยอดขายรถยนต์: 704,000 คัน → โต 48%
- เป้าหมายปี 2025: 2.71 ล้านคัน → ทำไปแล้ว 26%
- รถยนต์พลังงานใหม่ (NEV): 339,000 คัน → โต 135%
- สัดส่วน NEV ในจีน: 52% (เฉลี่ยอุตสาหกรรม 47%)
4. กลยุทธ์ด้านแบรนด์
- Zeekr เจาะตลาดหรู
- Lynk & Co เจาะกลุ่มสปอร์ต
- Galaxy จับกลุ่มแมส
แบรนด์ Galaxy มียอดขาย Q1 พุ่ง 3 เท่า → จาก 62,000 คัน → 246,000 คัน ใกล้เคียงกับแบรนด์หลัก Geely ที่ 259,000 คัน
Zeekr + Lynk & Co รวมกัน Q1: 108,000 คัน
เป้าหมาย 2027 = 1 ล้านคันต่อปี (ต้องขายเฉลี่ยเดือนละ 83,000 คัน)
5. แผนเปิดตัวรถใหม่ปี 2025
- เปิดตัวแล้ว: Zeekr 007 GT, Lynk & Co 900
- Q3: Lynk EM-P (ซีดานไฮบริดขนาดกลาง)
- Q3: Zeekr 9X (SUV แฟลกชิป)
- Q4: Zeekr 8X
- เตรียมเปิดตัวเทคโนโลยี “Super Hybrid” ที่รวมข้อดีของ EV, PHEV และ REEV โดยจะติดตั้งใน Zeekr 9X และ 8X เป็นรุ่นแรก
6. ตลาดต่างประเทศและการส่งออก
- Q1 ส่งออก: 90,000 คัน → โต 2.2%
- ยอดรวมส่งออกจีน: 1.178 ล้านคัน → โต 6.1% Geely ยังเติบโตน้อยกว่าตลาดรวมเพราะตลาดยุโรปตะวันออกชะลอตัว (หากตัดตลาดนี้ออก Geely จะโตเกิน 40%)
เป้าหมายยอดส่งออกต่อเดือน: ≥ 30,000 คัน
แผนตลาดหลัก 4 ภูมิภาค
- ตะวันออกกลาง: เป้าปีละ ≥ 50,000 คัน
- ยุโรปตะวันออก/ยุโรปกลาง: เป้า 150,000–200,000 คัน
- ลาตินอเมริกา: สร้างตลาด 50,000 คัน
- เอเชียแปซิฟิก: ตั้งเป้าเป็นตลาด 100,000 คัน/ปี
ตัวอย่างเช่น:
- Galaxy E5 ในมาเลเซีย → ขายอันดับ 1 EV 4 เดือนติด
- เดือน เม.ย. → ยอดขาย >800 คัน
- ในไทย, ออสเตรเลีย, อินโดนีเซีย → มียอดจองรวมหลายพันคัน
7. กลยุทธ์การผลิตในต่างประเทศ
Geely ยังไม่เร่งสร้างโรงงานต่างประเทศเต็มรูปแบบ แต่ใช้ KD Model (Knock-Down)
คือ ส่งรถแบบชิ้นส่วนไปประกอบในประเทศปลายทางเพื่อลดความเสี่ยง
ปี 2024 สร้างแล้ว 3 แห่ง (อียิปต์, ไนจีเรีย)
ปี 2025 เตรียมเปิดเพิ่ม: เวียดนาม, อินโดนีเซีย, แอฟริกาเหนือ, ลาตินอเมริกา, เอเชียกลาง
8. ความท้าทายด้านการเงินจาก Zeekr
- Zeekr มีหนี้สินสูง: อัตราหนี้สิน 140%
- การควบรวมจะดึงอัตราหนี้สินของ Geely ขึ้นด้วย
แต่ Gui Shengyue ย้ำว่า Geely เสนอซื้อหุ้น Zeekr โดย ใช้หุ้น Geely แลก ไม่ใช้เงินสด
คาดว่าผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่จะเลือกแปลงหุ้น จึงไม่กระทบกระแสเงินสด
บทสรุป
Geely แสดงศักยภาพเติบโตแบบก้าวกระโดดทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะด้าน รถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ที่กำลังแซงหน้าคู่แข่ง และเตรียมลุยด้วยเทคโนโลยี Super Hybrid
ปี 2025 จะเป็นปีแห่งการพิสูจน์ว่า Zeekr และ Galaxy จะกลายเป็นแกนกลางพา Geely ทะยานสู่ Global Top Player หรือไม่