เปิดตัว HONDA FIT MY2025 ปรับปรุงบางส่วนในญี่ปุ่น ราคา 392,000 – 647,000 บาท

Advertisement
ฮอนด้า ฟิต ปรับปรุงบางส่วนและปรับราคาใหม่
บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด ประเทศญี่ปุ่นเปิดตัวรถยนต์นั่งขนาดเล็ก FIT รุ่นปรับปรุงบางส่วนในวันที่ 11 กรกฎาคมนี้ การเปิดตัวครั้งนี้ยังรวมถึงการปรับราคาเนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบและค่าขนส่งที่สูงขึ้นทั่วโลก
- รุ่น e:HEV (ไฮบริด) ราคาเริ่มต้นที่ 2,208,800 เยน ถึง 2,929,300 เยน หรือประมาณ 488,000 – 647,000 บาท
- รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน ราคาเริ่มต้นที่ 1,776,500 เยน ถึง 2,578,400 เยน หรือประมาณ 392,000 – 569,000 บาท
การเปลี่ยนแปลงหลักในการปรับปรุงครั้งนี้
- การยกระดับรุ่น CROSSTAR: รุ่น CROSSTAR ได้รับการอัปเดตสีภายในและภายนอกบางส่วน และได้เพิ่มสีภายนอกใหม่ “Botanical Green Pearl” ซึ่งเป็นสีพิเศษสำหรับ CROSSTAR โดยเฉพาะ
- ตัวเลือกสีใหม่สำหรับทุกเกรด: “Seabed Blue Pearl” เป็นสีใหม่ที่เปิดตัวครั้งแรกในรุ่น Fit และจะพร้อมใช้งานในหลากหลายเกรด
- การอัปเดตภายใน/ภายนอกเฉพาะรุ่น CROSSTAR
- กระจกมองข้าง: เปลี่ยนจากสีดำเป็นสีเงิน
- มือจับประตูด้านนอก: เปลี่ยนจากสีดำเป็นสีเดียวกับตัวรถ
- คิ้วฝาท้าย: เปลี่ยนจากสีเดียวกับตัวรถเป็นสีเงิน
- แผงพวงมาลัย: ใช้สีดำ
- กรอบคันเกียร์: ใช้สีดำ
- แผงหน้าปัดฝั่งผู้โดยสารและสีที่พักแขน: เปลี่ยนจากสีเทาเป็นสีกรมท่า
- เบาะนั่ง: เพิ่มการเย็บตะเข็บสีเหลืองมะนาวที่ด้านข้าง
HONDA FIT 2025 มีตัวเลือกระบบส่งกำลังหลักสองแบบ
- ระบบไฮบริด e:HEV
- เครื่องยนต์: เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร DOHC i-VTEC 4 สูบ ขนาด 1,496 ซีซี (รหัส LEB-H5) อัตราส่วนกำลังอัด 13.5:1
- กำลังสูงสุดของเครื่องยนต์: 98 แรงม้า (72 kW) ที่ 5,600 – 6,400 รอบ/นาที
- แรงบิดสูงสุดของเครื่องยนต์: 127 นิวตันเมตร (13.0 kgf・m) ที่ 4,500 – 5,000 รอบ/นาที
- มอเตอร์ไฟฟ้า: มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ (H5 Motor Hybrid System)
- กำลังสูงสุดของมอเตอร์ไฟฟ้า: 109 แรงม้า (80 kW) ที่ 3,500 – 8,000 รอบ/นาที
- แรงบิดสูงสุดของมอเตอร์ไฟฟ้า: 253 นิวตันเมตร
- ระบบไฮบริด: e:HEV เป็นระบบไฮบริดแบบ 2 มอเตอร์ที่เน้นการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเป็นหลักในสภาวะความเร็วต่ำและปานกลาง และใช้เครื่องยนต์เข้ามาเสริมในการขับขี่ที่ความเร็วสูงหรือเมื่อต้องการกำลังเพิ่มเติม
- อัตราเร่ง (โดยประมาณ): 0-100 กม./ชม. ใน 9.4 วินาที
- ความเร็วสูงสุด (โดยประมาณ): 175 กม./ชม.
- ระบบส่งกำลัง: เกียร์อัตโนมัติแบบ e-CVT
- ระบบขับเคลื่อน: มีทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า (FF) และขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD)
- รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ (2WD): ประมาณ 38.6 กม./ลิตร (ตามมาตรฐาน JC08 ของญี่ปุ่น) หรือประมาณ 27.1 – 30.2 กม./ลิตร (ตามมาตรฐาน WLTC ของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ใกล้เคียงการใช้งานจริงมากขึ้น)
- รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD): ประมาณ 30.8 กม./ลิตร (ตามมาตรฐาน JC08 ของญี่ปุ่น) หรือประมาณ 23.5 – 25.4 กม./ลิตร (ตามมาตรฐาน WLTC ของญี่ปุ่น)
- เครื่องยนต์ เบนซิน 1.5 ลิตร (1496 ซีซี) แบบ 4 สูบ DOHC i-VTEC
- กำลังสูงสุด: ประมาณ 124 แรงม้า (HP) หรือ 91 กิโลวัตต์ (kW)
- แรงบิดสูงสุด: ประมาณ 145 นิวตันเมตร (N·m)
- ระบบจ่ายเชื้อเพลิง: ปกติแล้วจะเป็นแบบ Normally Aspirated (ไม่มีเทอร์โบ)
- เกียร์อัตโนมัติแบบ VT (Continuously Variable Transmission)
- มีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ (2WD – ขับเคลื่อนล้อหน้า) และขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD) ในบางรุ่นย่อย
- 2WD ประมาณ 17.5 – 19.4 กิโลเมตรต่อลิตร (WLTC)
- 4WD ประมาณ 16.0 – 18.0 กิโลเมตรต่อลิตร (WLTC)
แชสซีและมิติ
- แพลตฟอร์ม: Honda Global Small Car platform (ใช้ร่วมกับ City/Grace, HR-V/Vezel)
- ความยาว: ประมาณ 3,995 มม. (อาจแตกต่างกันเล็กน้อยตามรุ่นย่อย เช่น Crosstar อาจยาวกว่า)
- ความกว้าง: 1,695 มม. (บางรุ่นอาจกว้างกว่าเล็กน้อย เช่น Crosstar 1,725 มม.)
- ความสูง: 1,515 มม. (Crosstar ประมาณ 1,540 มม.)
- ระยะฐานล้อ: 2,530 มม.
- รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด: ประมาณ 4.9 เมตร
- น้ำหนักรถเปล่า: ประมาณ 1,180 กก. (สำหรับรุ่น e:HEV Home 2WD)
- ความจุถังน้ำมัน: 40 ลิตร
- ระบบกันสะเทือน (หน้า): แมคเฟอร์สันสตรัท
- ระบบกันสะเทือน (หลัง): ทอร์ชั่นบีม
- ระบบเบรก (หน้า): ดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อน
- ระบบเบรก (หลัง): ดิสก์เบรก
- ยาง: แตกต่างกันไปตามรุ่นย่อย โดยทั่วไปคือ 185/60R15 หรือ 185/55R16
- ความจุผู้โดยสาร: 5 ที่นั่ง
- จำนวนประตู: แฮทช์แบ็ก 5 ประตู
ภายนอก
- ไฟส่องสว่าง: ไฟหน้า LED, ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED, ไฟท้าย LED (เป็นมาตรฐานหรืออุปกรณ์เสริมขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย) ระบบไฟสูงอัตโนมัติ
- กระจังหน้า: การออกแบบแตกต่างกันไปตามรุ่นย่อย โดยรุ่น RS จะมีกระจังหน้าแบบตาข่ายที่สปอร์ตกว่า
- ล้อ: ล้ออัลลอย ขนาด 15 นิ้ว หรือ 16 นิ้ว ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย รุ่น RS อาจมีการออกแบบล้อที่เป็นเอกลักษณ์
- กระจกมองข้าง: กระจกมองข้างปรับพับด้วยไฟฟ้า (มักจะมาพร้อมไฟเลี้ยวในตัว)
- ราวหลังคา: มีในรุ่น Crosstar
- การออกแบบภายนอก: การออกแบบที่ทันสมัยและเรียบง่าย พร้อมสไตล์ที่แตกต่างกันในแต่ละรุ่น (เช่น เน้นความบึกบึนสำหรับ Crosstar, สปอร์ตสำหรับ RS)
คุณสมบัติภายในและความสะดวกสบาย
- แผงคอนโซล: แผงหน้าปัดด้านบนเรียบพร้อมเส้นแนวนอน เพื่อเพิ่มความรู้สึกของการมองเห็นที่กว้างขึ้นและโปร่งโล่ง (“comfortable view”)
- มาตรวัด: จอแสดงข้อมูลผู้ขับขี่แบบดิจิทัล TFT LCD สีเต็มรูปแบบ ขนาด 7 นิ้ว
- ระบบสาระบันเทิง
- หน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว (ระบบ Honda CONNECT)
- รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
- การเชื่อมต่อบลูทูธ, พอร์ต USB
- ระบบนำทาง (อุปกรณ์เสริม/มาตรฐานขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย)
- เบาะนั่ง
- Magic Seats: ระบบเบาะหลังที่ปรับเปลี่ยนได้หลากหลายรูปแบบ (โหมดใช้งานทั่วไป, โหมดสูง, โหมดเก็บของยาว, โหมดพักผ่อน) เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระและความยืดหยุ่นในการจัดวางผู้โดยสาร
- เบาะนั่งคู่หน้า: “เบาะนั่งรองรับสรีระ” ออกแบบมาเพื่อรองรับกระดูกเชิงกรานและกระดูกสันหลังส่วนล่างเพื่อลดความเมื่อยล้าในการขับขี่ทางไกล
- เบาะนั่งด้านหลัง: เบาะหนานุ่มเพื่อความสบายยิ่งขึ้น
- วัสดุ: ผ้า, ผ้ากันน้ำ (NESS, Crosstar), หนังผสม/ผ้า (HOME), หรือหนังแท้ (LUXE)
- พวงมาลัย: พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน มักจะหุ้มด้วยหนัง (รุ่นสูงกว่า) และมีแป้นเปลี่ยนเกียร์ (เฉพาะรุ่น RS)
- ระบบควบคุมอุณหภูมิ: ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ (มักจะเป็นแบบโซนเดียว)
- ช่องเก็บของ: มีพื้นที่เก็บของมากมาย รวมถึงคอนโซลกลางระหว่างเบาะหน้า
- ระบบกุญแจรีโมทและสตาร์ท: ระบบ Smart Keyless Entry พร้อมปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์
- เบรกมือไฟฟ้า (EPB) พร้อมฟังก์ชัน Auto Hold
- กล้องมองหลัง: เป็นคุณสมบัติมาตรฐาน
- ระบบ 4-Mode Drive: มีโหมด Sport, ECON และ Individual ที่ให้ผู้ขับขี่ปรับแต่งการตั้งค่าต่างๆ ได้
ความปลอดภัยและเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ (Honda SENSING)
Honda SENSING เป็นชุดระบบความปลอดภัยและช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง ซึ่งโดยทั่วไปจะเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อยในญี่ปุ่น เพื่อความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น คุณสมบัติหลักได้แก่
- ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System – CMBS): ตรวจจับยานพาหนะ, คนเดินเท้า และจักรยานที่อยู่ข้างหน้า และจะใช้เบรกหากตรวจพบความเสี่ยงในการชน
- ระบบเตือนและช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System – RDM): แจ้งเตือนและช่วยควบคุมพวงมาลัยหากรถกำลังจะออกนอกเส้นทางหรือเลนโดยไม่ตั้งใจ
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control – ACC): รักษาระดับความเร็วและระยะห่างที่ตั้งไว้จากรถคันหน้า
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System – LKAS): ช่วยรักษารถให้อยู่กึ่งกลางเลน
- ระบบช่วยขับขี่ในสภาพการจราจรติดขัด (Traffic Jam Assist): ช่วยควบคุมพวงมาลัยในการจราจรติดขัดที่ความเร็วต่ำ (มักจะทำงานร่วมกับ ACC)
- ระบบเตือนรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System): แจ้งเตือนผู้ขับขี่เมื่อรถคันหน้าเริ่มเคลื่อนที่ หากผู้ขับขี่ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง
- ระบบป้องกันการเหยียบคันเร่งโดยไม่ตั้งใจ (False Start Prevention – Front & Rear): ป้องกันการเร่งความเร็วอย่างกะทันหันหากตรวจพบสิ่งกีดขวางเมื่อออกตัวจากหยุดนิ่ง
- ระบบเบรกเพื่อลดการชนที่ความเร็วต่ำ (Short-distance Collision Mitigation Braking System): ใช้เบรกหากตรวจพบสิ่งกีดขวางที่ความเร็วต่ำมาก
- ระบบควบคุมทิศทางเพื่อหลีกเลี่ยงการชนคนเดินเท้า (Pedestrian Collision Mitigation Steering System): ช่วยควบคุมพวงมาลัยเพื่อหลีกเลี่ยงคนเดินเท้าหากตรวจพบความเสี่ยงในการชน
- ระบบไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beam): สลับระหว่างไฟสูงและไฟต่ำโดยอัตโนมัติ
- กล้องมุมกว้างด้านหน้า (Front Wide-View Camera): ให้มุมมองด้านหน้าที่กว้างขึ้นเพื่อการตรวจจับที่ดีขึ้น
- เซ็นเซอร์โซนาร์: เซ็นเซอร์หลายตัวรอบคันรถเพื่อตรวจจับสิ่งกีดขวาง
- ถุงลมนิรภัย: โดยทั่วไป 6 ตำแหน่ง (คู่หน้า, ด้านข้าง, ม่านถุงลม)