เผยข้อมูล 3 รุ่นย่อย ก่อนขายไทย สิงหาคมนี้ iCAR V23 EV 360 – 430 กม./ชาร์จ NEDC

Spread the love

Advertisement Advertisement

เชอรี่ (CHERY) แบรนด์ยานยนต์ชั้นนำภายใต้บริษัท Chery Automobile ซึ่งเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมยานยนต์ที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก ได้ประกาศการเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ว

เชอรี่เตรียมสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ด้วยการเตรียมเปิดตัวรถยนต์ 2 รุ่นแรกที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย ได้แก่:

V23: รถยนต์ไฟฟ้า (EV) สไตล์คนเมืองสุดเท่
TIGGO 8: รถยนต์ SUV สมรรถนะสูงที่มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน CSH (Chery Super Hybrid) แบบ PHEV

สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นของเชอรี่ในการนำเสนอยานยนต์คุณภาพที่คนทั่วโลกไว้วางใจให้กับผู้บริโภคชาวไทย โดยมีแผนจะเปิดโชว์รูม 30 แห่งทั่วประเทศ พร้อมเปิดรับจองในเดือนสิงหาคม และเริ่มส่งมอบรถยนต์ลอตแรกภายในเดือนกันยายนนี้

คุณจิม ลี ผู้อำนวยการแบรนด์ Chery (ประเทศไทย) แสดงความเชื่อมั่นในการบุกตลาดไทย โดยเน้นย้ำถึงความเข้าใจในความต้องการของผู้บริโภค และมุ่งมั่นที่จะสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถยนต์

2WD Comfort

ขุมพลัง & แชสซีส์

ขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว ให้กำลังสูงสุด 100 kW (136 แรงม้า) และแรงบิด 180 นิวตันเมตร
แบตเตอรี่ความจุ 59.93 kWh วิ่งได้ตามมาตรฐาน NEDC ประมาณ 360 กม.
ระบบจ่ายไฟกลับ (V2L) 3.3 kW
ช่วงล่างหน้าแม็คเฟอร์สันสตรัท หลังมัลติลิงก์
ยางมาตรฐาน 255/55 R19

เทคโนโลยีความสะดวก

โหมดขับขี่ 5 แบบ: ประหยัด | ธรรมดา | สปอร์ต | ถนนลื่น | ฝนถนนลื่น
กล้องมองหลังธรรมดา (ไม่มีมุมกว้างพิเศษ)
ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง (TPMS)

ระบบความปลอดภัย

ระบบเบรกมือไฟฟ้า
ไม่มีระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน AEB, ไม่มีเตือนจุดอับ RCTA, ไม่มีเตือนออกนอกเลน LDW/ BSD
ไม่มีระบบ HAC (ป้องกันรถไหล) และ TCS (ป้องกันลื่นไถล)

อุปกรณ์ภายนอก & ภายใน

ไฟหน้าเป็นแบบปกติ ไม่มีฟังก์ชั่นเปิด–ปิดอัตโนมัติหรือโปรเจคเตอร์
กระจกไฟฟ้าขึ้น–ลงธรรมดา ไม่ใช่ One-Touch และไม่มีระบบไล่ฝ้าที่กระจกมองข้าง
พวงมาลัยไฟฟ้า ปรับสูง–ต่ำได้
เครื่องปรับอากาศแบบ Manual
เครื่องเสียง AM/FM, CD/MP3, เชื่อมต่อ Bluetooth
ไม่มี Apple CarPlay / Android Auto
หน้าจอกลางไม่มี (รุ่นนี้จะไม่มีหน้าจอสัมผัส 15.4 นิ้ว)

สีตัวถัง & ภายใน

เลือกได้เฉพาะสี White / Green / Silver / Black
ห้องโดยสารบุพื้นผิวและวัสดุทั้งหมดเป็นสีดำ

2WD Premium

ขุมพลัง & แชสซีส์

ขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลังสูงสุด 155 kW (211 แรงม้า) และแรงบิด 292 นิวตันเมตร
แบตเตอรี่ความจุ 81.76 kWh วิ่งได้ตามมาตรฐาน NEDC ประมาณ 430 กม.
ระบบจ่ายไฟกลับ (V2L) 3.3 kW
ช่วงล่างหน้าแม็คเฟอร์สันสตรัท หลังมัลติลิงก์
ยางมาตรฐาน 265/45 R21

เทคโนโลยีความสะดวก

โหมดขับขี่ 5 แบบ: ประหยัด | ธรรมดา | สปอร์ต | ถนนลื่น | ฝนถนนลื่น
ระบบเบรกไฟฟ้าพร้อมหน่วงเบรกอัตโนมัติ
กล้องรอบคัน 540° ให้มุมมองรอบทิศทาง
ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง (TPMS)

ระบบความปลอดภัย

HAC (ป้องกันรถไหลขึ้นทางลาด)
TCS (ป้องกันลื่นไถล)
ไม่มี AEB, RCTA, LDW, BSD

อุปกรณ์ภายนอก

ไฟหน้าโปรเจคเตอร์พร้อมฟังก์ชั่นไฟสูงอัตโนมัติ
ไฟส่องสว่างกลางวัน (DRL) แบบ LED
กระจกประตู One-Touch ขึ้น–ลง และกระจกมองข้างมีระบบไล่ฝ้า

อุปกรณ์ภายใน

ระบบกุญแจ Keyless
เบาะผู้ขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทางพร้อมพนักพิงศีรษะปรับไฟฟ้า
เบาะผู้โดยสารหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง
เบาะหลังมีพักแขนและพนักพิงพับได้
ระบบกรองฝุ่น PM2.5

ระบบเครื่องเสียง & จอ

หน้าจอสัมผัสกลาง 15.4 นิ้ว
รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
ลำโพง 7 ตำแหน่ง

สีตัวถัง & ภายใน

เลือกได้ 5 สี: Orange / White / Green / Silver / Black
ภายในสีดำทั้งหมด

4WD Premium

ขุมพลัง & แชสซีส์

ขับเคลื่อน 4 ล้อ (AWD) ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กำลังสูงสุด 155 kW (211 แรงม้า) แรงบิด 292 นิวตันเมตร
แบตเตอรี่ 81.76 kWh ระยะทางขับขี่ 430 กม. (NEDC)
ระบบจ่ายไฟกลับ (V2L) 3.3 kW
ช่วงล่างหน้าแม็คเฟอร์สันสตรัท หลังมัลติลิงก์
ยาง 265/45 R21

เทคโนโลยีความสะดวก