Advertisement

Advertisement

ISUZU MU-X ผลการทดลองขับ

ISUZU MU-X ผลการทดลองขับ

Advertisement

Advertisement

อีซูซุจัดทดสอบ “ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์”  โชว์ความเหนือชั้นด้านสมรรถนะและเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยที่ครบครัน

อีซูซุนำสื่อมวลชนทดสอบสมรรถนะการขับขี่อันเหนือชั้นของ “ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์”  (ALL-NEW ISUZU MU-X)  รถอเนกประสงค์สุดหรูรุ่นใหม่หมด  ภายใต้นิยาม “เหนือทุกความเชื่อ…เหนือทุกความสำเร็จ (ORIGINALITY REDEFINED)”   เพื่อตอกย้ำความ    โดดเด่นในด้านสมรรถนะและระบบความปลอดภัยขั้นสุด

1. ระบบส่งกำลังและช่วงล่างที่สมบูรณ์แบบ ตามแนวคิด ISUZU Symmetric Mobility เสถียรภาพใหม่แห่งการขับขี่  ออกแบบโครงสร้างตัวถัง  แชสซีส์ การวางตำแหน่งเครื่องยนต์ และช่วงล่างทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว ให้การทรงตัวที่ดีเยี่ยมแบบ 3S  ได้แก่ Stability – ความนิ่งและมั่นคง   Softness – ความนุ่มนวล นั่งสบาย  Safety and Road Holding – ความปลอดภัยและการเกาะถนน 

  • เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยสุดล้ำ ISUZU MATRIX SAFETY INTELLIGENCE   ที่รวมทุกเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยเข้าไว้ด้วยกันอย่างครบครัน  ปลอดภัยสุดด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่  ADAS  (Advanced Driver Assistance Systems) ที่มาพร้อมนวัตกรรมกล้องหน้าคู่อัจฉริยะ  3D Imaging Stereo Camera ช่วยตรวจจับวัตถุต่าง ๆ ด้วยการสแกนภาพ 3 มิติ แบบ Real Time  โดยทำงานร่วมกับเรดาร์ 2 จุด และเซ็นเซอร์ 8 จุดรอบคัน ได้แก่  ACC, FCW,  AEB, LDW, AHB, PMM, MSL, BSM, RCTA, Parking Aid System และ MCB  ควบคู่ไปกับระบบความปลอดภัยพื้นฐาน  ABS, EBD, BA, BOS, ESC, TCS, HSA, HDC และ TSC เพิ่มความมั่นใจในทุกการเดินทาง 

รูปแบบการทดสอบแบ่งออกเป็น 3  ส่วน  ได้แก่

  • การทดลองขับด้วยตนเองในสนามทดสอบความเร็วสูงแบบ  MAIN CIRCUIT  ความยาว 3,300  เมตร   เพื่อทดสอบสมรรถนะในการออกตัวและเร่งแซงตั้งแต่  80-120 กม./ชม. ในเส้นทางตรง และจะมีการทดสอบความสามารถในการยึดเกาะถนนในเส้นทางโค้งที่มีความลาดเอียง 4.5 องศา รัศมี 130 เมตร รวมทั้งทดลองระบบแจ้งเตือนออกนอกเลน  (Lane Departure Warning – LDW) ซึ่งเป็น 1 ในระบบ ADAS จากนั้นการทดสอบในรอบที่ 2 จะเข้าสู่สถานีพิเศษที่เรียกว่า SPECIAL ROAD SURFACE  ที่มีสภาพพื้นผิวถนนหลากหลายรูปแบบ โดยใช้ความเร็วคงที่ 60 กม./ชม. รวมทั้งขับเข้าสถานี  HANDLING CIRCUIT  ที่ประกอบด้วยทางโค้ง ขึ้นและลงเนิน ความยาว 2,100  เมตร เพื่อทดสอบสมรรถนะระบบส่งกำลัง การบังคับควบคุม  ควบคู่ไปกับความรู้สึกในการขับสนุก เร้าใจ ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์แห่งการขับขี่
  • การทดลองนั่งเพื่อสังเกตการทำงานของ “ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมฟังก์ชัน Stop and Go” (Full Speed Range Adaptive Cruise Control – ACC)ครั้งแรกในรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ ที่ให้ความมั่นใจสูงสุดและช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ตลอดการเดินทาง 
  • การสาธิตระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่  ADAS ในรูปแบบต่าง ๆ  ได้แก่ 
  • “ระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า” (Forward Collision Warning – FCW)     ซึ่งจะทำงานควบคู่กับ  “ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ”  (Autonomous Emergency Braking – AEB) และ “ระบบช่วยเพิ่มแรงเบรก” (Brake Assist – BA)
  • “ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด” (Pedal Misapplication Mitigation – PMM)

“ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์” มีให้เลือก 4  รุ่น ได้แก่ Ultimate, Elegant, Luxury และ Active ราคาเริ่มต้น 1,109,000 บาท พร้อมเปิดตัวที่โชว์รูมอีซูซุทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 12 พฤศจิกายน ศกนี้

ISUZU MATRIX SAFETY INTELLIGENCE”  ได้รวมทุกเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยเข้าไว้ด้วยกัน ได้แก่

Advertisement

Advertisement
  • ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง ADAS (Advanced Driver Assistance Systems)  เพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้ผู้ขับขี่ในสถานการณ์ต่าง ๆ โดยอาศัยอุปกรณ์หลายชิ้นที่คอยทำงานตรวจจับ ประเมิน แจ้งให้ทราบ และสั่งการ เพื่อป้องกันและปกป้องทั้งก่อนและหลังการเกิดอุบัติเหตุ    โดย “ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์”  มาพร้อมนวัตกรรมกล้องหน้าคู่อัจฉริยะ 3D Imaging Stereo Camera  ครั้งแรกในรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ คอยตรวจจับเส้นถนน และวัตถุต่าง ๆ สิ่งกีดขวางด้านหน้าเพื่อป้องกันการชน ช่วยประเมินและควบคุมความเร็ว ควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ และคอยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน  ด้วยการสแกนภาพ 3 มิติ แบบ Real Time แม่นยำกว่ากล้องเดี่ยวแบบ Mono Camera โดยทำงานร่วมกับเรดาร์ 2 จุด ติดตั้งบริเวณกันชนท้าย ตรวจจับรถยนต์ในจุดอับสายตาด้านหลัง   และเซ็นเซอร์ 8 จุดรอบคัน  ด้านหน้าและหลัง เพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยขณะจอดรถในที่แคบ รวมไปถึงระบบเบรกอัตโนมัติหลังการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน
  • ระบบความปลอดภัยพื้นฐาน  ได้แก่ ABS, BA, EBD, BOS, ESC, TCS, HSA, HDC, TSC ทุกรุ่น และถุงลมนิรภัยแบบ 6 ตำแหน่ง ในรุ่น Elegant และ Ultimate

ระบบความปลอดภัยต่าง ๆ ใน ADAS

  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมฟังก์ชัน Stop and Go (Full Speed Range Adaptive Cruise Control – ACC)   ครั้งแรกในรถยนต์นั่งอเนกประสงค์  ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ โดยระบบจะควบคุมความเร็วให้คงที่ พร้อมตรวจจับรถยนต์ด้านหน้าด้วยกล้องหน้าคู่ และจะช่วยควบคุมความเร็ว (เพิ่ม/ลด) เพื่อรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยโดยอัตโนมัติได้ เมื่อไม่มีรถยนต์ด้านหน้า หรือรถยนต์ด้านหน้าเร่งความเร็วขึ้น ระบบจะช่วยเร่งความเร็วกลับสู่ระดับที่ตั้งไว้ พร้อมฟังก์ชัน Stop and Go โดยระบบจะรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าได้จนถึงรถคันหน้าหยุดนิ่ง และเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่อีกครั้ง ระบบจะเพิ่มความเร็วต่อโดยรักษาระยะห่างเช่นเดิม ซึ่งฟังก์ชัน Stop and Go นี้ จะทำงานกรณีที่รถคันหน้าหยุดเป็นเวลาไม่เกิน 2 วินาที (กรณีที่เกิน 2 วินาที ระบบจะยกเลิกการทำงาน ถ้าต้องการให้รถเคลื่อนที่อีกครั้ง   ผู้ขับขี่ต้องกดปุ่ม Resume หรือเหยียบคันเร่ง)
  • ระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า   (Forward Collision Warning – FCW)

ระบบจะตรวจจับสิ่งกีดขวางด้านหน้าด้วยกล้องหน้าคู่ เมื่อระยะห่างระหว่างรถกับสิ่งกีดขวางอยู่ในระยะกระชั้นชิดเกินไป และเสี่ยงต่อการชน ระบบจะเตือนให้ผู้ขับขี่ชะลอความเร็ว  โดยแสดงคำเตือนบนหน้าจอ MID   มีแสงกะพริบบริเวณคอนโซลหน้า และจะสะท้อนไปที่กระจกหน้าเพื่อเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น  และส่งเสียงเตือนสั้นซ้ำ ๆ ต่อเนื่อง   เมื่อมีการเหยียบเบรกระหว่างระบบ FCW แจ้งเตือน ระบบช่วยเพิ่มแรงเบรก (BA) จะทำงานเพื่อช่วยลดระยะการเบรก  ทั้งนี้สามารถตั้งความไวในการเตือนของระบบ FCW ได้ 3 ระดับ 

  • ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ  (Autonomous Emergency Braking – AEB)  เมื่อระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า (FCW) เตือนขึ้นแต่ผู้ขับขี่ยังไม่เหยียบเบรก และมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการชน  ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB) จะทำงาน เพื่อหลีกเลี่ยงหรือลดความรุนแรงของการชน โดยระบบจะแจ้งให้ผู้ขับขี่ทราบผ่านคำเตือนบนหน้าจอ MID  มีแสงกะพริบบริเวณคอนโซลหน้าที่จะสะท้อนไปที่กระจกหน้าเพื่อเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น  และการส่งเสียงเตือนสั้นซ้ำ ๆ ต่อเนื่อง  หลังจากรถหยุดนิ่ง ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติจะยังทำงานต่อเนื่องอีก 2 วินาที และจะยกเลิกการทำงาน  ผู้ขับขี่จะต้องเหยียบเบรกต่อด้วยตัวเอง  ทั้งนี้ระบบจะทำงานเมื่อรถยนต์เคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยความเร็วประมาณ 8-160 กม./ชม.
  • ระบบแจ้งเตือนออกนอกเลน  (Lane Departure Warning – LDW)   ระบบจะช่วยเตือนให้ผู้ขับขี่ทราบเมื่อรถยนต์ออกนอกเลน เมื่อรถมีความเร็วประมาณ 60-130 กม./ชม. และถนนต้องมีเส้นแบ่งเลนชัดเจน  โดยกล้องหน้าคู่จะตรวจจับเส้นแบ่งเลนบนถนน และแจ้งให้ผู้ขับขี่ทราบ โดยแสดงคำเตือนบนหน้าจอ MID และส่งเสียงเตือนสั้น ๆ   ทั้งนี้ระบบจะไม่ทำงานขณะเปิดไฟเลี้ยวเมื่อต้องการจะเปลี่ยนเลน
  • ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ  (Automatic High Beam – AHB) ขณะขับขี่รถยนต์ในเวลากลางคืน กล้องหน้าคู่จะตรวจสอบความสว่างโดยรวม และเปิด-ปิดไฟสูงให้เหมาะสมกับการขับขี่โดยอัตโนมัติ  ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติทำงานเมื่อความเร็วรถมากกว่า 40 กม./ชม. เมื่อตรวจไม่พบไฟหน้าของรถที่สวนมา  ไฟท้ายของรถยนต์ด้านหน้า และไฟถนน  และระบบจะปิดการใช้ไฟสูง ปรับเป็นการใช้ไฟต่ำโดยอัตโนมัติ  เมื่อความเร็วรถยนต์ต่ำกว่า 30 กม./ ชม. หรือตรวจพบไฟหน้าของรถที่สวนมา ไฟท้ายของรถยนต์ด้านหน้า หรือไฟถนนอย่างใดอย่างหนึ่ง รวมไปถึงระบบจะยกเลิกการใช้ไฟสูงอัตโนมัติเมื่อเกียร์อยู่ในตำแหน่ง “R”
  • ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด (Pedal Misapplication Mitigation – PMM)  ระบบจะตรวจจับการเหยียบคันเร่ง  และสิ่งกีดขวางด้านหน้าด้วยกล้องหน้าคู่ เมื่อพบว่ามีการเหยียบคันเร่งมากเกินไปโดยไม่ได้ตั้งใจด้วยแรงเหยียบเกินกว่า 30% ขณะรถยนต์จอดอยู่ หรือเคลื่อนที่ช้า ๆ และกล้องหน้าคู่พบสิ่งกีดขวางด้านหน้ารถยนต์มีระยะห่างน้อยกว่า  4 เมตร ระบบจะตัดการทำงานของเครื่องยนต์เพื่อป้องกันหรือลดความเสียหายของการชน โดยระบบจะแจ้งให้ผู้ขับขี่ทราบผ่านคำเตือนบนหน้าจอ MID  มีแสงกะพริบบริเวณคอนโซลหน้าที่จะสะท้อนไปที่กระจกหน้า เพื่อเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น  และส่งเสียงเตือนสั้นซ้ำ ๆ ต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ขับขี่ยกเท้าออกจากคันเร่ง หลังจากนั้นผู้ขับขี่ต้องเหยียบเบรกด้วยตัวเองเพื่อหยุดรถ
  • ระบบตั้งค่าจำกัดความเร็วสูงสุดด้วยตัวเอง  (Manual Speed Limiter – MSL)

ผู้ขับขี่สามารถตั้งค่าความเร็วสูงสุดที่ต้องการให้สอดคล้องกับสภาพถนนในขณะขับขี่ โดยตั้งค่าได้ทั้งในขณะขับรถหรือรถหยุดนิ่ง  ให้อยู่ในช่วงความเร็วระหว่าง 30-160 กม./ชม. ซึ่งผู้ขับขี่ยังคงสามารถควบคุมความเร็วรถยนต์ได้ตามปกติ  โดยระบบจะควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์เพื่อไม่ให้เกินความเร็วที่ตั้งไว้

  • ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา  (Blind Spot Monitoring – BSM)  ขณะขับรถที่ความเร็ว 15 กม./ชม. หากมียานพาหนะอื่นอยู่ในบริเวณจุดอับสายตา  ระบบจะตรวจจับด้วยเรดาร์ด้านท้ายรถยนต์  โดยไฟเตือนจะติดค้างที่กระจกมองข้าง และจะกะพริบเมื่อเปิดไฟเลี้ยว
  • ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถยนต์  (Rear Cross Traffic Alert – RCTA) เมื่อเรดาร์ด้านท้ายรถยนต์ตรวจจับพบว่ามีวัตถุวิ่งผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง ระบบจะส่งสัญญาณเสียงเตือน พร้อมไฟกะพริบที่กระจกมองข้าง  ทั้งนี้รถยนต์ต้องมีความเร็วไม่เกิน 10 กม./ชม.  เกียร์ต้องอยู่ในตำแหน่ง “R”
  • ระบบเซ็นเซอร์ช่วยจอดรถยนต์  (Parking Aid System)   ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายขณะจอดรถยนต์ หรือขับขี่ในเส้นทางแคบ  ด้วยเซ็นเซอร์ 8 จุดรอบคัน  ช่วยตรวจจับคนหรือวัตถุด้านหน้าและด้านหลัง เพื่อส่งสัญญาณเตือนบนหน้าจอ MID และเสียงเตือน โดยขณะถอยหลังจะทำงานพร้อมกล้องมองหลัง ซึ่งมีเส้นกะระยะที่สามารถปรับองศาตามพวงมาลัยของรถ  ทั้งนี้รถยนต์ต้องมีความเร็วไม่เกิน 10 กม./ชม.  และระดับเสียงเตือนจะดัง-เบาตามระยะใกล้-ไกลระหว่างวัตถุกับรถยนต์
  • ระบบเบรกอัตโนมัติหลังการเกิดอุบัติเหตุ (Multi – Collision Brake – MCB)

เพื่อลดโอกาสการชนต่อเนื่อง  ระบบจะช่วยเบรกอัตโนมัติภายหลังการเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้แอร์แบคทำงาน เพื่อลดความเร็วและแรงเหวี่ยงของรถยนต์หลังการชน

https://www.car250.com/isuzu-mu-x-price-2020-th.html

Advertisement

Advertisement

ใส่ความเห็น

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้