หมอนทองวิทยา x รถสองแถว ISUZU NPR ตำนานทีมมัธยมที่ไม่ได้มีรถบัส แต่มีหัวใจและความฝัน ลุยถึงรอบชิงฟุตบอล 7 สี 2568

หมอนทองวิทยา x รถสองแถว Isuzu NPR:ตำนานทีมมัธยมที่ไม่ได้มีรถบัส แต่มีหัวใจและความฝัน ลุยถึงรอบชิงฟุตบอล 7 สี 2568
โรงเรียนหมอนทองวิทยา จ.ฉะเชิงเทรา ใช้รถสองแถว Isuzu NPR เป็นพาหนะพาทีมฟุตบอลเด็ก ม.ปลาย ลุยเข้ารอบชิงฟุตบอล 7 สี 2568 สร้างตำนานจากความฝันและความเชื่อ ในวงการฟุตบอลเยาวชนไทย มีทีมจำนวนน้อยมากที่จะถูกพูดถึงทั้ง “ในสนาม” และ “นอกสนาม” พร้อมกัน – แต่หมอนทองวิทยา คือหนึ่งในไม่กี่ทีมที่ทำได้
นี่คือทีม ม.ปลายจาก จ.ฉะเชิงเทรา ที่ไม่ได้เดินทางด้วยรถบัสหรู มีโลโก้สปอนเซอร์ติดข้างรถ แต่เดินทางด้วย รถสองแถว Isuzu NPR รุ่นตำนาน ที่เด็ก ๆ ทั้งทีม เรียกมันว่า “รถตามล่าฝัน”
และโค้ชของทีม? ไม่ใช่แค่โค้ช แต่เป็น อ.สกล เกลี้ยงประเสริฐ ครู, โค้ช, ผู้จัดการทีม และคนขับรถสองแถวในคนเดียวกัน
บางทีมชนะด้วยงบประมาณ
บางทีมชนะด้วยชื่อสถาบัน
แต่ทีมนี้… ชนะด้วยหัวใจ
โรงเรียนหมอนทองวิทยา ทีมเล็ก หัวใจใหญ่ จากฉะเชิงเทรา
หมอนทองวิทยาอาจไม่ใช่โรงเรียนดังระดับประเทศ ไม่ได้มี “สายกีฬา” เต็มระบบ ไม่ได้มีสนามหญ้าเทียม หรือฟิตเนสเฉพาะทีม
แต่พวกเขามี 3 สิ่งที่หาไม่ได้จากงบประมาณ:
- วัฒนธรรมความเชื่อในความพยายาม
- ชุมชนที่เชื่อว่าฟุตบอลเปลี่ยนชีวิตเด็กได้
- โค้ชที่ไม่ยอมให้ “ข้อจำกัด” เป็นข้ออ้าง
เด็กนักฟุตบอลหลายคนยังต้องช่วยพ่อแม่ทำสวน ทำนา ขายของ ชีวิตจริงไม่ได้โรยด้วยสนามซ้อมหญ้านุ่ม ๆ แต่พวกเขายังฝึกซ้อมทุกวัน ยังตั้งเป้าหมายเหมือนทีมจากโรงเรียนใหญ่
ฟุตบอล 7 สี คือความฝันสูงสุด และปี 2568 คือปีที่ฝันนั้น “เริ่มเป็นจริง”
จากรถบรรทุกสู่รถสองแถว ทำไม Isuzu NPR ถึงเป็น “รถประจำทีมในตำนาน”
NPR ไม่ใช่แค่รถขนของ แต่มันคือชีวิตคนไทยมาหลายสิบปี
แทบทุกจังหวัดมีรถสองแถว NPR อย่างน้อย 1 สาย บางคันวิ่งมา 15–20 ปี แต่ยังสตาร์ทติด… และยัง “รับคนกลับบ้านได้ทุกวัน” สำหรับหมอนทองวิทยา NPR ไม่ได้เป็นแค่รถโดยสาร แต่มันคือ “รถบัสทีมฟุตบอล” “รถไปแข่ง” “รถพาความฝันเดินทาง”
ทำไม NPR ถึงถูกยกให้เป็น ‘โคตรรถสองแถวในตำนาน’
-
เครื่องดีเซลทนทายาด 115–150 แรงม้า
-
ช่วงล่างรับน้ำหนักดีแบบรถบรรทุกแท้ ๆ
-
ซ่อมง่าย อะไหล่ไม่แพง ช่างท้องถิ่นซ่อมได้ทุกอู่
-
เติมน้ำมันแล้ววิ่งได้ทั้งวัน
-
รถคันเดียว “พาหมู่บ้านอยู่รอด” มาหลายยุค
หลายคนโตมากับเสียงเครื่อง NPR บางคนขึ้นไปโรงเรียน บางคนกลับจากตลาด บางคน “ไปแข่งบอล” เหมือนหมอนทองวิทยา รถรุ่นนี้ไม่หรู แต่ มีเรื่องเล่าทุกคัน
ฟุตบอล 7 สี 2568 เส้นทางของหมอนทองวิทยา สู่รอบชิงระดับประเทศ
การเข้ารอบลึกในฟุตบอล 7 สี ไม่ใช่เรื่องธรรมดา เพราะนี่คือรายการที่ทีมจากทั่วประเทศ ต้องผ่านโรงเรียนใหญ่ ๆ ระดับตัวท็อป
และหมอนทองวิทยา… ผ่านมาได้ด้วย จังหวะ, แท็กติก และหัวใจของทีม
เกมสำคัญที่คนทั้งจังหวัดพูดถึง
-
รอบ 32 ทีม: ชนะทีมเต็งที่เหนือกว่าเกือบทุกอย่าง
Advertisement Advertisement -
รอบ 16 ทีม: ยิงประตูชัยนาที 89
-
รอบ 8 ทีม: ชนะด้วยสกอร์ที่ไม่มีใครคาดคิด
-
รอบรองฯ: เกมที่เล่นแบบ “ไม่เหลืออะไรต้องกลัว”
หลังจบเกมรอบรอง… ไม่มีใครบนรถร้องเพลง แต่ทุกคน “ยิ้มทั้งน้ำตา”
“ครูครับ เราไปชิง 7 สี จริงเหรอ?”
“จริงสิลูก… เรามาถึงแล้ว”
อ.สกล เกลี้ยงประเสริฐ ครู, โค้ช และคนขับรถสองแถวที่พาเด็กไปถึงฝัน
ไม่ใช่เรื่องปกติ ที่โค้ชทีมฟุตบอลจะเป็น “พนักงานขับรถทีม” ด้วย แต่เขาทำ และทำด้วยความภูมิใจ เพราะเขาเชื่อว่า “เด็กจะเชื่อในความฝันได้ ก็ต่อเมื่อผู้ใหญ่ลงมือทำให้เห็นก่อน”
เขาไม่เคยบ่นว่าโรงเรียนไม่มีรถบัส เขาแค่สตาร์ทรถ NPR แล้วพาเด็กไปซ้อม เขาไม่เคยบ่นว่าโรงเรียนเล็ก เขาแค่บอกเด็กว่า “ถ้าใจใหญ่พอ… โรงเรียนก็ใหญ่พอ”
นัดชิงชนะเลิศ หมอนทองวิทยา vs อบจ.ชัยนาท 8 พ.ย. 2568
วันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2568
เวลา 16.15 น.
สนามศุภชลาศัย กรุงเทพฯ
ถ่ายทอดสด + ดูออนไลน์
นี่ไม่ใช่แค่เกมฟุตบอล แต่มันคือ พิธีวัดหัวใจของทีมที่ไม่มีอะไรเลย… นอกจากความเชื่อ
จะชนะหรือแพ้ไม่ใช่ประเด็น เพราะพวกเขาชนะไปแล้วตั้งแต่วันแรกที่ขึ้นรถสองแถวคันนั้น
ข้อมูลด้านเครื่องยนต์
| รายการ | รายละเอียด |
|---|---|
| รหัสเครื่องยนต์ | Isuzu 4BE1 (ดีเซล 4 สูบ) |
| ความจุเครื่องยนต์ | 3.6 ลิตร (3,600 ซีซี) |
| ระบบจ่ายเชื้อเพลิง | ปั๊มดีเซลแบบกลไก (Mechanical Injection) |
| กำลังสูงสุด | ประมาณ 110 แรงม้า @ 3,200 rpm |
| แรงบิดสูงสุด | ราว 25–27 กก.-ม. @ 1,800 rpm |
| ระบบอัดอากาศ | ไม่มีเทอร์โบ (NA) |
| ประเภทเครื่องยนต์ | ดีเซล OHV 8 วาล์ว |
ระบบส่งกำลัง
| รายการ | รายละเอียด |
|---|---|
| เกียร์ | ธรรมดา 5 สปีด |
| ระบบขับเคลื่อน | ขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) |
| อัตราทดเฟืองท้าย | ประมาณ 5.xx (ขึ้นอยู่กับประเภทรถดัดแปลง/งานบรรทุก) |
ช่วงล่าง / เบรก
| รายการ | รายละเอียด |
|---|---|
| ช่วงล่างหน้า–หลัง | แหนบแผ่น + โช้กอัพ |
| เบรกหน้า | ดรัมเบรก |
| เบรกหลัง | ดรัมเบรก |
| ระบบเสริม | ไม่มี ABS / ไม่มีเบรกไฮดรอลิกเสริม (ยุคนั้นเป็นแบบสาย + แวคคัมปกติ) |
ขนาดมิติ (โดยประมาณ – แล้วแต่ตัวถัง)
| รายการ | ค่า |
|---|---|
| ความยาวตัวรถ | 5.6 – 6.0 เมตร (ตามเวอร์ชันกระบะ / ดัดแปลงรถสองแถว) |
| ความกว้าง | 1.9 เมตร |
| น้ำหนักบรรทุก | 3.5 – 4.5 ตัน (GVW ราว 4,600 กก.) |
จุดเด่นของ NPR 115 (ยุค 80s)
-
เครื่องดีเซลทน ถึก ซ่อมง่าย ใช้นานเกิน 20–30 ปีได้
-
ประหยัดน้ำมันเมื่อเทียบกับรถบรรทุกสมัยเดียวกัน
-
โครงสร้างแชสซีแข็งแรง ดัดแปลงได้หลายรูปแบบ (สองแถว / บรรทุก / ตู้ / เครนเล็ก)
-
อะไหล่เยอะ ซ่อมได้เกือบทุกร้านทั่วไทย

