KIA SORENTO HYBRID เปิดขาย 1.39 ล้านบาทในสรหัฐฯ 1.6T 227 แรงม้า 15.31 กม./ลิตร EPA

KIA AMERICA ประกาศราคาสำหรับ 2025 SORENTO HYBRID โดยเริ่มต้นที่ 38,690 – 46,890 $ หรือประมาณ 1.39 – 1.69 ล้านบาท

เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบไฮบริด DDI 4 สูบ ขนาด 1.6 ลิตร ให้กำลัง 227 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 349 นิวตัน-เมตร + มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลัง 59.2 แรงม้า แบตเตอรี่ 1.5 kWh ส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีต อัตราประหยัด 15.31 กม./ลิตร EPA ในรุ่น FWD พร้อมระบบขับเคลื่อน FWD และ AWD

การออกแบบด้านหน้าลักษณะคล้ายๆ KIA EV9 ไฟฟ้าที่พึ่งเปิดตัว ไฟหน้า LED กันชนหน้าออกแบบใหม่ กระจกมองข้างสีดำ ไฟท้ายแบบ LED แนวตั้ง กาวข้างโครเมียม ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว สีภายนอก สีเขียว Cityscape Green, สีฟ้า Mineral Blue, สีเทา Interstellar Grey และสี Volcanic Sand รวมถึงสีภายในห้องโดยสารใหม่ Dust Blue ที่ให้บรรยากาศที่น่าดึงดูดใจ

ขนาดตัวถัง

ยาว 4,815 มม.
กว้าง 1.899 มม.
สูง 1,694 มม.
ระยะฐานล้อ 2,814 มม.
ระยะห่างจากพื้น 176 มม.

ภายใน Sorento Hybrid ได้รับแผงหน้าปัดแบบพาโนรามามาตรฐานพร้อม TFT ขนาด 4.3 นิ้วและหน้าจอ 12.3 นิ้ว ในขณะที่รุ่น SX-P อัพเกรดเป็นแผงพาโนรามิกแบบโค้งพร้อมหน้าจอคู่ขนาด 12.3 นิ้ว จอแสดงผลนี้จะปลดล็อกระบบปฏิบัติการ Connected Car Navigation Cockpit (ccNC) อันล้ำสมัยของ Kia ด้วยความเร็วการประมวลผลที่เร็วขึ้น และคุณสมบัติและบริการดิจิทัลที่มีให้² ความสามารถในการอัปเดต Over The Air ³ (OTA) Android Auto ⁴และ Apple CarPlay ⁵ แบบไร้สาย เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เช่นเดียวกับพอร์ต USB-C ที่อยู่ในตำแหน่งที่สะดวกตลอดทั้ง 3 แถว การก้าวขึ้นสู่รุ่น SX-P ยังเพิ่มแผงบุหลังคาหนังกลับแบบมาตรฐาน เบาะคู่หน้าแบบระบายอากาศ และ Advanced Digital Key 2.0 ⁶ให้กับคุณสมบัติต่างๆ

ภายในรองรับ 7 ที่นั่ว 3 แถว พร้อมเก้าอี้กัปตันแถวที่ 2
เบาะนั่งแถวที่ 3 พับเบาะ 50/50
แผงบุหลังคาระดับพรีเมียมและเบาะนั่งหนังแท้ กระจกลามิเนตกันเสียงที่มีจำหน่ายใหม่ที่ประตูหน้าช่วยป้องกันไม่ให้เสียงรบกวนจากภายนอกเข้ามาในห้องโดยสาร
เบาะนั่งคู่หน้าแบบอุ่นมาตรฐานและเบาะคู่หน้าแบบมีช่องระบายอากาศ
เบาะนั่งแถวที่ 2 พร้อมระบบทำความร้อน และพวงมาลัยแบบอุ่นช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในสภาพอากาศที่หลากหลาย
ระบบเสียงระดับพรีเมียม Bose® ลำโพง 12 ตัวพร้อมความสามารถ Bluetooth®
ซันรูฟแบบพาโนรามา
พร้อมระบบ KIA Digital Key 2 ซึ่งช่วยให้เจ้าของสามารถใช้สมาร์ทโฟนหรือสมาร์ทวอทช์เพื่อปลดล็อคและสตาร์ทรถได้รองรับการตั้งค่าส่วนบุคคลสำหรับผู้ใช้แต่ละคน ระบบตรวจสอบลายนิ้วมือใหม่ยังใหม่อีกด้วย ช่วยให้ไดรเวอร์ต่างๆ สามารถสลับการตั้งค่าที่บันทึกไว้ล่วงหน้าเมื่อเข้ามาครั้งแรก
พร้อมเทคโนโลยี Highway Driving Assist 2 HDA 2 เป็นระบบช่วยขับขี่ขั้นสูง (ADAS) ที่มีอยู่ในรถยนต์รุ่นใหม่ๆ หลายรุ่นของ KIA ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่ขับรถบนทางหลวงได้อย่างสะดวกและปลอดภัยมากขึ้น
ระบบแสดงจุดบอด Blind-Spot View Monitor