Advertisement

Advertisement

เปิดขายไทย 1.38-1.68 ล้านบาท MITSUBISHI PAJERO SPORT ไมเนอร์เช้นจ์ 2.4 hyper power 184 แรงม้า

เปิดขายไทย 1.38-1.68 ล้านบาท MITSUBISHI PAJERO SPORT ไมเนอร์เช้นจ์ 2.4 hyper power 184 แรงม้า

Advertisement

Advertisement

Advertisement

Advertisement

เครดิตภาพ บี เบาเบา

สิ่งที่เปลี่ยนแปลง

  • กระจังหน้าออกแบบใหม่
  • กันชนหน้าใหม่
  • ไฟหน้าออกแบบภายในโคมใหม่
  • ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ทั้งแบบ 5 ก้าน และ 6 ก้านสีทูโทน
  • กันชนหลังออกแบบใหม่
  • เครื่องจาก 2.4 TURBO Hyper Power รหัส 4N16 Hyper Power

กรุงเทพฯ – 18 มีนาคม 2567: มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เผยโฉม มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่ รุ่นปี 2024 หลอมรวมที่สุดแห่งดีเอ็นเอของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส (Mitsubishi Motors-ness) ต่อยอดทุกเทคโนโลยีสู่ขั้นสุด ด้วยขุมกำลังใหม่ “ไฮเปอร์พาวเวอร์ (Hyper Power)” เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 4 สูบแถวเรียง ความจุ 2.4 ลิตร เปี่ยมสมรรถนะ ทะยานไปสู่ทุกจุดหมายด้วยพลังการควบคุมที่เหนือระดับ จัดเต็มเทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน มอบความสะดวกสบายยิ่งกว่าให้กับทุกที่นั่ง ภายในตกแต่งใหม่ด้วยดีไซน์สปอร์ตพรีเมียม รูปลักษณ์ภายนอกโดดเด่นสะดุดตาด้วยการปรับโฉมเติมความคมเข้มปราดเปรียว ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเจ้าของธุรกิจรุ่นใหม่ นักเที่ยวสายลุย ที่มีความมั่นใจในตัวเอง กล้าคิดกล้าทำกล้าใช้ชีวิต โดยมีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และขับเคลื่อน 2 ล้อ พร้อมจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ราคาเริ่มต้น 1,389,000 บาท

ด้วยสโลแกน “Power in Your Control ไปสู่ทุกจุดหมายด้วยพลังการควบคุมที่เหนือระดับ” มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่! รุ่นปี 2024 มาพร้อมขุมกำลังใหม่ “ไฮเปอร์พาวเวอร์ (Hyper Power)” เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล วีจี เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ เทอร์โบ 4 สูบ ความจุ 2.4 ลิตร พร้อมหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์แบบคอมมอนเรลเจเนอเรชันใหม่ ทรงพลังและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยมาตรฐานไอเสียระดับยูโร 5 (Euro 5) สร้างพละกำลังสูงสุด 184 แรงม้า ที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ที่ 2,250 – 2,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติใหม่ ประสานการทำงานกับเครื่องยนต์ได้อย่างลงตัว พร้อมโหมดการขับขี่แบบออฟโรด 4 รูปแบบ ได้แก่ Gravel, Mud/Snow, Sand, Rock ตอบสนองการขับขี่ได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมประหยัดน้ำมันกว่าเดิม

มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ Elite Edition พร้อมเดินทางสู่จุดหมายในทุกสภาพอากาศและสภาพถนนทุกรูปแบบ ด้วยระบบขับเคลื่อน ซูเปอร์ซีเล็คต์ โฟร์วีลไดร์ฟ ทู (Super Select 4WD II) เอกลักษณ์เฉพาะของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ซึ่งสามารถปรับเข้าสู่โหมดการขับเคลื่อน 4 ล้อแบบฟูลไทม์ (4H Full-time) ได้ทันที แม้ในขณะขับขี่ด้วยความเร็ว (Shift-on-the-Fly) ทั้งยังมีโหมด 4HLc (ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัตราทดความเร็วสูง) และ 4LLc (ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัตราทดความเร็วต่ำ) รวมถึงโหมดการขับขี่แบบออฟโรด 4 รูปแบบ ได้แก่ Gravel สำหรับการขับขี่บนทางฝุ่น Mud/Snow สำหรับการขับขี่บนผิวทางที่ปกคลุมด้วยโคลนหรือหิมะ รวมถึงขณะที่ฝนตกซึ่งพื้นผิวถนนมีความลื่น Sand สำหรับการขับขี่บนพื้นผิวทราย และ Rock สำหรับขับขี่บนผิวทางที่ขรุขระหรือพื้นผิวหิน

รูปลักษณ์ภายนอก โดดเด่นสะดุดตายิ่งขึ้นด้วยกระจังหน้าดีไซน์ใหม่แบบรังผึ้ง พร้อมแผงกันชนหน้าและหลังดีไซน์ใหม่ ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ และคุมโทนความดุดันสุดแกร่งด้วยกระจกมองข้างและมือจับประตูสีดำ

ภายในห้องโดยสารยกระดับความสะดวกสบายและความทันสมัยด้วยการตกแต่งใหม่แบบสีทูโทน ดำ-แดงเบอร์กันดี สลับการตกแต่งด้วยสีไทเทเนียมรมดำบริเวณขอบประตูและรอบช่องแอร์ พวงมาลัย มัลติ-ฟังก์ชัน หุ้มหนังรูปแบบใหม่ จับกระชับมือมากยิ่งขึ้นพร้อม Paddle Shift และระบบฟอกอากาศบริสุทธิ์ในห้องโดยสาร nanoeX™ และผู้โดยสารยังได้รับความสะดวกสบายอย่างเต็มที่ด้วยเบาะหนังสังเคราะห์ออกแบบลาย Diamond Cut พร้อมคุณสมบัติสะท้อนความร้อน (Heat Guard) เบาะคู่หน้าปรับระดับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบดันหลังปรับด้วยไฟฟ้าด้านเบาะผู้ขับขี่

อุปกรณ์อำนวยความสะดวก ที่เติมความรื่นรมย์ภายในห้องโดยสาร ประกอบด้วย จอแสดงผลการขับขี่ใหม่แบบ Full Digital ขนาด 8 นิ้ว คมชัด ใช้งานง่าย ระบบเครื่องเสียง Mitsubishi Power Sound System ชุดเครื่องเสียงระดับพรีเมียม 8 ลำโพง พร้อมพาวเวอร์แอมป์ ให้เสียงชัดรอบทิศทาง หน้าจอบนเพดานสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ขนาด 12.1 นิ้ว พร้อมรีโมท หูฟังอินฟราเรด และเชื่อมต่อ HDMI และ USB หน้าจอระบบสัมผัส 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อผ่านสมาร์ทโฟน (SDA) Apple Carplay & Android Auto และระบบเชื่อมต่อ Bluetooth แฮนด์ฟรีและรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง ระบบเบรกมือไฟฟ้าและระบบหน่วงแรงเบรกอัติโนมัติ (Brake Auto Hold) และประตูท้ายไฟฟ้าพร้อมระบบแฮนด์ฟรี ที่สามารถเปิด-ปิดได้ 5 รูปแบบ

มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่ รุ่นปี 2024 มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน Diamond Sense ที่มาพร้อมกับ ระบบล็อกความเร็วแบบแปรผันอัติโนมัติ (Adaptive Cruise Control: ACC) ลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุหรือการปะทะ และลดความเหนื่อยล้าเมื่อขับขี่ทางไกล ได้แก่ ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (Forward Collision Mitigation System: FCM) ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะเมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว (Ultrasonic Misacceleration Mitigation System: UMS) กล้องมองภาพรอบคัน (Multi Around Monitor: MAM) ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด (Rear Cross Traffic Alert: RCTA) ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา พร้อมสัญญาณเตือนขณะเปลี่ยนเลน (Blind Spot Warning with Lane Change Assist: BSW with LCA) ระบบปรับระดับลำแสงไฟหน้าอัตโนมัติ (Auto Headlight Leveling System: AHLS) และระบบแจ้งเตือนแรงดันลมยางผิดปกติ (Tire Pressure Monitoring System: TPMS)

นอกจากนี้ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่! ยังมาพร้อมระบบ Mitsubishi Remote Control ที่มอบการควบคุมผ่านสมาร์ทโฟนระบบ iOS และ Android มีฟังก์ชันที่เป็นประโยชน์ในการใช้งาน ได้แก่ การค้นหารถยนต์ การแจ้งเตือนสถานะของรถ สั่งการเปิด-ปิดประตูท้ายอัตโนมัติได้ล่วงหน้า ระบบช่วยเหลือพร้อมแจ้งเหตุผ่านสัญญาณ Bluetooth ของสมาร์ทโฟน พร้อมแสดงข้อมูลและประวัติการใช้งานรถ

มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่ รุ่นปี 2024 มีจำหน่าย 4 รุ่นย่อย ดังนี้

  • รุ่น Prime 2WD วางจำหน่ายที่ราคา 1,389,000 บาท
  • รุ่น Ultra 2WD วางจำหน่ายที่ราคา 1,529,000 บาท

หมายเหตุ สำหรับรุ่น Prime และ Ultra สีขาว White Diamond เพิ่ม 15,000 บาท

  • รุ่น Elite Edition 2WD วางจำหน่ายที่ราคา 1,579,000 บาท
  • รุ่น Elite Edition 4WD วางจำหน่ายที่ราคา 1,689,000 บาท

หมายเหตุ สำหรับรุ่น Elite Edition ทั้ง 2WD และ 4WD สีแดง Medium Red/Black Roof เพิ่ม 5,000 บาท

สีขาว White Diamond/Black Roof เพิ่ม 20,000 บาท

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และนัดหมายเพื่อทดลองขับได้ที่ www.mitsubishi-motors.co.th หรือ มิตซูบิชิ คอลเซ็นเตอร์ หมายเลขโทรศัพท์ 02-079-9500 เปิดรับสายทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง ติดตามข้อมูลข่าวสารของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้ที่ www.facebook.com/MitsubishiMotorsTH

2.4 TURBO Hyper Power
  • เครื่องยนต์ดีเซล รหัส 4N16 Hyper Power แบบ 4 สูบ แถวเรียง ขนาด 2.4 ลิตร 2,442 ซีซี. เทอร์โบแปรผัน VG-Turbo – Intercooler กระบอกสูบ x ช่วงชัก 86.0 x 105.1 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 15.2 : 1 กำลังสูงสุด 184 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ที่ 2,250 – 2,500 รอบ/นาที เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง / ขับเคลื่อน 4 ล้อ Super Select Full-time 4WD II

 

Advertisement

Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้