Advertisement

Advertisement

กระบะไฮบริด Mitsubishi TRITON จะไม่ใช้ e-POWER เปิดตัวในอนาคตอีกไม่นาน

กระบะไฮบริด Mitsubishi TRITON จะไม่ใช้ e-POWER เปิดตัวในอนาคตอีกไม่นาน

Advertisement

Advertisement

    

    

Mitsubishi Triton ใหม่มีแนวโน้มที่จะได้รับตัวเลือกไฮบริดก่อนที่จะมีปลั๊กอินไฮบริดหรือระบบส่งกำลังไฟฟ้าทั้งหมด “เรากำลังศึกษาทั้งสองสิ่งนี้ แบตเตอรี่ EV และ HEV (รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด) สำหรับอนาคต” ฮิโรชิ นางาโอกะ หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมและผลิตภัณฑ์กลยุทธ์ระดับโลกของ Mitsubishi กล่าวกับสื่อออสเตรเลีย

“เราอยู่ในขั้นตอนวิศวกรรมขั้นสูงของการพัฒนาเหล่านั้น เรายังไม่ได้ตัดสินใจว่าควรใช้เทคโนโลยีใดให้ก้าวไปอย่างรวดเร็ว แต่แน่นอนว่าเรากำลังสำรวจอยู่” นอกจากนี้กระบะไฟฟ้าล้วนจะมีกำหนดเปิดตัวอีก 5 ปีข้างหน้า

ข้อมูลใหม่บ่งชี้ว่า Mitsubishi จะสามารถผลิตรถยนต์ไฮบริดในประเทศไทยได้ภายในต้นปี 2024 ทำให้กระบะไทรทัน เวอร์ชั่นไฮบริด จะได้รับการเปิดตัวในช่วงต้นปี 2024 เช่นกัน

สำนักข่าว Nikkei Asia รายงานว่า Mitsubishi จะเริ่มผลิตรถไฮบริด ในประเทศไทยตั้งแต่ต้นปี 2024 โดยจะครอบคลุม กระบะ Triton , Pajero Sport , Mirage / Attrage และ Outlander รุ่นปลั๊กอินไฮบริด รวมทั้ง Xforce ไฮบริด รวมถึง Xpander HEV

รายงานไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนว่ารถไฮบริดที่ผลิตในไทยจะใช้โมเดลใด และNikkei Asiaยังระบุด้วยว่า Mitsubishi ประเทศไทยมีแผนที่จะผลิต Xpander รุี่นไฮบริด ซึ่งปัจจุบันผลิตในอินโดนีเซียเพื่อขายในตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียและตะวันออกกลาง

หากบรรลุผลสำเร็จในต้นปีหน้า Triton จะเป็นกระบะไฮบริดคันแรกในระดับเดียวกันที่ออกจำหน่ายในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงออสเตรเลีย ขณะนี้การผลิตไทรทันรุ่นดีเซลปัจจบันได้ดำเนินการแล้ว ในประเทศไทย

กระบะไฮบริดคือความเป็นไปได้ของ มิตซูบิชิ

ก่อนหน้านี้ในการพูดคุยกับสื่อออสเตรเลียในงานเปิดตัวรถบรรทุกในประเทศไทย ผู้บริหารชาวญี่ปุ่นของ Mitsubishi ได้เผยว่า กระบะไฟฟ้าอย่าง TRITON อยู่ในขั้นตอนการพัฒนาทางวิศวกรรมขั้นสูงอย่างไร

Advertisement

Advertisement

เขาระบุว่า อย่าเพิ่งคาดหวังว่ากระบะไทรทัน จะใช้ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ หรือ BEV ในเร็วๆนี้ โดยทางแบรนด์อธิบายว่าในอนาคตจะต้องการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าในกระบะ TRITON แต่มีความท้าทายหลายอย่างที่ต้องเอาชนะให้ได้ก่อน

“ในทางเทคนิคแล้ว หากเราใส่แบตเตอรี่ในแพลตฟอร์มปัจจุบัน มันจะไม่เพียงพอ” Hiroshi Nagaoka หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมของ Mitsubishi อธิบาย “ในอนาคตเราต้องปรับเปลี่ยนเฟรมของแพลตฟอร์มเป็นอย่างน้อย และนำชิ้นส่วน Triton โฉมปัจจุบันมาใช้บ้าง เพื่อให้สามารถรองรับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ได้ ”

นั้นหมายความว่า กระบะไฟฟ้าต้องการก้อนแบตเตอรี่ขนาด 100kWh ซึ่งมีขนาดใหญ่น้ำหนักเยอะ หรือมากกว่านี้ เพื่อให้สามารถวิ่งได้ตามระยะทางที่เพียงพอ มันจะไม่สามารถใช้กับเฟรมปัจจุบันได้ แน่นอนว่า Mitsubishi จะพึ่งพา ความเชี่ยวชาญ ด้านปลั๊กอินไฮบริดเพื่อแก้ปัญหาหรือไม่?

จากข้อมูลของนากาโอกะ ปัญหาที่คล้ายคลึงกันก็เกิดขึ้น “สำหรับปลั๊กอินไฮบริด เราต้องพิจารณาทั้ง แบตเตอรี่ และ ถังน้ำมัน ในรถยนต์ขนาดใหญ่ จำเป็นต้องใส่แบตเตอรี่จำนวนมาก และเป็นเรื่องยากมากที่จะมีถังน้ำมันขนาดใหญ่” เขากล่าว “แต่หากเรามีแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ เราก็สามารถใช้ปลั๊กอินไฮบริดได้ และนั่นอาจดีกว่าแบตเตอรี่ไฟฟ้าก็ได้ เราคิดว่า”

“เป็นไปได้มากว่าเราจะเลือกใช้ HEV ก่อน จากนั้นหลังจากนั้นอาจจะพิจารณาการปรับปรุงแบตเตอรี่ PHEV หรือ EV ของแบตเตอรี่” นางาโอกะซังกล่าว โดยสังเกตว่า Mitsubishi จะไม่ใช้เทคโนโลยีไฮบริด e-Power ของพันธมิตรที่เป็นพันธมิตรกับ Nissan

Mitsubishi มีความกังวลอื่นๆ สำหรับการใช้เทคโนโลยีอย่าง e-POWER ของ NISSAN ซึ่งไม่มีเหตุผลที่จะนำมาใช้ในรถกระบะ เพราะอย่างที่ทราบ e-POWER ไม่มีเฟืองสำหรับต่อเครื่องยนต์กับล้อ ซึ่งเป็นปัญหาสำหรับรถใหญ่ สำหรับรถยนต์ขนาดเล็กไม่เป็นไร

“นอกจากนี้ เรากำลังพิจารณาการใช้พลังงานไฟฟ้าแบบอื่น” นางาโอกะกล่าวต่อ ในระยะสั้น ไฮบริดคือทางออกที่ดีมากสำหรับการลด CO2 ในกระบะปัจจุบัน 

“เรายังไม่ได้ตัดสินใจว่าเราจะเร่งดำเนินการใด แต่เรากำลังพิจารณาทั้งสองอย่าง คู่แข่งของเรากำลังทำเช่นเดียวกันในอนาคต ดังนั้นเราต้องพิจารณาว่าอย่างน้อยที่สุดเราจะตามทันหรือนำหน้าด้วยซ้ำ”

Mitsubishi กำลังทำงานเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าไฮบริด HEV ของตัวเองเพื่อแข่งขันกับ Hybrid Synergy Drive ของ Toyotaและ e-Power ของ Nissan โดยจะเปิดตัวใน XPENDER HEV รุ่นปรับปรุงซึ่งจะจำหน่ายในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในไม่ช้า

นอกจากนี้ TOYOTA กำลังสร้าง HILUX ไฮบริด และยังมีข่าว ISUZU D-MAX กำลังสร้างไฮบริดเช่นกัน เมื่อตลาดรถยนต์ฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นแบบนี้ ทำให้ไทรทันใหม่ ต้องสร้างกระบะไฮบริดเช่นกัน และต้องเร่งเครื่องอย่างเร็วด้วย เพราะหากพวกเขาสร้างกระบะไฟฟ้า หรือ ปลั๊กอินไฮบริด ต้นทุนที่แบกรับไว้ต้องมากอย่างแน่นอน

ปัจจุบัน Mitsubishi TRITON มาพร้อม 2 เครื่องยนต์ให้เลือก

2.4 TURBO Hyper Power

  • เครื่องยนต์ดีเซล รหัส 4N16 Hyper Power แบบ 4 สูบ แถวเรียง ขนาด 2.4 ลิตร 2,442 ซีซี. เทอร์โบแปรผัน VG-Turbo – Intercooler กระบอกสูบ x ช่วงชัก 86.0 x 105.1 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 15.2 : 1  ให้กำลัง 184 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ที่ 2,250 – 2,500 รอบ/นาที จับคู่กับ เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และ เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง / ขับเคลื่อน 4 ล้อ Super Select Full-time 4WD II

เครื่องยนต์ดีเซล แบบ 4 สูบ แถวเรียง ขนาด 2.4 ลิตร เทอร์โบคู่ Bi-Turbo พละกำลังสูงสุด 204 แรงม้า 470 นิวตันเมตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ Super Select Full-time 4WD II ส่งกำลังเกียร์ธรรมดา 6MT และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีต (ขายไทยปลายปีในรุ่น Top สุด 4WD AT)

เทคโนโลยีการขับขี่

  • ปุ่มปรับโหมด Off-Road 7 โหมดการขับขี่
  • ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Full-time AWD (Super Select 4WD II) ปรับได้ 4 แบบ
    • ขับเคลื่อน 2 ล้อ (2H) ขับขี่บนสภาพถนนปกติ
    • ขับเคลื่อน 4 ล้อ (4H) ขับขี่บนสภาพถนนเปียกลื่น ที่ใช้ความเร็ว
    • ขับเคลื่อน 4 ล้อ (4HLC) ขับขี่เส้นทางทุรกันดาร แต่ยังใช้ความเร็วได้
    • ขับเคลื่อน 4 ล้อ (4LLC) ขับขี่เส้นทางทุรกันดารมาก มีโคลน เนินสลับ ลาดชันมาก
  • ระบบ Active Limited Slip แบบควบคุมด้วยระบบเบรก
  • เฟืองท้าย ระบบล็อคเพลาหลัง Diff-Lock
  • ระบบควบคุมการขับเคลื่อน และ สมดุลขณะเข้าโค้ง Active Yaw Control
  • ระบบลดกำลังเครื่องยนต์ เพื่อช่วยเบรก Brake Override System

Drive/ carsguide.com.au

เปิดสายการผลิต Mitsubishi TRITON ใหม่ ที่โรงงานแหลมฉบัง กำลังการผลิตกว่า 200,000 คันต่อปี

https://www.car250.com/all-new-mitsubishi-triton-2023-08.html

Carexpert/Whichcar.com.au

Advertisement

Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้