สรุปมหากาพย์ NETA : บริษัทแม่ที่จีนยื่นล้มละลาย สะเทือนถึงไทย หยุดผลิต อะไหล่ขาดแคลน อนาคตแขวนบนเส้นด้าย

สรุปมหากาพย์ NETA : บริษัทแม่ที่จีนยื่นล้มละลาย สะเทือนถึงไทย หยุดผลิต อะไหล่ขาดแคลน อนาคตแขวนบนเส้นด้าย
Spread the love

Advertisement

Advertisement

 

ไทม์ไลน์สรุปวิกฤต NETA: จากดาวรุ่งสู่ภาวะล้มละลาย (จีน-ไทย)

ไทม์ไลน์นี้จะแสดงให้เห็นว่าปัญหาในบริษัทแม่ที่จีนได้ส่งผลกระทบโดยตรงและต่อเนื่องมายังการดำเนินงานในประเทศไทย

ปี 2023: สัญญาณรอยร้าวแรกที่จีน

  • จีน: ยอดขายของ Hozon (NETA) ทั่วโลกเริ่มลดลง 16% สวนทางกับตลาด EV ที่กำลังโต และพลาดเป้าหมายที่ตั้งไว้ บริษัทเริ่มมีผลประกอบการขาดทุนสะสมอย่างหนัก

ปี 2024: วิกฤตสภาพคล่องรุนแรง

  • จีน: แผนการเสนอขายหุ้น IPO ในตลาดหลักทรัพย์ล้มเหลว ทำให้บริษัทขาดสภาพคล่องอย่างหนัก เริ่มมีข่าวลือเรื่องการเลิกจ้าง, การค้างจ่ายเงินเดือนพนักงาน และปัญหาหนี้สินกับซัพพลายเออร์

ต้นปี 2025: ปัญหาเริ่มลุกลามและปรากฏชัด

  • จีน (มกราคม): NETA พยายามระดมทุนครั้งใหม่เพื่อแก้ปัญหาสภาพคล่อง แต่ท้ายที่สุดก็ไม่สำเร็จ
  • จีน (มีนาคม): มีรายงานข่าวว่า NETA เริ่มยุบแผนกวิจัยและพัฒนา (R&D) ซึ่งเป็นหัวใจหลักของบริษัทเทคโนโลยี
  • ไทย (มีนาคม-เมษายน): แม้บริษัทแม่จะมีปัญหา แต่ NETA ประเทศไทยยังคงพยายามสร้างความเชื่อมั่นและประกาศแผนธุรกิจปี 2025 โดยตั้งเป้าจะผลิตรุ่น NETA X ในเดือนกรกฎาคม และตั้งไทยเป็นศูนย์กลางการส่งออก

พฤษภาคม 2025: วิกฤตในจีนเข้าขั้นวิกฤต – ปัญหาปะทุในไทย

  • จีน (13 พฤษภาคม): จุดเปลี่ยนสำคัญ – บริษัทเจ้าหนี้ (Shanghai Yuxing Advertising) ยื่นฟ้องล้มละลาย ต่อ Hozon Auto บริษัทแม่ของ NETA อย่างเป็นทางการ ข่าวการขาดทุนสะสมมหาศาลและคดีฟ้องร้องกว่า 400 คดีถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ
  • ไทย (16 พฤษภาคม): เริ่มปรากฏความวุ่นวายภายในองค์กร มีการเปลี่ยนแปลงชื่อกรรมการบริษัทในไทยเหลือเพียงคนเดียว (นางสาวสรินยา ศรีไทย) อย่างน่าสงสัย
  • ไทย (27 พฤษภาคม): กรรมการชาวไทยเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวัน กรณีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างบริษัทที่ไม่เป็นไปตามข้อตกลง สะท้อนถึงความขัดแย้งภายใน

มิถุนายน 2025: การล่มสลายที่ไม่อาจหยุดยั้ง

  • ไทย (4 มิถุนายน): ผู้บริหาร NETA ประเทศไทยออกมายอมรับปัญหาสภาพคล่องและยอมรับว่าชะตากรรมของบริษัทขึ้นอยู่กับบริษัทแม่ที่จีน ขณะเดียวกัน ดีลเลอร์เริ่มจัดโปรโมชัน “Fire Sale” ลดราคาล้างสต็อกอย่างหนัก
  • ไทย (9 มิถุนายน):
    • ลูกค้า: กลุ่มผู้บริโภคที่ได้รับความเดือดร้อน รวมตัวยื่นเรื่องร้องเรียนต่อสภาองค์กรของผู้บริโภคอย่างเป็นทางการ
    • บริษัท: NETA ประเทศไทยออกประกาศ “ซ้ำเติม” สถานการณ์ โดยแจ้งว่าจะไม่รับประกันคุณภาพรถที่ซื้อในราคาต่ำกว่าที่กำหนด สร้างความไม่พอใจเป็นวงกว้าง
  • ไทย (10 มิถุนายน): มีการเปลี่ยนชื่อกรรมการบริษัทอีกครั้งเป็น “นายเชา ต้าถิง” สัญชาติจีน
  • จีน (11 มิถุนายน): พนักงานที่สำนักงานใหญ่ในเซี่ยงไฮ้รวมตัวประท้วงเรื่องค้างจ่ายเงินเดือน
  • & (12 มิถุนายน):
    • จีน: ประธานบริษัทออกมายอมรับว่ากำลังเตรียมเข้าสู่กระบวนการ “ปรับโครงสร้างหนี้และองค์กร”
    • ไทย: NETA ประเทศไทย ออกประกาศตามบริษัทแม่ เพื่อแจ้งสถานการณ์ให้สาธารณชนทราบ
  • จีน (19 มิถุนายน): จุดจบอย่างเป็นทางการ – ศาลรับคำร้อง ทำให้ Hozon New Energy Automobile เข้าสู่กระบวนการล้มละลายอย่างเป็นทางการ สื่อใหญ่อย่าง Reuters และ CCTV รายงานข่าวยืนยันสถานการณ์ดังกล่าว

สรุปมหากาพย์ NETA: บริษัทแม่ที่จีนยื่นล้มละลาย สะเทือนถึงไทย หยุดผลิต อะไหล่ขาดแคลน อนาคตแขวนบนเส้นด้าย

สถานการณ์ของ NETA Auto เข้าขั้นวิกฤตหนัก หลังจากสื่อต่างประเทศและสื่อใหญ่ของจีนอย่าง Reuters และ CCTV รายงานตรงกันว่า Hozon New Energy Automobile ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ NETA ได้ยื่นเรื่องเข้าสู่กระบวนการล้มละลายในประเทศจีนอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2025 ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างมาถึง “เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์)” ที่กำลังเผชิญปัญหารอบด้าน

จุดเริ่มต้นวิกฤตจากบริษัทแม่ในจีน

วิกฤตการณ์ครั้งนี้เริ่มปะทุขึ้นที่ประเทศจีน เมื่อศาลประชาชนกลางเมืองเจียซิงรับคำร้องจากบริษัท Shanghai Yuxing Advertising ที่ยื่นฟ้องให้ Hozon New Energy Automobile เข้าสู่กระบวนการล้มละลาย เนื่องจากปัญหาหนี้สินสะสม โดยมีรายงานว่า Hozon ค้างชำระหนี้ซัพพลายเออร์หลักถึง 134 ราย คิดเป็นมูลค่ามหาศาลกว่า 2,000 ล้านหยวน (ประมาณ 9,400 ล้านบาท)

ก่อนหน้านี้ สถานการณ์ภายในบริษัทแม่ก็ย่ำแย่มาโดยตลอด:

  • พนักงานประท้วง: เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน พนักงานได้รวมตัวประท้วงประธานบริษัท เรียกร้องค่าจ้างที่ค้างจ่าย หลังถูกลดเงินเดือน และบางคนได้รับเงินเดือนเพียง 2,690 หยวน (ราว 12,000 บาท)
  • โชว์รูมทยอยปิด: โชว์รูม NETA ในเมืองใหญ่อย่างเซี่ยงไฮ้ เริ่มทยอยปิดตัวลง
  • ปรับโครงสร้างหนี้: ผู้บริหารออกมายอมรับเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ว่าบริษัทกำลังเตรียมเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างหนี้และองค์กรทั้งหมด ซึ่งเกิดขึ้นก่อนมีข่าวการยื่นล้มละลายเพียงไม่กี่วัน

ผลกระทบระลอกคลื่นถึง “เนต้า ประเทศไทย”

ในวันเดียวกันกับที่ผู้บริหารจีนประกาศปรับโครงสร้างหนี้ (12 มิถุนายน) ทาง NETA Auto Thailand ก็ได้ออกประกาศชี้แจงในทิศทางเดียวกัน แต่สถานการณ์ในประเทศไทยกลับน่าเป็นห่วงไม่แพ้กัน โดยปัญหาหลักที่ผู้บริโภคและดีลเลอร์กำลังเผชิญอยู่ มีดังนี้

  1. หยุดการผลิตและขาดแคลนอะไหล่: โรงงานประกอบรถยนต์ที่บางชัน หยุดการผลิตแล้ว เนื่องจากไม่มีชิ้นส่วนจากจีนส่งเข้ามา ปัญหาอะไหล่รุนแรงถึงขั้นที่ลูกค้ารออะไหล่บางชิ้น เช่น กระจกบังลมหน้า นานถึง 10 เดือน และยังไม่มีกำหนดที่ชัดเจน
  2. หนี้สินในไทย: AutolifeThailand คาดการณ์ว่า เนต้า (ไทยแลนด์) มีหนี้สินหมุนเวียนอย่างน้อย 600 ล้านบาท ซึ่งเป็นหนี้ค้างจ่ายทั้งกับดีลเลอร์, ซัพพลายเออร์, บริษัทโลจิสติกส์ และโรงงานประกอบ
  3. ปัญหาด้านโลจิสติกส์: บริษัทค้างจ่ายเงินบริษัทขนส่ง ทำให้ไม่สามารถนำอะไหล่ที่ค้างอยู่ในท่าเรือออกมาได้ ซ้ำเติมปัญหาการขาดแคลนอะไหล่ให้หนักขึ้นไปอีก
  4. ดีลเลอร์ถอนตัว: จากดีลเลอร์ทั้งหมดกว่า 60 ราย ปัจจุบันได้ถอนตัวไปแล้วกว่า 20 ราย ทำให้เครือข่ายการให้บริการลูกค้าลดลงเหลือเพียง 40 แห่งทั่วประเทศ
  5. ความเดือดร้อนของผู้บริโภค: ลูกค้าที่ซื้อรถไปแล้วกว่า 22,000 คัน รวมตัวร้องเรียนต่อสภาองค์กรของผู้บริโภคในหลายประเด็น ทั้งการรออะไหล่ไม่มีกำหนด, รถบางคันยังจดทะเบียนไม่ได้ และยังไม่ได้รับการติดตั้ง Wall Charge ตามแคมเปญส่งเสริมการขาย

ความวุ่นวายภายในองค์กรและการซ้ำเติมลูกค้า

ท่ามกลางวิกฤต ยังเกิดความไม่ปกติในการบริหารจัดการภายในของ เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) โดยมีการเปลี่ยนตัวกรรมการบริษัทอย่างน่าสงสัย จากเดิมที่มีชื่อ นางสาวสรินยา ศรีไทย เป็นกรรมการคนเดียว (ซึ่งเจ้าตัวได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สน.ทองหล่อ เนื่องจากไม่เป็นไปตามข้อตกลงเดิม) ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ได้มีการเปลี่ยนกรรมการเป็น นายเชา ต้าถิง สัญชาติจีน ซึ่งคาดว่าเป็นตัวแทนจากกลุ่มทุนใหม่ แต่ยังไม่มีการยืนยันที่ชัดเจน

ซ้ำร้ายไปกว่านั้น เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน NETA ประเทศไทย ยังได้ประกาศนโยบายผ่าน Facebook Fanpage ว่า จะไม่รับประกันคุณภาพตัวรถ หากลูกค้าซื้อรถในราคาที่ต่ำกว่าที่บริษัทกำหนด ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้แก่ลูกค้าและดีลเลอร์เป็นอย่างมาก ท่ามกลางปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข

คำตอบจากผู้บริหารและอนาคตที่ไม่แน่นอน

จากการให้สัมภาษณ์ของผู้บริหารชาวจีนเมื่อวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้ให้คำตอบที่สะท้อนความไม่แน่นอนไว้ว่า “ถ้า NETA ที่จีนยังอยู่ NETA ในไทย ก็ยังอยู่” ซึ่งเป็นการยอมรับว่าอนาคตของเนต้าในไทยขึ้นอยู่กับชะตากรรมของบริษัทแม่ที่กำลังจะล้มละลายเป็นหลัก และยอมรับว่าการจ่ายหนี้สินหรือการเคลมประกันคุณภาพ (Warranty) ทั้งหมด ต้องรอเงินทุนจากนักลงทุนรายใหม่และเงินสนับสนุนจากภาครัฐ ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด

สถานการณ์ปัจจุบันของ NETA ทั้งในจีนและไทยจึงอยู่ในภาวะวิกฤตอย่างแท้จริง อนาคตของแบรนด์และผู้บริโภคชาวไทยยังคงแขวนอยู่บนเส้นด้าย และต้องรอความชัดเจนจากกลุ่มทุนใหม่ที่กล่าวอ้างว่าจะเข้ามาแก้ไขสถานการณ์ต่อไป

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้