Advertisement

Advertisement

เปิดตัว All NEW Mercedes-Benz E-Class W214 พร้อมปลั๊กอินไฮบริด วิ่งไฟฟ้า 115 กม. WLTP

เปิดตัว All NEW Mercedes-Benz E-Class W214 พร้อมปลั๊กอินไฮบริด วิ่งไฟฟ้า 115 กม. WLTP

Advertisement

Advertisement

วันที่ 25 เมษายน 2023 เวลา 22.00 น. ตามเวลาของประเทศไทย Mercedes-Benz E-Class ปี 2024 ประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมเทคโนโลยีใหม่ๆ ออกแบบภายนอกใหม่ รวมถึงติดตั้งหน้าจอ MBUX Superscreen และหน้าจอสำหรับผู้โดยสารที่เป็นอุปกรณ์เสริม

  • E-Class ใหม่ พร้อมจำหน่ายในยุโรปในฤดูร้อนปี 2023 โดยจะเป็นรุ่นปลั๊กอินไฮบริดใหม่

Mercedes-Benz E-Class ปี 2024 ภายใต้รหัสตัวถัง W214 เจนเนอเรชั่นที่หกใหม่ นำเสนอเกรดการตัดแต่ง E 350 และ E 450 พร้อมระบบส่งกำลัง 4MATIC AWD ทั้งคู่ใช้เกียร์อัตโนมัติ 9 สปีดรุ่นอัปเกรด

Mercedes E-Class ใหม่ภายนอกได้รับแรงบันดาลใจการออกแบบจากตระกูล EQ กระจังหน้าสีดำแบบ Mercedes class ‘Progressive’ โดยผสานการออกแบบระหว่างตระกูล C-Class และ S-Class กันชนหน้าออกแบบใหม่ มือจับประตูแบบซ่อน กระจกมองข้่างสีดำ

  • ไฟส่องสว่างรอบกระจังหน้า (อุปกรณ์เสริมพิเศษ)
  • ไฟหน้าแบบ DIGITAL LIGHT
  • ค่าสัมประสิทธิการลาก 0.23Cd.
  • ล้ออัลลอยขนาด 18 – 21 นิ้ว

ขนาดตัวถัง E-CLASS ใหม่

  • ยาว 4949 มม.
  • กว้าง 1880 มม.
  • สูง 1468 มม.
  • ระยะฐานล้อ 2961 มม.
  • ความจุสัมภาระมากถึง 540 ลิตร

สำหรับภายในห้องโดยสารของ 2024 Mercedes E-Class เจเนอเรชั่นใหม่ รถซีดานหรูชื่อรหัส W214 มาพร้อมหน้าจอ MBUX Superscreen ขนาดใหญ่ จับคู่กับพวงมาลัยสามก้านสไตล์ล่าสุด ระบบสาระบันเทิงจะมาพร้อมกับแอพอื่นๆ นอกเหนือจาก Zoom และ Webex Mercedes จะฝังแอปโซเชียล TikTok พร้อมกับเกม Angry Birds และ เว็บเบราว์เซอร์ Vivaldi และ ZYNC เข้าถึงการสตรีมวิดีโอ เกม ข่าว และเนื้อหาตามความต้องการเ

  • Mercedes-Benz ยังอัปเกรดและสร้างสรรค์ซอฟต์แวร์ ระบบปฏิบัติการ MB.OS รวมทั้ง MBUX Android
  • ระบบไฟ Active Ambient Lighting ซึ่งทำงานร่วมกับระบบเสียงเพื่อเปลี่ยนแสงไฟโดยอัตโนมัติตามจังหวะของเพลง
  • ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester 4D 15ช่อง 730วัตต์
  • ลำโพงสูงสุด 21 ตัว รวมถึงตัวแปลงสัญญาณเสียง
    • ลำโพงเสียงเบสด้านหน้าสองตัวในช่องวางเท้าด้านหน้า
    • ลำโพงเสียงกลางหนึ่งตัวต่อประตู
    • ทวีตเตอร์หนึ่งตัวที่ประตูหน้าแต่ละบานและอีกหนึ่งตัวที่ประตูหลังแต่ละบาน
    • ลำโพงเซอร์ราวด์สองตัวบนชั้นวางพัสดุ
    • ลำโพงเซ็นเตอร์ฟิลหนึ่งตัวตรงกลางแดชบอร์ด
    • ลำโพง 3D สองตัวที่แผงหลังคาด้านหน้า
    • ตัวกระตุ้นสองตัว (ตัวแปลงสัญญาณสัมผัส) ต่อที่นั่งในพนักพิงของเบาะหน้า
    • ลำโพงระดับหูสองตัวที่เบาะนั่งคนขับ
  • ระบบ Dolby Atmos – Spatial Audio
  • Mercedes-Benz ใช้ไมโครโฟนเกือบ 500 ตัวในระหว่างการพัฒนาแอโรอะคูสติก
  • Digital Vehicle Key พร้อมใช้งานแล้วสำหรับ iPhone และ Apple® Watch สามารถใช้กุญแจรถยนต์แบบดิจิทัลร่วมกันได้สูงสุด 16 คน
  • ระบบควบคุมสภาพอากาศอัตโนมัติ THERMOTRONIC (อุปกรณ์เสริมพิเศษ)
    • ระบบกรองสองขั้นตอนที่มีประสิทธิภาพพร้อม ENERGIZING AIR CONTROL (อุปกรณ์เสริม)
  • สำหรับผู้ที่เลือกแพ็คเกจเสริม MBUX Premium Plus จะมีหน้าจอสำหรับผู้โดยสาร เชื่อมต่อกับเซ็นเซอร์ในที่นั่งผู้โดยสารและเปิดใช้งานเฉพาะเมื่อมีคนนั่ง หน้าจอได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ผู้โดยสารมองเห็นได้เต็มที่ในขณะที่ปิดกั้นไม่ให้คนขับ มั่นใจได้ว่าจะไม่มีสิ่งรบกวนระหว่างการเดินทาง
  • ระบบปรับสมดุลภายในรถ ENERGIZING Comfort และ ENERGIZING Coach ที่ควบคุมกลิ่น รวมถึง การปรับองศาของเบาะนั่งให้สอดคล้องกับโหมดต่างๆที่สามารถเลือกได้
  • ส่วนประกอบ E-Class จำนวนมากทำจากวัสดุที่ประหยัดทรัพยากร (วัสดุรีไซเคิลและวัตถุดิบหมุนเวียน) เบาะนั่งทำจากขนอัลปาก้าที่ไม่ได้ย้อมสีรวมกับวัสดุรีไซเคิลใช้สำหรับเบาะนั่งพื้นฐานของ E-Class

ระบบช่วงล่าง

  • ระบบกันสะเทือนแบบถุงลม AIRMATIC รอบด้านพร้อมระบบลดแรงสั่นสะเทือน ADS+ ที่ปรับได้อย่างต่อเนื่องและการบังคับเลี้ยวที่เพลาหลัง
  • ระบบกันสะเทือน AIRMATIC พร้อมสปริงลมและแดมเปอร์ ADS+ แบบปรับได้ตอบสนองไวมาก
  • ระบบเลี้ยว 4 ล้อ Rear-Axle Steering การบังคับเลี้ยวที่เพลาล้อหลัง มุมบังคับเลี้ยวที่เพลาหลังคือ 4.5 องศา ซึ่งช่วยลดวงเลี้ยวได้ถึง 90 เซนติเมตร
  • รุ่น E-Class ที่มี 4MATIC วงเลี้ยวจะอยู่ที่ 11.1 เมตร จากเดิม 12.0 เมตร ในขณะที่รุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง วงเลี้ยวจะลดลงจาก 11.6 เป็น 10.8 เมตร

รุ่น E 200

  • เครื่องยนต์เบนซินเทอร๋โบ 4 สูบ 2.0 ลิตร 1,999 ซีซี.
  • ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า ที่ 5,800 รอบ/นาที
  • แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร ที่ 1,800 – 4,000 รอบ/นาที มอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็ก EQ Boost 23 แรงม้า แรงบิด 205 นิวตันเมตร
  • Mild Hybrid 48V
  • เกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9G-Tronic
  • ขับเคลื่อนล้อหลัง
  • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.5 วินาที
  • ความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม.

E 220 d DIESEL / 4MATIC

  • เครื่องยนต์ดีเซลเทอร๋โบ 4 สูบ 2.0 ลิตร 1,993 ซีซี.
  • กำลังสูงสุด 197 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที
  • แรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร ที่ 1,800 – 2,800 รอบ/นาที
  • มอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็ก EQ Boost 23 แรงม้า 205 นิวตันเมตร
  • Mild Hybrid 48V
  • เกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9G-Tronic
  • ขับเคลื่อนล้อหลัง
  • ขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC
  • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.6 – 7.8 วินาที
  • ความเร็วสูงสุด 234 – 238 กม./ชม.

E 300 e Plug-in Hybrid / 4MATIC

  • เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร 1,999 ซีซี.
  • กำลังสูงสุด 204 แรงม้า
  • แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร
  • มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 129 แรงม้า 440 นิวตันเมตร
  • ให้กำลังทั้งระบบสูงสุด 313 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร
  • เกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9G-Tronic
  • ขับเคลื่อนล้อหลัง
  • ขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC
  • แบตเตอรี่ความจุ 25.4 kWh
  • วิ่งด้วยไฟฟ้า 115 กิโลเมตร (มาตรฐาน WLTP)
  • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.4 – 6.5 วินาที
  • ความเร็วสูงสุด 234 – 236 กม./ชม.
  • รองรับการชาร์จไฟกระแสสลับ AC สูงสุด 11 kW
  • DC Fast Charging 55 kW เพียง 30 นาที

E 400 e Plug-in Hybrid 4MATIC

  • เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร 1,999 ซีซี.
  • กำลังสูงสุด 252 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร
  • มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 129 แรงม้า 440 นิวตันเมตร
  • มอเตอร์ไฟฟ้าทั้งระบบให้กำลังสูงสุด 381 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตร
  • เกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9G-Tronic
  • ขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC
  • แบตเตอรี่ความจุ 25.4 kWh
  • วิ่งด้วยไฟฟ้า 109 กิโลเมตร (มาตรฐาน WLTP)
  • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 5.3 วินาที
  • ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม.
  • รองรับการชาร์จไฟกระแสสลับ AC สูงสุด 11 kW
  • DC Fast Charging 55 kW เพียง 30 นาที

ระบบช่วยเหลือการขับขี่ต่างๆ เช่น ระบบช่วยเหลือการขับขี่[16]ประกอบด้วย Active Distance Assist DISTRONIC, ATTENTION ASSIST, Active Brake Assist, Active Lane Keeping Assist, Parking Package with Rearing Camera and Speed ​​Limit Assist

  • ระบบช่วยเหลือการขับขี่จะแสดงเป็นมุมมองแบบเต็มหน้าจอในโหมด Assistance ของจอแสดงผลสำหรับคนขับ
  • เมื่อทำงานร่วมกับกล้องแล้ว ATTENTION ASSIST ยังเสนอการเตือนในขณะผู้ขับขี่เสียสมาธิจอแสดงผลสำหรับคนขับแบบ 3 มิติ
  • หากสายตาของผู้ขับขี่ไม่ได้จดจ่ออยู่ที่ถนนเป็นเวลาหลายวินาที ATTENTION ASSIST สามารถตรวจจับสิ่งรบกวนและเตือนผู้ขับขี่ด้วยเสียง
  • หากผู้ขับขี่ยังคงไม่หันความสนใจไปที่สถานการณ์การจราจร จะมีการยกระดับด้วยการเตือนครั้งที่สองและเสียงเตือนอย่างต่อเนื่อง หากผู้ขับขี่ยังคงไม่ตอบสนองต่อคำเตือน ระบบสามารถเริ่มการหยุดฉุกเฉินได้โดยใช้ Active Emergency Stop Assist

ระบบช่วยจอดอัตโนมัติในอนาคต และ บางประเทศ

  • INTELLIGENT PARKING PILOT ทำให้ E-Class ได้รับการเตรียมพร้อมสำหรับบริการจอดรถอัตโนมัติ (SAE ระดับ 4) ด้วยแพ็คเกจการจอดรถพร้อมฟังก์ชั่นการจอดรถระยะไกล (อุปกรณ์เสริม) และบริการ Mercedes me connect
  • ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (ขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศ) E-Class ใหม่มีเทคโนโลยีออนบอร์ดเพื่อจอดและยกเลิกการจอดโดยอัตโนมัติโดยไม่ต้องมีคนขับ
  • ข้อกำหนดเบื้องต้นคือกฎหมายในประเทศอนุญาตให้ดำเนินการจอดรถอัตโนมัติได้ ที่จอดรถมีการติดตั้งโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น และบริการ Mercedes me connect ที่สอดคล้องกันสำหรับ E-Class พร้อมให้ใช้งานและจอง

Advertisement

Advertisement

 

 

 

Advertisement

Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้