ภาษีทรัมป์เขย่ารถโลก! อาจทำให้การผลิตรถทั่วโลกลดลง 1.55 ล้านคัน ดันราคารถ-สินค้า พุ่ง

ภาษีทรัมป์เขย่ารถโลก! อาจทำให้การผลิตรถทั่วโลกลดลง 1.55 ล้านคัน ดันราคารถ-สินค้า พุ่ง
Spread the love

Advertisement

Advertisement

สรุปข่าว: ผลกระทบจากมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าของทรัมป์ต่ออุตสาหกรรมรถยนต์

  • การผลิตรถทั่วโลกปี 2025 อาจลดลง 2% หรือราว 1.55 ล้านคัน จากผลกระทบของภาษีนำเข้าและปัญหาในสายการผลิต
  • อเมริกาเหนืออาจเจ็บหนัก การผลิตรถยนต์ในภูมิภาคอาจลดลงถึง 9% ขณะที่ยอดขายในสหรัฐฯ อาจลดลง 3%
  • รถนำเข้าเกือบครึ่ง ของรถที่ขายในสหรัฐฯ และอะไหล่ 30–60% ต้องนำเข้า จึงได้รับผลกระทบจากภาษีโดยตรง
  • Audi และ Jaguar Land Rover หยุดส่งออกรถไปสหรัฐฯ ชั่วคราว รอความชัดเจนด้านภาษี
  • บางค่ายเริ่มตั้งฐานผลิตในสหรัฐฯ เช่น Volvo, Honda, Mercedes-Benz และ Audi แม้ต้นทุนการผลิตในสหรัฐฯ จะสูงกว่า
  • ภาษีทรัมป์อาจเป็นดาบสองคม แม้กระตุ้นการผลิตในประเทศ แต่ก็กดดันราคาขายและต้นทุนผู้บริโภค

ทรัมป์เก็บภาษีนำเข้า ดันราคารถ-สินค้า พุ่งกระทบการผลิตทั้งอเมริกาเหนือ

นอกจากการเก็บภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะทำให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคและรถยนต์สูงขึ้นแล้ว ยังคาดว่าจะส่งผลให้ยอดการผลิตรถยนต์ทั่วโลกลดลงในปีนี้ โดยเฉพาะภูมิภาคอเมริกาเหนือที่อาจได้รับผลกระทบหนัก ยอดขายรถในสหรัฐฯ เองก็อาจลดลงด้วย

ตามการวิเคราะห์ของ S&P Global Mobility คาดว่าภายในสิ้นปี 2025 จะมีการผลิตรถยนต์ใหม่ทั้งหมด 87.9 ล้านคัน ลดลง 2% จากปีก่อน หรือเทียบเท่าการผลิตที่หายไปประมาณ 1.55 ล้านคัน ซึ่งจะถือเป็นปีที่สองติดต่อกันที่ยอดการผลิตทั่วโลกลดลง หลังปีที่แล้วได้รับผลกระทบจากการหยุดสายการผลิตของหลายแบรนด์ในญี่ปุ่น

ตลาดรถยนต์สหรัฐฯ เจ็บหนัก

ข้อมูลจาก Nikkei Asia ระบุว่า รถยนต์ใหม่เกือบ 50% ที่ขายในสหรัฐฯ นั้นผลิตในต่างประเทศ และอีก 30-60% ของชิ้นส่วนก็ต้องนำเข้าเช่นกัน ทำให้การขึ้นภาษีนำเข้าอาจฉุดยอดการผลิตในอเมริกาเหนือลดลงถึง 9% ตลอดปี 2025 ขณะที่ยอดขายในสหรัฐฯ เองอาจลดลง 3%

ผลกระทบอาจลากยาว

ผู้ผลิตรถยนต์หลายราย เช่น Audi และ Jaguar Land Rover หยุดส่งออกรถมาสหรัฐฯ แล้ว และจะขายรถจากสต็อกที่มีอยู่ไปก่อน พร้อมจับตาว่าทรัมป์จะผ่อนปรนภาษีนำเข้าสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์หรือไม่ในอนาคตอันใกล้

บางค่ายเริ่มขยับตามแนวทางของทรัมป์

Volvo ประกาศเมื่อสัปดาห์ก่อนว่าจะเริ่มผลิตรถรุ่นที่สองในสหรัฐฯ โดยอาจเป็น XC60 หรือ XC90 ทั้งในเวอร์ชัน mild-hybrid และ plug-in hybrid ขณะที่ Honda จะย้ายฐานการผลิต Civic Hybrid มาผลิตในประเทศ ส่วน Mercedes-Benz ก็เตรียมเพิ่มกำลังผลิตในสหรัฐฯ ด้วย แต่กระบวนการนี้อาจใช้เวลาหลายปี

ด้าน CEO ของ VW Group คุณ Oliver Blume เผยว่า Audi กำลังเจรจากับรัฐบาลทรัมป์เรื่องการตั้งโรงงานในสหรัฐฯ แม้ปัจจุบัน VW จะมีโรงงานในอเมริกาอยู่แล้ว แต่รถ Audi ที่ขายในสหรัฐฯ ยังเป็นรถนำเข้าทั้งหมด อย่างไรก็ตาม รถที่ผลิตในสหรัฐฯ อาจมีต้นทุนสูงกว่ารถนำเข้า เนื่องจากต้นทุนแรงงานที่สูงกว่า

Carscoop

Advertisement

Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้