คาดเปิดตัวไทยปี 2569 : NEW MG 4 EV ใหม่ 437 – 530 กม./ชาร์จ CLTC

คาดเปิดตัวไทยปี 2569 : NEW MG 4 EV ใหม่ 437 – 530 กม./ชาร์จ CLTC
Spread the love
Advertisement Advertisement

  

MG ตั้งเป้าส่วนแบ่งตลาด 5% ในปี 2568 พร้อมขยับขึ้นสู่ Top 5 ยานยนต์ไทย

นาย ซู๋ว์ หยิ่น กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด และรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2568 ว่า MG ตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดเป็น 5% พร้อมมุ่งสู่การเป็น Top 5 ผู้จำหน่ายรถยนต์ในไทย ภายในทศวรรษที่ 2 ของการดำเนินธุรกิจในประเทศ

เปิดตัวรถใหม่ปี 2568  MG IM 6 และ MG S5 EV

MG ยืนยันว่าในปี 2568 จะเปิดตัวรถใหม่จำนวน 2 รุ่น ได้แก่

  • MG IM 6 – รถยนต์รุ่นใหม่ในกลุ่ม SUV/MPV (ตลาดกำลังจับตา)
  • MG S5 EV – รถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบรุ่นใหม่

ถือเป็นหมากสำคัญในการขยายตลาด EV และสร้างภาพลักษณ์ “แบรนด์รุ่นใหม่ เน้นความคุ้มค่า แต่มีเทคโนโลยีล้ำสมัย”

แผนปี 2569  Global EV SUV/MPV ไม่น้อยกว่า 500 กม./ชาร์จ และ Hybrid รุ่นใหม่

ปี 2569 MG เตรียมเปิดตัวรถอีก 2 รุ่นใหญ่ระดับ Global Model คือ

  • EV SUV และ EV MPV ใหม่ ระยะทางวิ่งมากกว่า 500 กม./ชาร์จ คาดว่าคือ NEW MG4 ใหม่
  • New Global Hybrid Model สำหรับตลาดที่ต้องการความยืดหยุ่นด้านพลังงาน

การมีทั้ง EV, EREV, และ Hybrid จะทำให้ MG ครอบคลุมตลาดรถพลังงานทางเลือกทุกเซกเมนต์

LIFETIME WARRANTY กลยุทธ์สร้างความมั่นใจลูกค้าไทย

หนึ่งในจุดแข็งสำคัญของ MG คือการให้ LIFETIME WARRANTY สำหรับ

  • แบตเตอรี่
  • มอเตอร์ขับเคลื่อน
  • ชุดควบคุมมอเตอร์ (Motor Control Unit)

ครอบคลุม “ตลอดอายุการใช้งานรถ” ซึ่งเป็นข้อเสนอที่คู่แข่งทำได้ยาก และช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นผู้บริโภคอย่างมาก

Advertisement Advertisement

E-Workshop และอะไหล่ 99%  พัฒนางานบริการหลังการขาย

MG ผลักดันการให้บริการรูปแบบดิจิทัลผ่าน E-Workshop ที่ลูกค้าสามารถเช็กสถานะการซ่อมแบบเรียลไทม์ พร้อมเสริมด้วยระบบจัดหาอะไหล่ได้มากถึง 99% ลดเวลารอซ่อม และมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง

เป้าขายปี 2568  20,000 คัน หรือ 5% ของตลาด

นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ MG เผยว่า ปี 2568 ตั้งเป้ายอดขายทั้งปีอยู่ที่ 20,000 คัน จากคาดการณ์ตลาดรวมไทย 550,000–600,000 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดประมาณ 5%

ปีที่ผ่านมา MG ทำยอดขายรวมประมาณ 17,000 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 3%

ตลาดรถไทยเริ่มฟื้น ปัญหาสินเชื่อเริ่มคลี่คลาย

MG ประเมินว่าแนวโน้มตลาดรถยนต์ไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 4/2567 และปี 2568 จะดีขึ้นจากปัจจัย

  • การปล่อยสินเชื่อดีขึ้น
  • หนี้เสียชะลอตัว
  • ความต้องการรถใหม่ทยอยกลับมา

สัดส่วนรถ EV ปี 2568 คาดมากกว่า 10% ต่อเนื่อง

แม้ตัวเลขไตรมาสแรกอาจ “ไม่หวือหวา” แต่ MG เชื่อว่าการเปิดตัวรถ EV ใหม่และภาวะการแข่งขันที่เริ่มนิ่งขึ้น จะช่วยให้ตลาด EV ปี 2568 ยังเติบโตต่อเนื่อง และมีสัดส่วนมากกว่า 10% ของตลาดรวม

มุมมองต่อเทคโนโลยี EREV – ต้องดูการตีความกฎหมายไทย

กระแส EREV (Extended Range EV) กำลังแรงในไทย แต่ MG มองว่าอนาคตยังขึ้นอยู่กับประเด็นสำคัญ ได้แก่

  • จะถูกจัดเป็นรถประเภทใดในประเทศไทย (EV? Hybrid? หรือ Plug-in?)
  • อัตราภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิต
  • พฤติกรรมผู้ใช้รถไทยแตกต่างจากจีน

MG เชื่อว่ากฎหมายไทยบางข้อยัง “ไม่เอื้อ” ต่อเทคโนโลยีนี้เท่ารถ EV 100% และต้องประเมินความเหมาะสมของพฤติกรรมใช้งานในไทยอีกครั้ง

สรุปภาพรวม  MG เร่งยุทธศาสตร์รถใหม่ บริการ และ EV เพื่อตีตลาดเพิ่ม

ปี 2568–2569 ถือเป็นช่วงที่ MG เดินเกมรุกเต็มที่ ทั้งในด้านผลิตภัณฑ์, การบริการ และความคุ้มค่าที่เหนือมาตรฐานอุตสาหกรรมไทย โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการขึ้นสู่ Top 5 ของตลาดรถยนต์ไทยให้ได้ภายในไม่กี่ปีข้างหน้า


MG4 ใหม่ล่าสุดเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา มีให้เลือก 5 รุ่น ราคาตั้งแต่ 65,800 ถึง 99,800 หยวน  หรือประมาณ 299,000 – 453,000 บาท เปิดให้สั่งจองล่วงหน้าเวลา 19.00 น . ในประเทศจีน  พัฒนาใหม่บนแพลตฟอร์ม SAIC E3 สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ดีไซน์ภายนอกมาในแนวใหม่ตามสไตล์ MG ยุคล่าสุด พร้อมเทคโนโลยีเชื่อมต่อ MG×OPPO และระยะทางวิ่งสูงสุดถึง 530 กม.

SAIC Motor ได้เผยโฉม MG4 แฮทช์แบ็กไฟฟ้าเวอร์ชันใหม่สำหรับตลาดจีน โดดเด่นด้วยสีภายนอกใหม่ที่เรียกว่า “Donglai Purple” (东来紫)  “ตงไหล” มีความหมายว่า “มาจากทิศตะวันออก” SAIC ระบุว่าสีนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อสะท้อนประกายเมทัลลิกในแสงแดด และให้ความรู้สึกเหมือนมุกหมอกจางๆ เมื่อมองจากมุมที่ต่างกัน

MG4 ใหม่ล่าสุดสืบทอดปรัชญาการออกแบบของ MG Cyberster และรูปทรงสปอร์ตของตระกูล MG ด้านหน้าใช้กระจังหน้าแบบปิด และยังคงใช้การออกแบบไฟหน้าแยกส่วนของ MG Cyberster ไฟหน้าสีดำรมควันมีรูปทรงเรียวยาว มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูง นอกจากนี้ การเพิ่มช่องรับอากาศแบบแบ่งส่วนด้านล่างของรถ และช่องระบายอากาศทั้งสองด้าน ยังช่วยเพิ่มความสปอร์ต รายละเอียดที่น่าสนใจคือ โลโก้แบรนด์ “MG” สามารถเปล่งแสงได้ ซึ่งช่วยเสริมคุณภาพโดยรวมของรถ

จากด้านข้าง จะเห็นได้ว่า MG4 ใหม่ล่าสุดมีการออกแบบที่ต่ำและกว้างขวาง รวมถึงการออกแบบฐานล้อยาวและโอเวอร์แฮงก์หน้า-หลังสั้น นอกจากสีม่วง Donglai และสีเขียว Qingbo ที่เปิดตัวในครั้งนี้แล้ว ในอนาคต รถยนต์รุ่นใหม่ยังจะมาพร้อมกับสีตัวถังที่หลากหลาย เช่น สีขาว Moon White, สีน้ำเงิน Island Blue, สีแดง Coral Red และสีเทา Starry Grey

ส่วนท้ายของรถโดยรวมให้ความรู้สึกหนักแน่น ใช้ไฟท้ายแบบเชื่อมต่อกันตลอดแนว โดยมีรูปทรงไฟท้ายคล้ายลูกศรที่ยังคงดูโดดเด่นเป็นพิเศษ ไม่เพียงเท่านั้น รถยนต์รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับสปอยเลอร์รูปทรงไม่สม่ำเสมอ ซึ่งรวมไฟเบรกสูงไว้ด้วย

ขนาดตัวถัง NEW MG4 EV

  • ความยาว: 4,395 มม.
  • ความกว้าง: 1,842 มม.
  • ความสูง: 1,551 มม.
  • ระยะฐานล้อ: 2,750 มม.
  • ล้อ: ขนาด 16 หรือ 17 นิ้ว แล้วแต่รุ่น

ขนาดตัวถัง MG 4 EV ปัจจุบัน

  • ความยาว: 4,287 มม.
  • ความกว้าง: 1,836 มม.
  • ความสูง: 1,504 มม.
  • ระยะฐานล้อ: 2,705 มม.

ภายในห้องโดยสาร

  • สีภายใน: ชมพูม่วง (蔷薇紫) / น้ำเงินเข้ม (黛山蓝)

  • พวงมาลัยแบบ 2 ก้าน พร้อมหน้าจอมาตรวัดขนาดเล็ก

  • หน้าจอกลางแบบลอยตัว ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย:

    • 10.25 นิ้ว (ความละเอียด 720p)

    • 12.8 นิ้ว (1080p)

    • 15.6 นิ้ว (2.5K)

ระบบอินโฟเทนเมนต์

  • ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8155

  • ระบบ MG×OPPO เชื่อมต่อมือถือและรถแบบสมบูรณ์: ใช้มือถือสั่งการ, เข้าถึงแอป, เขย่ามือถือนำทาง, AI อัจฉริยะ

ฟีเจอร์เสริม

  • ชาร์จไร้สาย 50W (ระบบระบายความร้อน)

  • ระบบเสียง 6 ลำโพง

  • หลังคากระจก Panoramic

  • พวงมาลัยและเบาะหน้ามีระบบทำความร้อน+ระบายอากาศ

  • เบาะหลังมีช่องแอร์แยก พร้อมพนักพิงปรับองศาได้ 27 องศา

ระบบช่วยขับ (เฉพาะรุ่นท็อป)

  • ชิปขับเคลื่อน Horizon J6e

  • เซนเซอร์: เรดาร์อัลตราโซนิก 12 ตัว + กล้อง 360° 4 ตัว + กล้องหน้า 8MP + กล้องหลัง

  • ฟีเจอร์: ระบบขับขี่อัตโนมัติบนทางด่วน (NOA), เปลี่ยนเลนเอง, จอดอัจฉริยะ, เลี้ยวอัตโนมัติ

ระบบขับเคลื่อนและแบตเตอรี่

  • มอเตอร์ 6-in-1 ให้กำลังสูงสุด 120 kW (163 แรงม้า), แรงบิด 250 นิวตันเมตร

  • ความเร็วสูงสุด: 160 กม./ชม.

  • แบตเตอรี่ LFP (LiFePO₄) ขนาด 42.8kWh และ 53.9kWh

  • ระยะทาง (CLTC):

    • 437 กม. สำหรับแบต 42.8kWh

    • 530 กม. สำหรับแบต 53.9kWh

  • จะมีรุ่นแบตเตอรี่กึ่งโซลิดสเตตในอนาคต ช่วยเพิ่มระยะทางในหน้าหนาวและอายุการใช้งาน

 

Autohome

Advertisement Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้