เปิดตัว NEW TOYOTA C-HR+ ไฟฟ้าใหม่ รับประกันแบต 10 ปี หรือ 1 ล้านกม. พร้อมประกัน 10 ปีความจุไม่ต่ำ 70%

Toyota C-HR+ ไฟฟ้าเต็มรูปแบบรุ่นใหม่ — SUV สุดล้ำที่รวมความสนุก ความหรู และความประหยัดไว้ในคันเดียว
เผยโฉมครั้งแรกในสหราชอาณาจักร ตุลาคม 2025 Toyota เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ “C-HR+” อย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จของ C-HR รุ่นยอดนิยมที่มียอดขายทะลุกว่า 1 ล้านคันทั่วยุโรป ครั้งนี้ Toyota เดินหน้าสู่ยุคไฟฟ้าเต็มตัวด้วยการเปิดตัว C-HR+ ซึ่งพัฒนาใหม่ทั้งหมดบน แพลตฟอร์ม e-TNGA ที่ออกแบบมาสำหรับรถ BEV โดยเฉพาะ พร้อมชูแนวคิด “Battery Electric for Car Lovers” หรือ “รถไฟฟ้าที่สร้างมาเพื่อคนรักการขับจริง ๆ”
จุดยืนใหม่ในยุทธศาสตร์พลังงานของ Toyota
C-HR+ เข้าประจำการเป็นหนึ่งในเสาหลักของ “กลยุทธ์หลายทางเลือก (Multi-Pathway Strategy)” ของ Toyota ร่วมกับรุ่น Urban Cruiser และ bZ4X
Toyota ยังคงเน้นความหลากหลายของระบบขับเคลื่อน ทั้ง Hybrid, Plug-in Hybrid, BEV และ Hydrogen Fuel Cell เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย Carbon Neutrality ภายในปี 2040
C-HR+ จึงไม่ได้เป็นเพียงรถไฟฟ้าอีกคัน แต่คือ “ทางเลือกใหม่” สำหรับคนที่ต้องการความสปอร์ต ความสวย และความสมบูรณ์แบบในชีวิตประจำวัน โดยไม่ต้องแลกกับความสนุกในการขับขี่
ขุมพลังไฟฟ้า 2 ระดับ ตอบโจทย์ทุกสไตล์การใช้งาน
Toyota วางขุมพลังไว้ 2 ขนาด เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้ตั้งแต่ในเมืองจนถึงนักเดินทางไกล
รุ่นมาตรฐาน – แบตเตอรี่ 57.7 kWh
- กำลังสูงสุด 165 bhp (123 kW)
- แรงบิดสูงสุด 268.6 Nm
- ระยะทางขับสูงสุด (WLTP) 283 ไมล์ หรือราว 455 กม.
รุ่นพลังสูง – แบตเตอรี่ 77 kWh
- กำลังสูงสุด 221 bhp (165 kW)
- แรงบิดสูงสุดเท่ากันที่ 268.6 Nm
- ระยะทางขับสูงสุด 378 ไมล์ หรือราว 608 กม.
ทั้งสองรุ่นใช้ แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน (Li-ion) รุ่นใหม่ที่สามารถชาร์จเร็ว DC จาก 10 ถึง 80 % ได้ใน 30 นาที แม้ในอุณหภูมิต่ำ –10 °C โดยระบบ Battery Pre-conditioning จะปรับอุณหภูมิแบตให้เหมาะสมก่อนชาร์จ เพื่อให้การจ่ายไฟรวดเร็วและสม่ำเสมอ
ผู้ใช้สามารถตั้งค่าได้ 3 แบบ
-
เปิดเองผ่านจอ Multimedia
-
ตั้งเวลาล่วงหน้า
-
ให้ระบบทำงานอัตโนมัติเมื่อปักหมุดสถานีชาร์จใน Navigation
และเพื่อความสะดวกในการชาร์จบ้าน Toyota ติดตั้ง AC Onboard Charger ขนาด 11 kW มาให้ทุกรุ่น (รุ่นสูงสุด 22 kW ซึ่งลดเวลาชาร์จลงครึ่งหนึ่ง)
ขับสนุกแบบ “Toyota DNA”
Toyota ยืนยันว่า C-HR+ ไม่ใช่รถไฟฟ้าแค่ “ขับง่าย” แต่เป็น รถที่ขับสนุกจริง เพราะสร้างบนแพลตฟอร์ม e-TNGA ซึ่งพัฒนามาเฉพาะรถ BEV
-
แบตเตอรี่ติดตั้งใต้พื้นรถ ช่วยลดจุดศูนย์ถ่วงลง 65 มม. และเพิ่มความแข็งแรงตัวถังขึ้น 30 %
-
ช่วงล่างจูนใหม่เฉพาะรุ่น บาลานซ์ระหว่างความนุ่มนวลกับความแม่นยำ
-
Regenerative Braking ปรับได้ 4 ระดับ ผ่านแป้น Paddle Shift หลังพวงมาลัย
-
เมื่อถอนคันเร่ง รถจะหน่วงตัวด้วยแรง 0.15 G โดยไม่ต้องเหยียบเบรก
-
ระบบพวงมาลัยไฟฟ้าปรับน้ำหนักอัตโนมัติ เบาในเมือง หนักแน่นบนทางเร็ว
หัวใจขับเคลื่อนคือชุด eAxle ใหม่ล่าสุด รวมมอเตอร์ อินเวอร์เตอร์ และเกียร์เข้าไว้ด้วยกัน ใช้ SiC Semiconductor ช่วยลดการสูญเสียพลังงาน ให้แรงบิดแน่นและเสียงเงียบกว่าเดิม
ออกแบบเพื่อความประหยัดทุกมุม
C-HR+ มาพร้อมค่า Drag Coefficient เพียง 0.26 ถือว่าดีที่สุดในกลุ่ม C-SUV รายละเอียดทางอากาศพลศาสตร์ถูกใส่ใจตั้งแต่หัวจรดท้าย:
-
หน้าแบบ Grille-less ลดแรงต้านลม
-
ช่องลมข้างล้อหน้า ลดแรงหมุนวน
-
มือจับประตูหลังซ่อนในเสา C-Pillar
-
ล้อดีไซน์ Aero ลู่ลม
-
สปอยเลอร์คู่ และครีบ Diffuser หลังช่วยจัดระเบียบการไหลของอากาศ
ระบบปรับอากาศใช้ Heat Pump ประสิทธิภาพสูง ลดการใช้พลังงานจากแบต และยังมี เบาะ–พวงมาลัยฮีตเตอร์ ที่กินไฟน้อยกว่า A/C หลายเท่า แต่ให้ความอุ่นสบายในฤดูหนาว
ดีไซน์ภายนอก — Coupe-SUV ที่ดูเร็วตั้งแต่จอดนิ่ง
Toyota ตั้งใจให้ C-HR+ เป็น “รถที่เห็นแล้วรู้สึกอยากขับ”
-
หน้ารถใช้แนวคิด Hammerhead Design เหมือน Prius และ bZ4X
-
เส้นสายเฉียบคม ดูแข็งแรงและล้ำสมัย
-
หลังคาทรงโค้งแบบคูเป้ แต่ยังคงพื้นที่ศีรษะผู้โดยสารหลัง
-
ไฟท้าย LED เต็มแนวกว้าง พร้อมกันชนหลังเตี้ย เพิ่มภาพลักษณ์สปอร์ต
สีตัวถังมีให้เลือกทั้งแบบ Monotone และ Bi-tone (หลังคาดำ) ล้อขนาด 18–20 นิ้ว เสริมบุคลิกทั้งสปอร์ตและหรูอย่างลงตัว
ภายในกว้างเกินคาด — เทียบชั้น SUV ขนาดกลาง
ห้องโดยสารของ C-HR+ เน้นความโปร่งโล่งและเทคโนโลยีล้ำยุค
-
ฐานล้อยาว 2,750 มม. เพิ่มพื้นที่วางขา Rear Couple ถึง 900 มม.
-
พื้นที่เก็บสัมภาระ 416 ลิตร พร้อม Deck สองชั้น และฝาท้ายไฟฟ้า
-
จอผู้ขับแบบดิจิทัล 7 นิ้ว + จอมัลติมีเดียกลาง 14 นิ้ว
-
แสงไฟในห้องโดยสาร Ambient 64 สี ช่วยเพิ่มความหรูหราและอารมณ์ขณะขับ
-
รุ่นสูงสุดมี กระจกหน้าฮีตเตอร์ + เบาะคนขับไฟฟ้าพร้อมหน่วยความจำ
-
ที่ชาร์จ USB-C คู่หลัง กำลังรวม 60 W สามารถชาร์จโน้ตบุ๊กได้
วัสดุหุ้มเบาะทั้งหมดทำจาก Recycled PET ทั้งแบบหนังเทียม Suede และผ้า ส่วนระบบเสียง JBL Premium Audio 9 ลำโพง แอมป์ 800 W ซับวูฟเฟอร์ 9 นิ้ว ให้มิติเสียงรอบทิศทาง
เทคโนโลยีความปลอดภัย & การเชื่อมต่อ
C-HR+ มากับชุดระบบ Toyota Safety Sense รุ่นล่าสุดครบทุกฟังก์ชัน
-
Safe Exit Assist ไฟเตือนสีแดงที่มือเปิดประตูหากมีรถวิ่งมา
Advertisement Advertisement -
Blind Spot Monitor, Adaptive High-Beam, Parking Support Brake
-
รุ่นสูงมี Lane Change Assist, Front Cross Traffic Alert, Park Assist, Panoramic View Monitor
ด้านความสะดวกสบาย
-
หน้าจอ 14 นิ้ว รองรับ Wireless Apple CarPlay / Android Auto
-
ผู้ช่วยเสียง “Hey Toyota” สั่งงานได้ด้วยภาษาธรรมชาติ
-
ระบบนำทาง Destination Assist มีข้อมูลการจราจร Real-Time
MyToyota App — เชื่อมโลกดิจิทัลกับรถไฟฟ้า
แอป MyToyota กลายเป็นศูนย์กลางการจัดการ BEV เต็มรูปแบบ:
-
ตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่แบบ Realtime
-
สั่งเปิด/ปิดแอร์ ล่วงหน้าก่อนขึ้นรถ
-
จัดตารางชาร์จ Smart Charging เลือกช่วงไฟฟ้าราคาถูก
-
เชื่อมต่อกับ Toyota HomeCharge และเครือข่ายชาร์จ Toyota Charging Network ทั่ว EU
-
ฟีเจอร์ BEV Coaching ช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมขับ และแนะนำการเพิ่มระยะทาง
รับประกันแบตเตอรี่ 10 ปีเต็ม
Toyota ให้ความมั่นใจสูงสุดแก่เจ้าของ C-HR+ ด้วยโปรแกรม Battery Care Program
-
รับประกัน 10 ปี หรือ 1,000,000 กม.
-
ต้องเข้าตรวจสุขภาพแบต (EV Health Check) ทุกปี
-
รับประกันความจุไม่ต่ำกว่า 70 % ภายใน 10 ปี
สเปกทางเทคนิค (เบื้องต้นก่อนรับรองมาตรฐาน)
รายการ | รุ่น 57.7 kWh | รุ่น 77 kWh |
---|---|---|
ระบบขับเคลื่อน | มอเตอร์แม่เหล็กถาวร FWD | FWD |
กำลังสูงสุด | 165 bhp (123 kW) | 221 bhp (165 kW) |
แรงบิดสูงสุด | 268.6 Nm | 268.6 Nm |
0–100 กม./ชม. | 8.4 วินาที | 7.3 วินาที |
ความเร็วสูงสุด | 140 กม./ชม. | 160 กม./ชม. |
ระยะทาง (WLTP) | 283 ไมล์ (455 กม.) | 378 ไมล์ (608 กม.) |
ความยาว × กว้าง × สูง | 4,520 × 1,870 × 1,595 มม. | – |
ระยะฐานล้อ | 2,750 มม. | – |
ระยะต่ำสุดใต้ท้อง | 185 มม. | – |
น้ำหนักตัว | 1,810–1,845 กก. | 1,885–1,985 กก. |
ความจุสัมภาระ | 416 ลิตร | – |
สรุป — Toyota C-HR+ คือ “จุดเปลี่ยนสำคัญของ Toyota ในยุโรป”
C-HR+ ไม่ใช่เพียง C-HR ที่เปลี่ยนมาใช้ไฟฟ้า แต่มันคือ การรีเซ็ตรูปแบบของ SUV ยุคใหม่
Toyota แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงในการสร้าง BEV ที่มีอารมณ์การขับขี่แบบรถจริง ๆ ไม่ใช่เพียงเครื่องใช้ไฟฟ้าบนล้อ
การผสมผสานระหว่างดีไซน์ Coupe-SUV, เทคโนโลยีชาร์จเร็ว, การขับขี่สนุก, วัสดุรักษ์โลก และการรับประกันแบต 10 ปีเต็ม ทำให้ C-HR+ กลายเป็นหนึ่งใน SUV ไฟฟ้าที่น่าจับตาที่สุดของยุโรปในปี 2025