Advertisement

Advertisement

SAIC Motor เตรียมเปิดตัว Robotaxis ระดับ L4

SAIC Motor เตรียมเปิดตัว Robotaxis  ระดับ L4

Advertisement

Advertisement

SAIC Motor กล่าวว่า เตรียมเปิดตัว Robotaxis ด้วยความสามารถในการขับขี่อัตโนมัติระดับ L4 จำนวน 40-60 คัน ทั่วเซี่ยงไฮ้ และ ซูโจวก่อนสิ้นปี 2564 Zu Sijie รองประธานและหัวหน้าวิศวกรของบริษัทกล่าว

SAIC Motor Corporation Ltd. เป็นบริษัทยานยนต์ของจีน เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในประเทศจีน ตั้งอยู๋ในเซี่ยงไฮ้ SAIC ซึ่งเป็นเจ้าของ MG และร่วมทุนกับ Volkswagen และ GM

เห็นได้ชัดว่า SAIC กำลังขยายธุรกิจที่หลากหลายโดยเฉพาะระบบขับขี่อัตโนมัติในรูปแบบการขนส่ง จึงทำให้เกิดการเปิดตัว Robotaxis โดยร่วมมือกับ บริษัทสตาร์ทอัพจากจีนและบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อย่าง Baidu และ Apollo Robotaxi

ในระหว่างการประชุม AI ครั้งล่าสุดที่จัดขึ้นในเซี่ยงไฮ้ รองประธานของ SAIC กล่าวว่าบริษัทมีแผนที่จะทำการวิจัยเกี่ยวกับการขับขี่อัจฉริยะ “vision + LiDAR” ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เพื่อให้เกิดการใช้งานจริงๆอย่างเร็วที่สุด

จนถึงขณะนี้ SAIC Motor ยังไม่ได้เปิดเผยแผนการออกแบบสำหรับ Robotaxis L4 ซึ่งต้องมารอดูกันอีกทีช่วงปลายปีนี้

Autopilot มี 5 ระดับ ได้แก่

  • ระดับ 1 จะมีระบบอัตโนมัติ ช่วยเหลือผู้ขับขี่ เช่น การบังคับเลี้ยวหรือการเร่งและรักษาคุมความเร็วคงที่ รวมทั้งระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบปรับความเร็วอัตโนมัติ ซึ่งสามารถควบคุมยานพาหนะไว้ในระยะที่ปลอดภัยต่ออุบัตเหตุ ซึ่งคุณสมบัติ Level 1 ยังต้องการวิจารณญาณของมนุษย์คนขับ ตรวจสอบการใช้ฟังก์ชั่นช่วยขับขี่ร่วมด้วย
  • ระดับ 2 จะมีระบบ ADAS หรือ Advanced Driver Assistance Systems ซึ่งเป็นระบบบังคับเลี้ยวอัตโนมัติคู่กับระบบความคุมอัตรเร่งและปรับความเร็วให้ทำงานประสานกันผ่านกลไกการควบคุมที่ซับซ้อน… ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ทุกค่ายล้วนใส่เงินไปกับการวิจัยระบบ ADAS ต่อเนื่องมานาน ซึ่งระบบ ADAS ที่มีชื่อเสียงและสอบผ่านมาตรฐาน Level 2 รุ่นแรกๆ จนได้ทดสอบ
  • ระดับ 3 จะมีความสามารถในการตรวจจับสภาพแวดล้อม และสามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดเช่น การเร่งแซงรถที่ช้า แต่ระบบก็ยังต้องการความช่วยเหลือจากมนุษย์ แม้มนุษย์ไม่ต้องเหยียบคันเร่งถือพวงมาลัย… แต่ผู้ขับขี่จะต้องตื่นตัวและพร้อมที่จะเข้าควบคุมทันทีหากระบบผิดพลาด ซึ่งส่วนใหญ่ระบบจะออกแบบให้ตรวจสอบเงื่อนไขการทำงานอัตโนมัติตลอดเวลา และหาก Condition หรือเงื่อนไขการทำงานในระบบผิดพลาด… รถจะมีฟังก์ชั่นขอความช่วยเหลือจากมนุษย์ติดมาด้วย
  • ระดับ 4 ไม่ต้องมีมนุษย์คอยช่วยเหลือในยามเข้าตาจนเหมือน Level 3 อีกเลย แม้จะมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นทั้งในระบบและสภาพแวดล้อมภายนอก หรือแม้แต่เกิดขัดข้องขึ้น พาหนะ Level 4 ก็จะจัดการความผิดปกติและบกพร่องทั้งหลายได้เอง โดยพึ่งพาและปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ในฐานะผู้โดยสาร มากกว่าจะพึ่งพามนุษย์ในฐานะผู้ควบคุมปกป้องความผิดพลาด พาหนะ Level 4 สามารถทำงานในโหมดขับขี่ด้วยตนเอง หรือ Self-Driving Mode ได้อย่างสมบูรณ์
  • ระดับ 5 ไม่ต้องการความช่วยเหลือใดๆ จากมนุษย์อีก เพราะระบบจะทำงาน Dynamic Driving Task เต็มประสิทธิภาพ เทียบเท่าระดับเดียวกับหรือดีกว่ามนุษย์ที่มีทักษะการขับรถยอดเยี่ยมที่สุด… พาหนะ Level 5 จึงไม่มีแม้แต่พวงมาลัย แป้นเหยียบคันเร่งและแป้นเบรก ทำให้พาหนะ Level 5 เป็น Fully Autonomous Cars ซึ่งเป็นเป้าหมายความสำเร็จของการพัฒนายานพาหนะบนผิวพื้นยุคต่อไป… ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่า กฏหมายและโครงสร้างพื้นฐานของ Smart City

Electrek.co

Advertisement

Advertisement

ใส่ความเห็น

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้