ปล่อยภาพ TOYOTA Crown Fuel Cell Taxi แท็กซี่ไฮโดรเจนระดับพรีเมียม
โตโยต้าเข้าร่วมโครงการ “TOKYO H2” ผลักดันกรุงโตเกียวสู่เมืองหลวงไฮโดรเจนโลก
โตเกียว, ญี่ปุ่น — 3 กันยายน 2025
โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น (Toyota) ประกาศเข้าร่วม “TOKYO H2” โครงการสำคัญที่ริเริ่มโดยรัฐบาลกรุงโตเกียว เพื่อผลักดันการใช้พลังงานไฮโดรเจนอย่างเป็นรูปธรรม โดยหนึ่งในไฮไลต์คือการนำ Toyota Crown รุ่นฟิวเซลล์ (FCEV) เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ ฟลีทแท็กซี่ฟิวเซลล์ ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญในการขยายการใช้งานพลังงานสะอาดในชีวิตประจำวันของผู้คน
Crown Fuel Cell Taxi : แท็กซี่ไฮโดรเจนระดับพรีเมียม
Toyota Crown FCEV ถูกเลือกเข้ามาในโครงการแท็กซี่เพราะตอบโจทย์การเดินทางในเมืองได้อย่างเหนือชั้น ด้วยความเงียบสงบที่เป็นเอกลักษณ์ของรถฟิวเซลล์ ห้องโดยสารกว้างขวาง นั่งสบาย เข้า–ออกสะดวก ทำให้ Crown เป็นยานพาหนะที่มอบประสบการณ์ระดับพรีเมียม แตกต่างจากแท็กซี่ทั่วไป
รัฐบาลกรุงโตเกียวตั้งเป้าหมายที่จะมีแท็กซี่ฟิวเซลล์ 600 คันภายในปีงบประมาณ 2030 ซึ่งโตโยต้าประกาศสนับสนุนโดยตั้งเป้านำเข้ามาแล้ว 200 คันภายในปีงบประมาณ 2025
การปรับโฉม “TOYOTA MIRAI Showroom” เป็น TOKYO H2 HUB
เพื่อรองรับการเปิดตัวโครงการ โตโยต้าได้ปรับปรุง TOYOTA MIRAI Showroom ในเขตมินาโตะ โตเกียว ให้กลายเป็น TOKYO H2 HUB ศูนย์กลางความรู้และการประชุมร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจและองค์กรต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาไฮโดรเจน
โชว์รูมแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2015 เพื่อเป็นศูนย์ข้อมูลรถฟิวเซลล์ และครั้งนี้ถูกยกระดับให้เป็น ฮับสำคัญของสังคมไฮโดรเจน ที่ทุกฝ่ายสามารถเข้ามามีส่วนร่วมได้
เป้าหมายใหญ่ของ “TOKYO H2”
โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อเร่งความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการผลักดันการใช้ไฮโดรเจน โดยเริ่มจาก การขนส่งเชิงพาณิชย์ เช่น แท็กซี่และรถบรรทุก และจะขยายไปสู่ภาคส่วนอื่น ๆ ในอนาคต
หนึ่งในแนวทางคือการสร้างการรับรู้ในวงกว้าง ผ่าน โลโก้และการออกแบบโครงการในรูปแบบเดียวกันทั่วกรุงโตเกียว เพื่อให้ประชาชนมองเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงและเกิดความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับพลังงานไฮโดรเจน
โตโยต้าและวิสัยทัศน์สังคมไฮโดรเจน
โตโยต้ายืนยันว่า “ไฮโดรเจน” จะเป็นพลังงานสำคัญในอนาคต และกำลังเดินหน้าร่วมมือกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน ครอบคลุมตั้งแต่ การผลิต การขนส่ง การจัดเก็บ ไปจนถึงการใช้งานจริง
การนำ Crown เข้าสู่ฟลีทแท็กซี่ครั้งนี้ไม่เพียงช่วยให้ผู้คนเข้าถึงพลังงานไฮโดรเจนในชีวิตประจำวันได้ง่ายขึ้น แต่ยังช่วยสร้าง ความต้องการไฮโดรเจนในปริมาณมาก ซึ่งจะกระตุ้นให้ห่วงโซ่อุปทานเติบโตอย่างต่อเนื่อง
โตโยต้ามุ่งมั่นที่จะเดินหน้าสร้างความร่วมมือในทุกภาคส่วน เพื่อทำให้ กรุงโตเกียวก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านไฮโดรเจนของโลก และเป็นตัวอย่างของเมืองที่ใช้พลังงานสะอาดอย่างยั่งยืน
