Advertisement

Advertisement

TOYOTA Highlander โฉมใหม่ ภาพในจินตนาการ หยิบดีไซน์ CROWN และ PRIUS มาใช้

TOYOTA Highlander โฉมใหม่ ภาพในจินตนาการ หยิบดีไซน์ CROWN และ PRIUS มาใช้

Advertisement

Advertisement

 

Toyota Grand Highlander SUV 3 แถว 8 ที่นั่ง พึ่งเปิดตัวในสหรัฐฯ เมื่อ 9 กุมภาพันธ์ 2023 แต่นั้นไม่ใช่การปรับโฉมแต่อย่างใด เป็นเพียงการเพิ่มรุ่นพิเศษ หรือเรือธงใหม่ 8 ที่นั่ง มาเสริมตลาดเท่านั้น

Toyota Kluger เจนเนอเรชั่นที่ 4 (หรือที่รู้จักในชื่อ Highlander) แม้ว่าไม่ทำตลาดในประเทศไทย แต่ในต่างประเทศได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งเปิดตัวใน New York ปี 2019 สำหรับการปรับโฉมใหม่ คาดว่าเราจะได้เห็นในตลาดโลกภายในอีกไม่นานนับจากนี้

ในประเทศจีน Highlander รุ่นที่สี่เปิดตัวเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2021 ที่Auto Shanghai Highlander ภายใต้ FAW TOYOTA พวกเขาใช้ชื่อ CROWN Kluger มีพื้นฐานมาจาก Highlander XSE ที่ขายในอเมริกาเหนือ โดยเปลี่ยนจากตรา โตโยต้า เป็น CROWN

แน่นอน การออกแบบของ Toyota Highlander จะได้รับการปรับโฉมใหม่ทั้งหมด ศิลปินดิจิตอลของ Whichcar เผยว่ามีความเป็นไปได้ที่จะหยิบยกดีไซน์จาก CROWN ใหม่มาตกแต่ง พวกเขาสร้างภาพในจินตนาการของ Highlander ใหม่ รวมทั้งหยิบท้ายของ Prius โฉมใหม่มาใส่ให้ลงตัวมากขึ้น

สำหรับการเปิดตัว Toyota Kluger  โฉมใหม่ เราต้องรอคอยกันอีกครั้ง แต่หวังว่าไม่นานแน่นอน

Toyota Grand Highlander SUV 3 แถว 8 ที่นั่ง

 

CHICAGO วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2023 Toyota Grand Highlander SUV 3 แถว 8 ที่นั่ง เปิดตัวในสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ พร้อมขุมพลัง Hybrid MAX 362 แรงม้า

  • Grand Highlander สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม TNGA-K (Toyota New Global Architecture)
  • Toyota Grand Highlander 2024 คือเรือธงของ ไฮแลนเดอร์ใหม่ มาพร้อมระบบส่งกำลังไฮบริด 2 ชุด เบาะนั่ง 3 แถว ความจุผู้โดยสารสูงสุด 8 ที่นั่ง โดยจะเปิดตัวในงาน Chicago Auto Show 2023 ระหว่าง 11 – 15 กุมภาพันธ์ 2023
  • Lisa Materazzo รองประธานกลุ่มฝ่ายการตลาดของ Toyota กล่าวว่า “ในตลาดมีความต้องการรถ SUV ขนาดกลางที่เน้นความสบายภายในทั้งสามแถว และ Grand Highlander คือตัวเลือกที่ดีที่สุด”
  • Toyota จะสร้าง Grand Highlander ที่โรงงานในเมืองพรินซ์ตัน รัฐอินเดียนา โดยเป็นรถรุ่นปี 2024 ราคาและระยะเวลาการผลิตทั้งหมดจะประกาศในฤดูร้อนนี้ Toyota กล่าว

Toyota Grand Highlander 2024 ภายนอกได้รับการปรับปรุงกระจังหน้าใหม่ทั้งหมด ให้มีความแตกต่างจากไฮแลนเดอร์โฉมปัจจุบัน ออกแบบโดย Calty Design Studios ในแคลิฟอร์เนีย ล้ออัลลอยขนาด 18 – 20 นิ้ว หลังคามูนรูฟแบบพาโนรามา

  • ไฟหน้าแบบ LED
  • ไฟตัดหมอก LED
  • กระจกมองข้างพับไฟฟ้า
  • เซ็นเซอร์จอดรถพร้อมระบบเบรกอัตโนมัติ
  • ที่ปัดน้ำฝนแบบตรวจจับปริมาณน้ำฝน
  • ประตูท้ายไฟฟ้า

ภายในห้องโดยสารรองรับได้สูงสุด 8 ที่นั่ง ติดตั้งหน้าปัด Full ดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้ว หน้าจอสัมผัสส่วนกลาง 12.3″ Premium Multimedia (Panoramic View Monitor) พร้อมลำโพง 11 ตัว JBL Audio รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto Connected Service Drive Connect การอัปเดต Over-the-Air (OTA)

  • เบาะหนัง
  • เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง และเบาะผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
  • ที่นั่งด้านหน้าแบบอุ่นและระบายอากาศ
  • เบาะนั่งแถวที่ 2 แบบอุ่นและระบายอากาศ
  • เบาะนั่งแถวที่ 2 ปรับความร้อนได้
  • ที่วางแก้วขนาดใหญ่พิเศษสำหรับขวดน้ำขนาดใหญ่พิเศษ 13 ตำแหน่ง
  • พอร์ต USB-C 7 พอร์ตในห้องโดยสาร
  • ปลั๊กไฟ (Gas 100W) (1500W HV/Hybrid MAX)
  • ระบบชาร์จมือถือแบบไร้สาย Qi
  • กระจกมองหลังดิจิตอล
  • มูนรูฟพาโนรามา
  • แป้นเปลี่ยนเกียร์ (AWD Gas และ Hybrid MAX)
  • ปุ่มกดเลือก Multi-Terrain (AWD Gas และ Hybrid MAX)
  • Digital Key
  • กล้อง 360 องศา
  • Safety Connect
    • ปุ่มช่วยเหลือฉุกเฉิน (SOS)
    • การช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน
    • การแจ้งเตือนการชนอัตโนมัติ
    • ตัวระบุตำแหน่งรถที่ถูกขโมย
    • ระบบช่วยเหลือการชนพร้อมให้ทดลองใช้สูงสุด 10 ปี Service Connect ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถรับรายงานสถานะของยานพาหนะ การแจ้งเตือนการบำรุงรักษา และการแจ้งเตือน พร้อมการทดลองใช้สูงสุด 10 ปี

เครื่องยนต์ 2.4 ลิตร เทอร์โบ Dynamic Force T24A-FTS ให้กำลังสูงสุด 265 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ DirectShift 8 สปีด ขับเคลื่อนล้อหน้า หรือ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Electronic On-Demand AWD (E-Four)

เครื่องยนต์ 2.4 ลิตร เทอร์โบ 4 สูบ Dynamic Force T24A-FTS “Hybrid Max” พ่วงกับระบบ Toyota Hybrid System ให้กำลังรวมสูงสุด 362 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ DirectShift 6 สปีด และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ E-Four Advanced พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า eAxle ด้านหลัง

เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร 4 สูบ Dynamic Force A25A-FKS พ่วงกับระบบ Toyota Hybrid System-II ให้กำลังรวมสูงสุด 236 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ e-CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า หรือ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Electronic On-Demand AWD (E-Four)

  • 3 โหมดการขับขี่ได้แก่ Sport, Eco, Normal
  • Multi-Terrain Select พร้อมสามโหมด (Mud & Sand, Rock & Dirt, Snow)

ภายในห้องโดยสารสามารถเลือกสีได้หลากหลาย เช่น 

  • XLE Gas and Hybrid: Softex®-trim สีเทาอ่อนหรือสีดำ
  • Limited Gas and Hybrid: หุ้มหนังสีเทาอ่อนหรือสีดำ
  • Platinum : ตกแต่งด้วยหนังในสี Portobello สีเทาอ่อนหรือสีดำ
  • Limited Hybrid Max: Ultrasuede®-  ขอบหนัง สีเทาอ่อนหรือสีดำ
  • Platinum Hybrid MAX ใน Ultrasuede®- ขอบหนัง Portobello, สีเทาอ่อนหรือสีดำ

Grand Highlander ปี 2024 มาพร้อมกับ Toyota Safety Sense เจเนอเรชั่นล่าสุด TSS 3.0

  • ระบบป้องกันการชนล่วงหน้าพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน Pre-Collision System with Pedestrian Detection
  • ระบบเตือนการออกนอกเลนพร้อมระบบช่วยบังคับเลี้ยว Lane Departure Warning with Steering Assist
  • ไดนามิกเรดาร์ครูซคอนโทร ควบคุมและปรับ ความเร็วอัตโนมัติ Full-Speed Range Dynamic Radar Cruise Control
  • ระบบช่วยติดตามเลน ระบบช่วยบังคับควบคุมรถให้อยู่ในเลนอัตโนมัติ
  • ระบบเตือนป้ายจราจร Road Sign Assist
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Auto High-Beam
  • ระบบจะการคาดการณ์ความเสี่ยงตามสถานการณ์การขับขี่ Proactive Driving Assist

Advertisement

Advertisement

motortrend

Advertisement

Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้