TOYOTA จะเลิกใช้คำว่า Prime ในรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด Prius และ RAV4
TOYOTA จะเลิกใช้คำว่า Prime ในรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด Prius และ RAV4 PHEVs โดยจะใช้ชื่อเพียง PHEV สำหรับรุ่นปี 2025 เป็นต้นไป ในสหรัฐฯ และ แคนาดา รวมทั้งคาดว่าในตลาดโลกด้วย
ในอนาคต รถทั้งสองรุ่นจะเรียกกันอย่างเหมาะสมว่า PHEV หรือ Plug-in Hybrid ซึ่งตรงกับหลักเกณฑ์การตั้งชื่อแบบตรงไปตรงมาที่ใช้กันในยุโรปและญี่ปุ่นอยู่แล้ว แม้ว่ารถทั้งสองรุ่นจะมีตรา PHEV พร้อมจุดสีน้ำเงินบนตัวถัง แต่เอกสารของ Toyota จะใช้คำว่า “Plug-in Hybrid” ด้วยเช่นกัน
บริษัทอ้างว่าการเปลี่ยนแปลงชื่อย่อของรถไฮบริดแบบปลั๊กอินนั้น “มีจุดประสงค์เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคระบุตัวเลือกระบบส่งกำลังระหว่างรุ่น Prius และ RAV4 ได้ง่ายขึ้น” ป้ายกำกับ Prime เป็นส่วนหนึ่งของ Prius ตั้งแต่ปี 2016 และ RAV4 ตั้งแต่ปี 2019 จะเลิกใช้ในปีหน้า
นอกจากการเปลี่ยนชื่อแล้ว SUV ที่ใช้ไฟฟ้ารุ่นนี้ยังได้บอกลาสัญลักษณ์รูปวงรีสีน้ำเงินของ Toyota ซึ่งเคยหมายถึงรถยนต์แบบปลั๊กอินไฮบริด PHEV โดยเปลี่ยนมาใช้จุดสีน้ำเงินที่ฝากระโปรงหลังหรือประตูท้ายแทน
นอกจากการเปลี่ยนแบรนด์แล้ว Toyota Prius PHEV ปี 2025 และ Toyota RAV4 PHEV ปี 2025 ยังคงแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากรุ่นก่อนหน้าเลย ทั้งการออกแบบ ระบบส่งกำลัง
TOYOTA ขายรถยนต์ xEV กว่า 20,710 คันครึ่งปีแรก ในสหรัฐฯ Toyota RAV4 Prime นำยอดขายกว่า 10,970 คัน
TOYOTA Prius PHEV ปี 2024 ปลั๊กอินไฮบริดใหม่ในสหรัฐอเมริกา พร้อมให้เลือกในเกรด SE, XSE และ XSE Premium แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนรุ่นใหม่ขนาดใหญ่ขึ้น 13.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง ราคาจำหน่าย $34,070 – 39,670 หรือประมาณ 1.10 – 1.28 ล้านบาท
- Prime ใช้ระบบไฮบริดเจเนอเรชันที่ 5 ของ Toyota ซึ่งรวมเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรประสิทธิภาพสูง เครื่องกำเนิดไฟฟ้า และมอเตอร์ไฟฟ้าเข้าด้วยกันเพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่มีประสิทธิภาพ
- Prius ปี 2023 จะมีให้เลือกสามเกรด ได้แก่ SE, XSE และ XSE Premium สีมาตรฐานประกอบด้วยสีใหม่ล่าสุด Cutting Edge, สีเทา Guardian Grey, สีดำ Midnight Black Metallic และสีน้ำเงิน Reservoir Blue สีระดับพรีเมียม ได้แก่ Wind Chill Pearl และ Supersonic Red Prius Prime ทุกเกรดมาในระบบขับเคลื่อนล้อหน้า
เครื่องยนต์เบนซิน M20A-FXS 4 สูบ 2.0 ลิตร Dynamic Force Engine ปลั๊กอินไฮบริด
- เครื่องยนต์ให้กำลัง 151 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที
- แรงบิด 188 นิวตัน-เมตร
- มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว 163 แรงม้า
- แรงบิด 208 นิวตัน-เมตร
- รวมให้กำลัง 223 แรงม้า
- แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 13.6 กิโลวัตต์-ชั่วโมง สามารถวิ่งไฟฟ้าล้วนๆ 70 กม.EPA
- ส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ CVT
- อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.6 วินาที
- ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า
- อัตราชาร์จ AC 120V 11 ชั่วโมง และ 240V 4 ชั่วโมง
- ระบบจ่ายพลังงานให้อุปกรณ์ไฟฟ้า Vehicle-2-Load (V2L) 1,500W
- ระยะการขับขี่ EV สูงกว่ารุ่นก่อนหน้าประมาณ 50% ซึ่งหมายความว่าด้วยประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ที่ดีขึ้น
- Prius PHEV ใหม่ติดตั้ง Regeneration Boost ช่วยสลับระหว่างการเร่งความเร็วและการเบรกฟังก์ชันนี้จะให้แรงเบรกมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อมอบประสบการณ์ขับขี่ที่ตอบสนองในขณะที่ลดความถี่ในการสลับระหว่างคันเร่งและแป้นเบรก
- ถังน้ำมันขนาด 43 ลิตร
- อัตราประหยัดน้ำมัน ในเมือง 21.26 กม./ลิตร EPA
- บนทางหลวง 19.98 กม./ลิตร EPA
- วิ่งได้ไกลสูงสุด 965 กม./ถังน้ำมัน EPA
ภายนอกมีการออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยตัวรถจากขึ้นจากแพลตฟอร์ม Toyota New Global Architecture (TNGA) เจนเนอเรชั่นที่สองของโตโยต้า มีระยะฐานล้อที่ยาวขึ้น จุดศูนย์ถ่วงต่ำลง และล้อขนาด 17 – 19 นิ้วที่ใหญ่ขึ้นเป็นมาตรฐาน ไฟหน้าLED tube แบบเดียวกับ Crown รุ่นใหม่ เน้นการออกแบบภายนอกลักษณะคล้าย ฉลามหัวฆ้อน Hammerhead shark-like design
- ตัวถังสั้นลง 46 มม. ระยะฐานล้อยาวขึ้น 50 มม. ความกว้างเพิ่มขึ้น 22 มม. และความสูงของตัวถังลดลง 50 มม. (ขนาดตัวถัง ยาว 4,600 มม. กว้าง 1,780 มม. สูง 1,420 มม. ฐานล้อ 2,750 มม.)
- XSE Premium ยังสามารถเลือกใช้หลังคาโซลาร์รูฟขนาด 185 วัตต์ที่ชาร์จแบตเตอรี่ของไดรฟ์ในขณะที่รถจอดอยู่และจ่ายพลังงานไปยังฟังก์ชันเสริมในขณะเดินทาง
ภายในห้องโดยสารแตกต่างอย่างมากหากเทียบโฉมปัจจุบัน ติดตั้งหน้าจอระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาด 12.3 นิ้ว แผงหน้าปัดดิจิตอล เบาะหนังดำ-แดง คอนโซลหน้าดำ-แดง ช่องระบายอากาศแบบผอมแยกหน้าจอสาระบันเทิงออกจากส่วนควบคุม HVAC มีปุ่มควบคุมอุณหภูมิที่นั่งและปรับอุณหภูมิห้องโดยสาร
- Toyota Audio Multimedia พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay ®และ Android Auto™ Wi-Fi Connect 30
- ลำโพง JBL Premium
- รองรับการอัพเดท Over-the-Air (OTA)
- Toyota Safety Sense-linked ระบบจะแจ้งเตือนผู้ขับขี่ถึงวัตถุที่ตรวจพบผ่านสัญญาณไฟกะพริบก่อนที่จะมีเสียงเตือน เพื่อสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่มั่นใจยิ่งขึ้น
Toyota Safety Sense แพ็คเกจความปลอดภัยแบบแอคทีฟล่าสุดพร้อมฟังก์ชันขั้นสูงที่ได้รับการปรับปรุง เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถยนต์ Prius ใหม่ทุกรุ่น ขอบเขตของวัตถุที่ตรวจจับได้นั้นกว้างยิ่งขึ้น ทำให้สามารถขับขี่ได้อย่างเพลิดเพลินและสบายใจ
Advanced Park (พร้อมฟังก์ชั่นรีโมท) ระบบสนับสนุนการขับขี่ขั้นสูง ช่วยให้จอดรถอัตโนมัติได้ง่ายและออกจากที่จอดรถในสถานการณ์การจอดรถที่หลากหลาย
ระบบช่วงล่าง
- ระบบกันสะเทือนด้านหน้าเป็นแบบอิสระ MacPherson Strut
- ระบบกันสะเทือนด้านหลังเป็นแบบอิสระ Double Wishbone
เครดิต Motor1
2024 Toyota Prius PHEV SE ราคา $34,070 หรือประมาณ 1.12 ล้านบาท