Advertisement
Advertisement
สรุปข่าวการเรียกรถ Toyota Tundra คืนในสหรัฐฯ (2022–2025):
- เรียกรถคืนกว่า 443,000 คัน (รวมรุ่น Hybrid) เพราะไฟถอยหลังมีปัญหาให้น้ำซึมเข้า ทำให้ไฟดับ เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ
- เปลี่ยนชุดไฟถอยหลังฟรี 2 ชิ้น/คัน พร้อมตรวจสอบสายไฟและขั้วต่อ หากมีสนิมหรือการกัดกร่อนจะซ่อมให้
- เริ่มแจ้งเจ้าของรถเดือนกรกฎาคม 2025
- แม้รถจะมีกล้องถอย แต่ไฟถอยยังจำเป็นในที่มืด กล้องก็มีโอกาสเสียได้เช่นกัน
- ปัญหาไฟถอยถือว่าเล็ก เมื่อเทียบกับปัญหาใหญ่ในปี 2024 ที่ต้องเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่เกือบ 100,000 คัน เพราะมีเศษโลหะตกค้างในเครื่อง
- แม้มีปัญหา แต่ Tundra ยังถูกจัดเป็นรถอึดอันดับ 1 ของอเมริกา มีโอกาสถึง 37% ที่จะวิ่งได้ถึง 402,000 กม.
โตโยต้าเป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องการผลิตรถยนต์ รถกระบะ และ SUV ที่เชื่อถือได้ แต่แม้กระทั่งกระบะพันธุ์แกร่งอย่าง Tundra ก็ไม่พ้นปัญหาคุณภาพเล็กๆ น้อยๆ เช่นกัน ล่าสุดมีการเรียกรถคืนเกือบ 500,000 คัน เนื่องจากปัญหาเล็กน้อยที่อาจนำไปสู่ความเสียหายใหญ่บริเวณฝาท้ายรถ – และอาจเป็นอันตรายต่อคนหรือสิ่งของที่อยู่ใกล้ๆ
ปัญหานี้เกี่ยวข้องกับไฟถอยหลัง ซึ่งมีรายงานจากเจ้าของรถบางรายว่า ไฟสามารถมีน้ำซึมเข้าไปได้ ทำให้ไฟไม่ทำงาน โดยรถที่ได้รับผลกระทบมีจำนวนประมาณ 443,000 คัน ครอบคลุมทั้ง Tundra รุ่นเครื่องยนต์ทั่วไปและไฮบริด ที่ผลิตระหว่างปี 2022 ถึง 2025 ซึ่งจะต้องนำรถเข้าศูนย์บริการโตโยต้าเพื่อเปลี่ยนชุดไฟถอยหลังทั้งสองข้างฟรี
โตโยต้าระบุเพิ่มเติมว่า จะมีการตรวจสอบชุดสายไฟของรถทุกคันที่นำเข้ามา และจะทำการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนสายไฟและขั้วต่อที่มีสัญญาณของการกัดกร่อนด้วย เจ้าของรถจะได้รับจดหมายแจ้งเรื่องแคมเปญเรียกรถคืนนี้ภายในเดือนกรกฎาคม
แม้กฎหมายสหรัฐจะกำหนดให้รถใหม่ทุกคันต้องติดตั้งกล้องมองหลังมาตั้งแต่ก่อนเปิดตัว Tundra เจเนอเรชันที่ 3 ในปี 2021 แล้ว แต่กล้องถอยหลังเหล่านี้ก็ยังต้องพึ่งพาแสงจากไฟถอยหลังในการมองเห็นยามค่ำคืน และอย่างที่เรารู้กันดีจากการเรียกรถคืนหลายกรณีจากหลายแบรนด์ กล้องถอยหลังก็มีโอกาสเสียได้เช่นกัน ดังนั้นหากคุณเป็นเจ้าของ Tundra ปี 2022–2025 ควรรีบจัดการเรื่องเรียกรถคืนนี้ให้เรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม ปัญหาเรื่องไฟถอยหลังนี้ยังถือว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปัญหาใหญ่ในปี 2024 ที่เกี่ยวข้องกับเครื่องยนต์ของ Tundra เจเนอเรชันที่ 3 (รวมถึง Lexus LX) ซึ่งโตโยต้าต้องเสนอเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ให้กับรถจำนวน 98,568 คันของ Tundra และอีก 3,524 คันของ LX หลังจากตรวจพบว่ามีเศษโลหะจากการกลึงชิ้นส่วนตกค้างอยู่ในเครื่องยนต์ ซึ่งเสี่ยงต่อการทำให้แบริ่งเพลาข้อเหวี่ยงเสียหาย
แม้จะมีปัญหาหลายอย่าง แต่จากผลการศึกษาล่าสุดเกี่ยวกับรถยนต์ที่ใช้งานได้นานที่สุดในสหรัฐอเมริกา รถกระบะฟูลไซส์ Tundra ของโตโยต้าก็ยังครองอันดับหนึ่ง โดยรถทุกคันของรุ่นนี้มีโอกาสถึง 37% ที่จะวิ่งได้ถึง 250,000 ไมล์ (ประมาณ 402,000 กิโลเมตร) ซึ่งสูงที่สุดในกลุ่ม และรถอีก 4 รุ่นที่ติดอันดับต้นๆ ก็เป็นรถโตโยต้าทั้งหมดเช่นกัน
Toyota Tundra Capstone รุ่นแต่งพิเศษสุดพรีเมียม เทียบชั้น GMC Sierra Denali หรือเป็นรุ่นเรือธงของ กระบะทุนดรา ราคาจำหน่ายในสหรัฐฯ $77,645 หรือประมาณ 2.68 ล้านบาท
Toyota Tundra Capstone พร้อมการออกแบบพรีเมียม ฝาครอบกระจกโครเมียม ล้อโครเมียมขนาด 22 นิ้วขนาดใหญ่ กระจังหน้าตกแต่งด้วยโครเมียม สัญลักษณ์ TUNDRA แบบโครเมียมบริเวณประตูท้าย นอกจากนี้ยังตกแต่งโครเมียมมากมายรอบตัวถัง
ขนาดตัวถัง Tundra Capstone
- ยาว 5933 มม.
- กว้าง 2037 มม.
- สูง 1981 มม.
- ระยะฐานล้อ 3700 มม.
- น้ำหนักตัวรถ 2805 กก.
- ความสามารถในการลากจูงสูงสุด 4971 กก.
- ขนาดถังน้ำมัน 121 ลิตร
ภายในห้องโดยสารยกระดับความพรีเมียมด้วยเบาะหนังกึ่งอนิลีนขาว-ดำ พร้อมระบบทำความรน้อน และ ระบายอากาศบริเวณแถว 2 ภายในตกแต่งเสริมด้วยไม้ Dark American Walnut ทั้งบริเวณแผงหน้าปัด ประตู คอนโซลกลาง หลังคามูนรูฟพาโนรามา แผงหน้าปัดดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้ว และระบบสาระบันเทิงมัลติมีเดียขนาด Toyota Audio Multimedia 14 นิ้ว พร้อม Android Auto แบบไร้สาย และ Apple CarPlay กระจกมองหลังแบบดิจิตอล ระบบเสียงระดับพรีเมียม JBL ที่มีลำโพง 12 ตัว ระบบชาร์จมือถือแบบไร้สาย
- ภายในทูโทนสีขาว-ดำพร้อมลายไม้วอลนัทอเมริกันสีเข้ม
- Head-Up สี (HUD) หน้าจอสีขนาด 10 นิ้ว
- เบาะหุ้มหนังเทียม
- เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง
เครื่องยนต์เบนซินไฮบริด 3.4 ลิตร i-Force Max Twin-Turbo V6 ให้กำลัง 437 แรงม้า ที่ 5200 รอบต่อนาที แรงบิตสูงสุด 790 นิวตันเมตร ที่ 2,400 รอบต่อนาที + มอเตอร์ไฟฟ้า เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด
- มอเตอร์ไฟฟ้าไฮบริด i-FORCE MAX ของ Tundra ใช้ Power Control Unit (PCU)
- ECT-i แบตเตอรี่แพคชนิดนิคเกิล-เมทัล ไฮไดรด์ 288 โวลท์ ขนาด 1.87 kWh
- ระบบขับเคลื่อน 4X4 Four-Wheel Drive
- อัตราประหยัดน้ำมันรวม 21MPG หรือ 8.9 กม./ลิตร
- ในเมือง 19MPG หรือ 8 กม./ลิตร
- ทางหลวง 22 MPG หรือ 9.3 กม./ลิตร
ความสามารถในการลากจูงสูงสุด 4,971 กก. นอกจากนี้ Toyota มาพร้อมกับแพ็คเกจเทคโนโลยีลากจูงมาตรฐานที่รวม Trailer Back Guidance และ Straight Path Assist ลูกค้ายังสามารถเลือกใช้ Adaptive Variable Suspension ช่วยปรับแรงสั่นสะเทือนตามสภาพถนน
- รวมทั้งติดตั้ง Panoramic View Monitor ที่สร้างมุมมอง 360 องศา ในการลากจูงได้ดีขึ้น พร้อมโฆมดลากจูง 2 โหมด
ทุนดราจะมาพร้อมกับ Toyota Safety Sense 2.5 เช่น ระบบช่วยเหลือขับขี่รุ่นล่าสุด TSS 2.5 ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ระบบตรวจจับคนเดินถนน และ ปั่นจักรยาน ระบบแสดงจุดบอด ระบบเตือนจราจรด้านหลัง ระบบไฟสูงอัตโนมัติ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ ระบบแสดงการจราจรแบบ Active
WIND CHILL PEARL $425
MAGNETIC GRAY METALLIC
CELESTIAL SILVER METALLIC
MIDNIGHT BLACK METALLIC
SUPERSONIC RED $425
BLUEPRINT































Toyota Tundra Capstone 3.4Twin-Turbo i-Force Max 437 แรงม้า ราคา 2.68 ล้านบาท ในสหรัฐฯ
Toyota Sequoia SUV คันโต เจนที่ 3 ออกสายจากการผลิต ในเท็กซัส สหรัฐอเมริกา