จอง 10,000 คันใน 46 นาที XPENG G7 แบตเตอรี่ 80.8kWh วิ่งได้ 702 กม./ชาร์จ CLTC เปิดขายจีนเริ่ม 1.06 ล้านบาท

Spread the love

วันที่ 11 มิถุนายน Xpeng G7 เริ่มเปิดให้จองล่วงหน้าอย่างเป็นทางการ Xpeng G7 เปิดตัวพร้อมกัน 2 รุ่นย่อย คือรุ่น Max และ Ultra โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 235,800 หยวน หรือ 1.06 ล้านบาท หลังงานเปิดตัว นายเหอ เสี่ยวเผิง CEO ของ Xpeng และ Nick หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์ G7 ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน

รูปลักษณ์ภายนอก รถยนต์คันนี้ใช้ภาษาการออกแบบเดียวกับ Xpeng P7+ โดยมีไฟหน้าแบบแยกส่วน ด้านบนเป็นแถบไฟ LED แบบโค้งมนที่เชื่อมต่อกัน ส่วนด้านล่างเป็นชุดไฟสูง-ต่ำที่ผสานรวมกับช่องลม ทำให้รูปทรงโดยรวมดูคมชัด นอกจากนี้ ด้านหน้าของรถยังมาพร้อมกับช่องดักอากาศรมดำขนาดใหญ่ ช่วยเพิ่มความสปอร์ตให้กับส่วนหน้ายิ่งขึ้น ในขณะเดียวกัน Xpeng ได้เปิดเผยชุดสีสำหรับรถยนต์คันนี้

โดยมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ Star Day Grey (เทา), New Moon Silver (เงิน), Nebula White (ขาว), Dark Night Black (ดำ), Cloud Shell Rice (เบจ), และ Interstellar Green (เขียว)

ด้านข้างตัวรถ จากภาพอย่างเป็นทางการที่เผยแพร่ก่อนหน้านี้ รถยนต์คันนี้จะใช้มือจับประตูแบบซ่อน ผสมผสานกับดีไซน์ล้อแบบใหม่ที่ให้ความรู้สึกประณีต ส่วนท้ายรถ ใหม่นี้มาพร้อมกับไฟท้ายแบบเชื่อมต่อกันรูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมู ให้มิติภาพที่น่าสนใจ

ขนาดตัวรถ

ความยาว 4,892 มม.
ความกว้าง 1,925 มม.
ความสูง 1,655 มม.
ระยะฐานล้อ 2,890 มม.

ข้อมูลมอเตอร์ไฟฟ้า

มอเตอร์แม่เหล็กถาวร (Permanent Magnet Synchronous Motor – PMSM) ให้กำลังประมาณ 218 kW หรือ 296 แรงม้า (PS)
แรงบิดสูงสุด ประมาณ 440 นิวตันเมตร (Nm) (ยังไม่ประกาศทางการ แต่อิงจากรุ่นใกล้เคียงเช่น G6)
ขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD)
คาดว่าอาจมีรุ่น Dual Motor AWD เปิดตัวภายหลัง
แบตเตอรี่ 80.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh): ระยะทางขับขี่ประมาณ 702 กม./ชาร์จ CLTC
Xpeng G7 ใช้ระบบไฟ 800 โวลต์ และรองรับการชาร์จเร็วระดับ 5C ซึ่งหมายถึงสามารถชาร์จได้เร็วมาก ในระดับเดียวกับ Tesla และแบรนด์พรีเมียมของจีน
ตามข้อมูลของ Xpeng (จากรุ่นก่อนหน้า) การชาร์จจาก 10–80% สามารถทำได้ภายในเวลาประมาณ 20 นาทีหรือน้อยกว่า (ขึ้นกับสถานีชาร์จที่ใช้)

1. ประสิทธิภาพของ “ชิปประมวลผล” และการพัฒนาภายในบริษัท

Q: ชิปของ Xpeng G7 เคลมว่ามี “ประสิทธิภาพใช้งาน” สูงกว่าแบรนด์ทั่วไปถึง 3-28 เท่า หมายถึงอะไร?

A: เหอ เสี่ยวเผิง อธิบายว่า ชิปที่บริษัทพัฒนาขึ้นเองมุ่งเน้นที่ “ประสิทธิภาพที่ใช้งานได้จริง” ไม่ใช่แค่ตัวเลข TOPS (Tera Operations per Second) เช่น ชิปคู่แข่งที่มี 250 TOPS อาจใช้ได้แค่บางส่วนของโครงสร้าง ขณะที่ Xpeng ทำชิปแบบพัฒนาเองทั้งหมด และกำลังพัฒนาคอมไพเลอร์ เครื่องมือซอฟต์แวร์ เพื่อให้อนาคต “1 ชิป เทียบเท่า 4 ชิป” ได้

2. เหตุผลที่ใช้แบตเตอรี่ 80.6 kWh ทั้งหมด

แม้ในเอกสารการรับรองจะระบุว่า G7 มีเวอร์ชันแบตเตอรี่ 68.5 kWh แต่ Xpeng ตัดสินใจผลิตจริงเฉพาะเวอร์ชัน 80.6 kWh เพื่อสร้างความมั่นใจด้านระยะทาง เน้นตลาดกลุ่มราคา 2 แสนหยวนขึ้นไป ซึ่งลูกค้าให้ความสำคัญกับระยะทางวิ่งเป็นหลัก โดย G7 มีระยะทางวิ่งถึง 700 กม.

3. ฟีเจอร์อัจฉริยะจาก “Turing” 2 ชิป

Xpeng ติดตั้งชิป “Turing” ถึง 2 ตัว ทำให้ G7 สามารถรองรับฟีเจอร์ช่วยขับขี่แบบ VLA และระบบผู้ช่วยอัจฉริยะ VLM ซึ่งในเวอร์ชัน Ultra บริษัทตั้งเป้าว่า “ขับขี่ 100 กม. คนขับต้องแทรกแซงเพียง 1 ครั้ง” ขณะที่รุ่น Max จะอยู่ที่ 50 กม./ครั้ง

4. ความแตกต่างด้านดีไซน์ระหว่าง G7 กับ P7

Nick ระบุว่า G7 กับ P7+ ถูกออกแบบให้ตอบโจทย์ครอบครัว โดยให้ความสำคัญกับพื้นที่ใช้สอยและความสะดวกสบาย แต่ดีไซน์จะแยกแนวทางชัดเจน โดย G7 จะเน้นอรรถประโยชน์และความล้ำของเทคโนโลยี ขณะที่ P7 ใหม่จะชูดีไซน์ล้ำอนาคตมากกว่า

5. การจัดการกับชิปและหน่วยความจำ

G7 ใช้ชิปรวมทั้งหมด 4 ตัว (รวม 1 ตัวเป็น 8295) การสื่อสารระหว่างชิปใช้ PCIe ส่วนหน่วยความจำ 216GB กำลังพัฒนาต่อในสถาปัตยกรรม EEA รุ่นถัดไป เพื่อรองรับโมเดลขนาดใหญ่ขึ้นในอนาคต

6. มาตรฐาน L2 vs L3

Xpeng มองว่า 500 TOPS เป็นเกณฑ์ขั้นต่ำของ L2 และ 2000 TOPS สำหรับ L3 ขณะที่การใช้งานจริงต้องพิจารณาร่วมกับหน่วยความจำ แบนด์วิดธ์ และประสิทธิภาพของการทำงานร่วมกัน

7. เหตุผลที่ใช้ VLM และ VLA ควบคู่

VLM เป็นระบบจัดการระดับผู้ช่วยเสมือนในห้องโดยสาร ส่วน VLA ใช้กับระบบขับขี่อัตโนมัติ โดยทั้งสองทำงานร่วมกันแบบแยกฟังก์ชันตามลักษณะเฉพาะ: VLA ต้องการประมวลผลเร็ว (20-30 FPS) ส่วน VLM ทำงานช้ากว่าได้

8. แผนการใช้ชิปของ Xpeng ในอนาคต

Xpeng จะยังคงใช้ชิปของ NVIDIA ในบางรุ่น แต่เป้าหมายระยะยาวคือค่อยๆ เพิ่มสัดส่วนของชิปที่พัฒนาเอง เพื่อควบคุมต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการปรับแต่งให้เหมาะกับโมเดล AI ของตนเอง

9. ความเห็นต่อการพัฒนา AI ของ Tesla

เหอ เสี่ยวเผิง ระบุว่าไม่กังวลเรื่อง Tesla เพราะทุกบริษัทล้วนมีแนวทางของตัวเอง Xpeng มองว่าอนาคต L4 จะต้องใช้ประสิทธิภาพการประมวลผลระดับสูงมาก และบริษัทกำลังเดินหน้าในทิศทางเดียวกัน

10. แผนเพิ่มรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อและ AR-HUD

ปัจจุบัน G7 ยังไม่มีเวอร์ชันขับเคลื่อน 4 ล้อ แต่ในอนาคตมีแผนขยาย AR-HUD ให้รองรับการแสดงผลบนสภาพถนนที่ไม่ปูพื้น เช่น ทะเลทราย หรือทางเขา

11. การลงทุนด้าน AI และสถานะทางการเงิน

Xpeng จะลงทุนด้าน AI ไม่น้อยกว่า 4.5 พันล้านหยวนในปีนี้ โดยครึ่งหนึ่งในงานวิจัยและพัฒนา เป้าหมายคือการมีกำไรภายในไตรมาส 4 ของปี 2025 พร้อมยืนยันจ่ายเงินให้ซัพพลายเออร์ภายใน 60 วัน ด้วยเงินสด ไม่ใช่ตั๋วสัญญาใช้เงิน

12. การแข่งขันกับ Tesla Model Y

Xpeng ไม่ได้ตั้งเป้าชิงอันดับ 1 ทันที แต่ G7 มีความได้เปรียบด้านเทคโนโลยีอัจฉริยะและพื้นที่ใช้สอย เหมาะกับครอบครัว พร้อมความสบายทั้งแถวหน้าและหลัง จุดเด่นคือขนาดตัวรถ + ความล้ำของซอฟต์แวร์

13. การเลือก G6 / G7 / G9