เบนซิน 2.4 Hybrid i-FORCE MAX ขุมพลังแห่งโตโยต้า ในกระบะ และ SUV

เบนซิน 2.4 Hybrid i-FORCE MAX ขุมพลังแห่งโตโยต้า ในกระบะ และ SUV
Spread the love
Advertisement Advertisement

เบนซิน 2.4 Hybrid i-FORCE MAX ขุมพลังแห่งโตโยต้า ในกระบะ และ SUV สายพันธ์เมกัน

ในยุคที่อุตสาหกรรมยานยนต์กำลังมุ่งหน้าเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านจากเครื่องยนต์สันดาปไปสู่ระบบไฟฟ้าเต็มรูปแบบ “ขุมพลังไฮบริด” จึงกลายเป็นคำตอบที่เหมาะสมที่สุดในปัจจุบัน โดยเฉพาะในรถกระบะและเอสยูวีที่ต้องการทั้งแรงบิดสูง ความทนทาน และการประหยัดพลังงาน โตโยต้าได้เปิดตัว 2.4 Hybrid i-FORCE MAX ซึ่งนับเป็นการผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์เทอร์โบขนาดเล็กกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ลงตัวที่สุดรุ่นหนึ่งในปัจจุบัน

ประวัติการพัฒนา

  • ต้นกำเนิดแนวคิด โตโยต้าเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีไฮบริดมายาวนาน ตั้งแต่การเปิดตัว Prius ในปี 1997 หลังจากนั้นจึงขยาย Hybrid Synergy Drive ไปยังรุ่นต่าง ๆ ทั้ง Camry, RAV4, Highlander และล่าสุดคือการต่อยอดไปยังรถกระบะ/ออฟโรด

  • จาก Hybrid Synergy Drive สู่ i-FORCE MAX เมื่อกระแสความต้องการรถที่มีแรงบิดสูงและประหยัดเชื้อเพลิงในตลาดอเมริกาเพิ่มขึ้น โตโยต้าจึงสร้าง “i-FORCE MAX” โดยใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตร เทอร์โบ 4 สูบ จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า วางแทน torque converter ในเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด แนวคิดนี้ทำให้ได้แรงบิดทันทีโดยไม่เสียความทนทาน

  • การพัฒนาและทดสอบ วิศวกรโตโยต้าลงรายละเอียดในทุกด้าน ทั้งระบบระบายความร้อน แบตเตอรี่ทนทาน (NiMH 1.87 kWh) และการควบคุมซอฟต์แวร์เพื่อรองรับการลากจูงหนัก ๆ และการขับออฟโรดจริง

  • เปิดตัวใช้งานครั้งแรก ระบบนี้ถูกเปิดตัวครั้งแรกกับ Toyota Tundra และตามมาด้วย Tacoma 2024 โดยให้สมรรถนะสูงกว่าเครื่อง V6 เดิมอย่างชัดเจน

    Advertisement Advertisement

ใช้ในรุ่นไหน ?

  • Toyota Tacoma 2024–2025 (US) กระบะขนาดกลาง ใช้ i-FORCE MAX เป็นเครื่องท็อป 326 hp / 630 Nm

  • Toyota Tundra 2022–ปัจจุบัน (US) กระบะฟูลไซส์ ใช้เครื่อง 3.5 V6 Turbo Hybrid (i-FORCE MAX) เป็นหลัก ไม่ใช่ 2.4 แต่ใช้ชื่อ “i-FORCE MAX” เช่นกัน

  • Toyota Sequoia 2023–ปัจจุบัน (US) SUV ฟูลไซส์ ใช้ 3.5 V6 Turbo Hybrid i-FORCE MAX

  • Toyota Land Cruiser Prado 250 (JP/Global, 2024) มีตัวเลือก 2.4 Turbo Hybrid i-FORCE MAX (ญี่ปุ่น)

  • Toyota Land Cruiser 250 (US/Global) ใช้ 2.4 Turbo Hybrid i-FORCE MAX (ระบบขับ 4WD มาตรฐาน)

สเปกเต็มของ 2.4 Hybrid i-FORCE

รายละเอียดรหัสเครื่อง T24A-FTS

  • แบบเครื่องยนต์: 4 สูบเรียง DOHC 16 วาล์ว
  • ระบบอัดอากาศ: เทอร์โบชาร์จ + อินเตอร์คูลเลอร์
  • ความจุ: 2,393 ซีซี
  • กระบอกสูบ x ช่วงชัก: 87.5 x 99.5 มม.
  • อัตราส่วนกำลังอัด: 11.0:1
  • ระบบฉีดเชื้อเพลิง: D-4ST (Direct + Port Injection)
  • กำลังสูงสุด (เฉพาะเครื่องยนต์): 278 hp (ตลาด US)
  • แรงบิดสูงสุด (เฉพาะเครื่องยนต์): 430 Nm

เมื่อรวมกับระบบ Hybrid (i-FORCE MAX)

  • มอเตอร์ไฟฟ้า: 48 hp / 250 Nm (แล้วแต่รุ่น)
  • แบตเตอรี่: NiMH 1.87 kWh (แรงดัน ~288V)
  • กำลังรวมระบบ: 326 hp / 630 Nm (ตัวเลข Tacoma Hybrid)
  • จับคู่เกียร์: อัตโนมัติ 8 จังหวะ (8AT)
  • มิติรถ (ใน Tacoma 2024)

    • ยาว 5,410 มม.

    • กว้าง 1,979 มม.

    • สูง 1,895 มม.

    • ฐานล้อ 3,350 มม.

อัตราประหยัดของ 2.4 Hybrid i-FORCE MAX ยังไม่มีตัวเลขทางการสำหรับประเทศไทยครับ แต่มีข้อมูลที่อ้างอิงได้จากรุ่นที่ใช้ขุมพลังเดียวกัน เช่น Toyota Tacoma Hybrid (สหรัฐฯ) และรุ่น SUV อย่าง Toyota Crown / Lexus RX500h ที่ใช้พื้นฐานใกล้เคียงกัน

ข้อมูลจากสหรัฐฯ (Tacoma Hybrid 2024)

  • EPA ยังไม่ประกาศตัวเลขชัดเจน แต่สื่ออเมริกาได้คาดการณ์ไว้ว่าอัตราประหยัดจะดีกว่ารุ่นเบนซิน 2.4 เทอร์โบปกติ (ที่ทำได้ราว 21–23 mpg รวม, หรือประมาณ 9–10 กม./ลิตร)

  • คาดว่า รุ่น Hybrid i-FORCE MAX อาจทำได้ราว 24–26 mpg (US) หรือประมาณ 10–11 กม./ลิตร รวมการใช้งาน EPA

หากแปลงเป็น NEDC ?

โดยทั่วไป NEDC จะให้ตัวเลขสูงกว่า EPA ราว 20–30% (เพราะเงื่อนไขการทดสอบเบากว่า ไม่เร่งแซง ไม่จำลองอากาศหนาวหรือเปิดแอร์)

  • EPA (คาดการณ์) : 10–11 กม./ลิตร

  • NEDC (เมื่อแปลง) : 12–14 กม./ลิตร

จุดเด่นของระบบนี้

  • แรงบิดมหาศาลรอบต่ำ – มอเตอร์ไฟฟ้าเสริมทันที ทำให้การออกตัวหรือลากจูงดีกว่าเครื่องยนต์เดิมมาก

  • สมดุลระหว่างพลังและความประหยัด – เทอร์โบเล็กช่วยลดการสิ้นเปลือง ส่วนมอเตอร์ช่วยเสริมแรงโดยไม่ต้องเผาผลาญเชื้อเพลิงเพิ่มมาก

  • โครงสร้างทนทาน – วิศวกรเน้นการใช้งานหนัก ออฟโรด และสภาพแวดล้อมสมบุกสมบัน

  • ประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวล – เกียร์ 8 สปีดทำงานร่วมกับมอเตอร์ได้อย่างต่อเนื่อง ไม่กระตุก

วิวัฒนาการและอนาคต

  • ใช้แล้วใน Toyota Tundra, Tacoma 2024, Sequoia, และคาดว่าจะตามไปถึง 4Runner รุ่นใหม่ปี 2025

  • โตโยต้ามองว่า i-FORCE MAX คือ “สะพาน” ระหว่างเครื่องยนต์สันดาปและรถไฟฟ้าเต็มรูปแบบ

  • ในอนาคตอาจได้เห็นระบบนี้พัฒนาเป็น Plug-in Hybrid หรือปรับจูนแรงม้าสูงขึ้นสำหรับรุ่น GR Performance

Advertisement Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้