ชาวเกาหลีใต้ ใช้ EV คุ้มค่า Hyundai Ioniq 5 2 ปี 9 เดือนวิ่งกว่า 579,362 กม. สภาพแบตฯ 87.7%

แบตเตอรี่รถไฟฟ้าเสื่อมคือประเด็นใหญ่ แต่ Hyundai Ioniq 5 คันนี้คือข้อยกเว้นที่น่าทึ่ง ในประเทศเกาหลีใต้
การเสื่อมของแบตเตอรี่ในรถยนต์ไฟฟ้าเป็นเรื่องจริงที่หลายคนกังวล เพราะค่าซ่อมเปลี่ยนแบตเตอรี่อาจสูงถึงหลักแสนหรือแม้แต่หลักล้านบาท แต่กรณีของคุณ Lee Young-Heum ชาวเกาหลีใต้ กลับเป็นเรื่องน่าทึ่ง เขาใช้รถ Hyundai Ioniq 5 ขับงานเป็นเซลส์เดินทางตลอดเวลา ภายในเวลา 2 ปี 9 เดือน เขาขับรถไปแล้วถึง 579,362 กิโลเมตร หรือกว่า 360,000 ไมล์ (เทียบเท่าระยะทางจากโลกไปถึงดวงจันทร์เลยทีเดียว!)
- 2 ปี 9 เดือนประมาณ 1,009 วัน หรือเฉลี่ยวันละ 574 กิโลเมตร
เรื่องนี้ไปเข้าตาของ Hyundai-Kia Research Institute ที่ขอรับรถไปตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่และระบบขับเคลื่อน ถึงแม้รถของ Lee จะยังไม่มีปัญหาอะไรเลย ทางบริษัทก็ตัดสินใจเปลี่ยนแบตเตอรี่และมอเตอร์ให้ฟรี เพื่อขอศึกษาชิ้นส่วนที่ผ่านการใช้งานหนัก
ผลตรวจพบว่า แบตเตอรี่ยังคงมีสภาพดีถึง 87.7% แม้จะถูกใช้งานหนักและชาร์จเร็วเป็นประจำ (ซึ่งโดยทั่วไปถือว่าเป็นภาระหนักสำหรับแบตเตอรี่)
“การพัฒนาแบตเตอรี่ต้องมีการสร้างโมเดลพยากรณ์ความทนทาน แล้วตรวจสอบว่าตรงกับผลใช้งานจริงหรือไม่ เราจึงตรวจสอบรถลูกค้าที่มีระยะทางสะสมสูง” — Yoon Dal-Young ผู้บริหารของ Hyundai กล่าว
ประหยัดค่าซ่อมบำรุงและค่าน้ำมันได้มหาศาล
Lee เล่าว่า สมัยใช้รถน้ำมัน ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก 15 วัน แถมยังต้องเปลี่ยนอะไหล่ระบบเครื่องยนต์และส่งกำลังอยู่เรื่อย ๆ แต่กับ Ioniq 5 เขาเปลี่ยนเพียง “ของสิ้นเปลืองพื้นฐาน” เท่านั้น
Hyundai คำนวณว่า หาก Lee ใช้ Tucson เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 เทอร์โบ ในระยะ 660,000 กม. จะต้องมี:
- เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง 66 ครั้ง
- เปลี่ยนหัวเทียน 8 ครั้ง
- เปลี่ยนน้ำมันเบรก 13 ครั้ง
- เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ 11 ครั้ง
- ยังไม่รวมอะไหล่สึกหรออื่น ๆ
ค่าบำรุงรักษาโดยรวมอยู่ที่ประมาณ 8,612 – 9,330 ดอลลาร์ (ประมาณ 285,000 – 309,000 บาท) ขณะที่ Ioniq 5 มีค่าใช้จ่ายเพียงประมาณ 1,076 ดอลลาร์ (ราว 35,000 บาท) เท่านั้น
ประหยัดค่าน้ำมันอีก 713,000 บาท
Hyundai ประเมินว่า หากใช้รถน้ำมัน Tucson ระยะทางเท่ากัน ต้องเสียค่าน้ำมันประมาณ 57,412 ดอลลาร์ (ราว 1.90 ล้านบาท) ส่วน Ioniq 5 ใช้ค่าไฟชาร์จเพียง 35,882 ดอลลาร์ (ราว 1.18 ล้านบาท) ประหยัดได้ถึง 21,530 ดอลลาร์ หรือประมาณ 713,000 บาท
ใช้งานดี แต่ก็มีอาการล้าบ้าง
หลังวิ่งไปถึง 416,940 ไมล์ หรือประมาณ 671,015 กม. ระบบชาร์จแบบช้า (AC) เริ่มมีปัญหา เพราะ On-board Charger หมดอายุการใช้งานตามธรรมชาติ แต่ตัวรถยังวิ่งได้ดี โดยตอนนี้ระยะทางขึ้นไปถึง 671,015 กม. แล้ว ถึงอย่างนั้น Lee ก็ได้เปลี่ยนงานใหม่ และใช้รถน้อยลง