ฝันใหญ่แต่ขายได้ 2 คัน ขาดทุน 1,587 ล้านบาท Faraday Future ใน Q1 2025

ฝันใหญ่แต่ขายได้ 2 คัน ขาดทุน 1,587 ล้านบาท Faraday Future ใน Q1 2025
Spread the love

Advertisement

Advertisement

สรุปข่าว Faraday Future (แบบสั้น เข้าใจง่าย):

  • Faraday Future เตรียมเปิดแบรนด์ใหม่ชื่อ FX ทำตลาดแมสมาร์เก็ต มีรุ่นเด่นเช่น Super One (มินิแวน), FX 6 (ครอสโอเวอร์), FX 5 (เริ่มต้น $20,000)
  • แต่บริษัทมี ปัญหาหนัก ทั้งด้านยอดขายและการเงิน
  • Q1/2025 ส่งมอบรถ ได้แค่ 2 คัน รายได้แค่ $300,000  9.87 ล้านบาท แต่ขาดทุน กว่า $48.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  หรือประมาณ 1,587 ล้านบาท
  • พยายามโชว์ข่าวดี เช่น ขยายตลาดไปฝั่งตะวันออก (เพราะมีลูกค้าในนิวยอร์ก 1 ราย)
  • เคยประกาศมีพรีออเดอร์จาก JC Auto 1,000 คัน แต่เอกสารระบุว่า อาจเหลือแค่ 2 คันจริง ๆ
  • พรีออเดอร์จาก Sky Horse Auto 300 คัน อาจเหลือแค่ 1 คัน แต่ได้ เงินมัดจำแบบไม่คืน $30,000 หรือ 987,000 บาท

Faraday Future วางแผนใหญ่เปิดตัวแบรนด์ใหม่ชื่อว่า “FX” เพื่อทำตลาดรถยนต์สำหรับกลุ่มแมส โดยมีไลน์อัปรุ่นใหม่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นมินิแวนรุ่น Super One, ครอสโอเวอร์ FX 6 และรุ่นเล็กสุด FX 5 ที่ตั้งราคาไว้ระหว่าง 20,000 ถึง 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 658,000 – 987,000 บาท

  • Faraday Future (FF) เป็นบริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าสัญชาติอเมริกัน ก่อตั้งขึ้นในปี 2014 โดยนักธุรกิจชาวจีน Jia Yueting มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย
  • ณ เดือนพฤษภาคม 2025 Faraday Future (FF) ยังไม่เข้าสู่กระบวนการล้มละลาย แต่สถานการณ์ทางการเงินของบริษัทก็ยังคงเปราะบางและต้องการการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ในช่วงต้นปี 2025 บริษัทได้รับเงินทุนใหม่จำนวน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสนับสนุนการเปิดตัวแบรนด์ย่อย Faraday X (FX) ซึ่งมุ่งเน้นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะในราคาที่เข้าถึงได้ และการพัฒนาเทคโนโลยี AI รวมถึงการขยายทีมงานและโครงสร้างพื้นฐาน

ดูเหมือนจะมีของใหม่เยอะ แต่ปัญหาคือ Faraday Future เองมีประวัติที่ไม่น่าประทับใจนัก และล่าสุดพวกเขาเพิ่งประกาศผลประกอบการไตรมาสแรก ซึ่ง…น่าหนักใจพอสมควร

แค่ไหนน่ะเหรอ? ไตรมาสแรกของปีนี้ พวกเขาส่งมอบรถได้ทั้งหมด “2 คัน” เท่านั้น (ใช่ครับ สองคันนั่นแหละ) ซึ่งน้อยกว่าหนึ่งคันต่อเดือนเสียอีก แต่บริษัทก็ยังออกมาโชว์ว่า “ขยายฐานลูกค้า” และบุกตลาดฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ ได้สำเร็จ ด้วยการส่งมอบรถที่นิวยอร์ก 1 คัน

เรียกว่าคิดบวกขั้นสุด แต่สถานการณ์ยิ่งแย่ลงกว่านั้น เพราะจากยอดขาย FF 91 ที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน รายได้จากการขายและเช่ารถทั้งหมดของบริษัทในไตรมาสนี้อยู่ที่แค่ 300,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 9.87 ล้านบาท)

และที่แย่ยิ่งกว่านั้น บริษัทขาดทุนยับเยิน โดยแม้ในข่าวประชาสัมพันธ์จะไม่ได้พูดตรง ๆ แต่ในสไลด์ทางการเงินมีตัวเลขซ่อนอยู่ — Faraday Future ขาดทุนสุทธิกว่า 48.2 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,587 ล้านบาท)

รายงานนี้เต็มไปด้วยคำเตือนสารพัด ตั้งแต่ “ประวัติขาดทุนต่อเนื่องและคาดว่าจะขาดทุนต่อไป” รวมถึงความเสี่ยงจากการดำเนินงานในจีน

ส่วนข่าวดีเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ยังพอมี คือพวกเขาได้ลงนามข้อตกลงพรีออเดอร์รถตู้ FX Super One จำนวน 1,000 คันกับ JC Auto — ฟังดูดีใช่ไหม? แต่ในหมายเหตุเขียนชัดว่า “อาจลงเอยแค่ 2 คัน”

ในทำนองเดียวกัน ข้อตกลงพรีออเดอร์กับ Sky Horse Auto ที่เคยประกาศไว้ว่าจะรับ 300 คัน ก็อาจกลายเป็นแค่ “1 คัน” เท่านั้น แต่ข้อดีคือ Sky Horse จ่ายมัดจำแบบไม่คืนเงินไว้แล้วถึง 30,000 ดอลลาร์ ซึ่งสำหรับบริษัทที่เงินฝืดอย่าง Faraday ก็ถือเป็นเงินก้อนใหญ่อยู่เหมือนกัน


แผนงาน Faraday Future ที่ยิ่งใหญ่ในปี 2025

ในปี 2025 Faraday Future ได้วางแผนกลยุทธ์ครั้งใหญ่เพื่อฟื้นฟูสถานะในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า โดยเน้นการขยายตลาดสู่ผู้บริโภคทั่วไปผ่านแบรนด์ใหม่ “Faraday X (FX)” และการผสานเทคโนโลยี AI อย่างลึกซึ้งในทุกมิติของผลิตภัณฑ์

Faraday X: แบรนด์ใหม่สำหรับตลาดแมส

หลังจากความสำเร็จในระดับพรีเมียมกับ FF 91 2.0 Futurist Alliance ที่มีราคาสูงถึง $309,000 Faraday Future ได้เปิดตัวแบรนด์ FX เพื่อเจาะตลาดรถยนต์ไฟฟ้าระดับกลางถึงล่าง โดยมีแผนเปิดตัว 3 รุ่นหลักภายในปี 2025

  • FX Super One: รถ MPV อัจฉริยะที่เน้นการใช้งานร่วมกับแพลตฟอร์ม ride-hailing และ fleet services
  • FX 5: รถ SUV ขนาดกลาง ราคาเริ่มต้นประมาณ $20,000–$30,000
  • FX 6: รถ SUV ขนาดใหญ่ ราคาอยู่ในช่วง $30,000–$50,000

รถเหล่านี้จะมาพร้อมกับเทคโนโลยี AI ขั้นสูงที่พัฒนาจาก FF 91 แต่ในราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้น

กลยุทธ์ AI: จากรถยนต์สู่แพลตฟอร์มอัจฉริยะ

Faraday Future ได้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น “Faraday Future AI Electric Vehicle Inc.” และเปลี่ยนสัญลักษณ์หุ้นเป็น FFAI เพื่อสะท้อนวิสัยทัศน์ใหม่ในการเป็นผู้นำด้าน AI Mobility

ไฮไลต์ของกลยุทธ์ AI ได้แก่:

  • FF AI OS: ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะที่รวมเอา AI agent เพื่อการโต้ตอบกับผู้ใช้แบบเรียลไทม์

  • AI Cabin & Bespoke AI: การปรับแต่งประสบการณ์ผู้โดยสารด้วย AI ที่เรียนรู้พฤติกรรมและความชอบของผู้ใช้

  • AI Driving: การพัฒนาเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติแบบ end-to-end บนแพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์ส

บริษัทได้จัดงาน “FF Open AI Day” ในเดือนมีนาคม 2025 เพื่อแสดงความก้าวหน้าในด้านนี้


ปี 2024 ขาดทุนรุนแรง

ในปี 2024 Faraday Future (NASDAQ: FFAI) รายงานผลขาดทุนสุทธิรวมทั้งปีอยู่ที่ 355.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 11,716 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากปี 2023 ที่มีผลขาดทุนสุทธิ 431.7 ล้านดอลลาร์ หรือ 14,215 ล้านบาท โดยการลดลงนี้มาจากการควบคุมต้นทุนในด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) และค่าใช้จ่ายทั่วไปและการบริหาร (G&A) ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

รายละเอียดทางการเงินที่สำคัญในปี 2024:

  • ขาดทุนจากการดำเนินงาน: 149.7 ล้านดอลลาร์ หรือ 4,929 ล้านบาท ลดลง 47.7% จากปี 2023 ที่มีขาดทุน 286.1 ล้านดอลลาร์ 9,421 ล้านบาท แสดงถึงความพยายามในการควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน
  • ค่าใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนา (R&D): ลดลง 106.8 ล้านดอลลาร์ หรือ 3,516 ล้านบาท โดยมีการลดจำนวนพนักงาน R&D และการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างองค์กรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ.
  • ค่าใช้จ่ายในการขายและการตลาด: ลดลง 13.6 ล้านดอลลาร์ หรือ 447 ล้านบาท จากการลดค่าใช้จ่ายในการชดเชยและค่าโฆษณา.
  • ค่าใช้จ่ายทั่วไปและการบริหาร (G&A): ลดลง 39.7 ล้านดอลลาร์ หรือ 1,307 ล้านบาท โดยลดค่าธรรมเนียมบริการวิชาชีพและค่าใช้จ่ายด้านประกันภัย.
  • รายได้รวม: 539,000 ดอลลาร์ หรือ 17.7 ล้านบาท ลดลงจาก 784,000 ดอลลาร์ หรือ 25.8 ล้านบาท ในปี 2023 เนื่องจากการส่งมอบรถยนต์ลดลงจาก 10 คันในปี 2023 เหลือ 6 คันในปี 2024
  • ต้นทุนรายได้: เพิ่มขึ้นเป็น 84 ล้านดอลลาร์ หรือ 2,766 ล้านบาท จาก 42.6 ล้านดอลลาร์ หรือ 1,402 ล้านบาท ในปี 2023 เนื่องจากค่าเสื่อมราคาที่สูงขึ้นและการเพิ่มขึ้นของต้นทุนองค์กร
  • กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน: ไหลออก 70.2 ล้านดอลลาร์ ลดลง 75% จากปี 2023 ที่มีการไหลออก 278.2 ล้านดอลลาร์
  • เงินสดไม่จำกัด: 7.2 ล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2024 โดยมีสถานะเงินทุนหมุนเวียนติดลบ 120.9 ล้านดอลลาร์ แสดงถึงความท้าทายด้านสภาพคล่อง .

สเปคของ Faraday Future FF 91

  • กำลังขับเคลื่อน: 1,050 แรงม้า จากมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว
  • อัตราเร่ง: 0-100 กม./ชม. ภายใน 2.27 วินาที
  • แบตเตอรี่: ความจุ 142 kWh
  • ระยะทางวิ่ง: ประมาณ 381 ไมล์ (613 กิโลเมตร) ตามมาตรฐาน EPA
  • การชาร์จ: รองรับการชาร์จเร็ว DC สูงสุด 500 kW
  • ขนาดตัวถัง: ยาว 5,250 มม., ฐานล้อ 3,200 มม.

Carscoop

Advertisement

Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้