DMZ เกาหลีเหนือ–เกาหลีใต้: เส้นแบ่งที่ตึงเครียดที่สุดในโลก

เขตปลอดทหารคาบสมุทรเกาหลี หรือ Demilitarized Zone (DMZ) เป็นพื้นที่ความยาวประมาณ 250 กิโลเมตร และกว้างราว 4 กิโลเมตร ที่แบ่งแยกเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้มาตั้งแต่สิ้นสุดสงครามเกาหลีในปี 1953 แม้จะถูกเรียกว่า “เขตปลอดทหาร” แต่ในความเป็นจริงกลับเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีกำลังพลและอาวุธหนักประจำการหนาแน่นที่สุดในโลก
DMZ ไม่ได้เป็นเพียงเส้นขีดบนแผนที่ แต่เป็นสัญลักษณ์ของความขัดแย้งที่ยังไม่สิ้นสุด และเป็นร่องรอยทางประวัติศาสตร์ของสงครามเย็นที่ยังคงมีชีวิตมาจนถึงปัจจุบัน
ประวัติและการก่อตั้ง
-
หลังสงครามเกาหลี (1950–1953) จบลงด้วย ข้อตกลงสงบศึก (Armistice Agreement) แต่ไม่มีการลงนามสัญญาสันติภาพอย่างเป็นทางการ
-
เส้นแบ่งแดนถูกกำหนดที่ เส้นขนานที่ 38 (38th Parallel) และมีการสร้าง DMZ เพื่อเป็น “กันชน” ป้องกันการปะทะโดยตรง
-
ทั้งสองฝั่งถอนกำลังออกจากเขตนี้ตามข้อตกลง แต่กลับนำไปสู่การเสริมกำลังอย่างมหาศาลบริเวณรอบๆ
โครงสร้างและการรักษาความปลอดภัย
-
แนวรั้วและเขตห้ามเข้า
-
เกาหลีใต้สร้างรั้วลวดหนามสูงหลายเมตร พร้อมกับกับดักรถถังและทุ่นระเบิด
-
เกาหลีเหนือมีแนวป้อมสังเกตการณ์และเขตสังหาร (kill zone) สำหรับหยุดผู้บุกรุก
-
-
ฐานทัพและป้อมสังเกตการณ์
-
มีป้อมตรวจการณ์และฐานทัพกระจายอยู่ทุกๆ ไม่กี่ร้อยเมตร
-
ใช้กล้องส่องระยะไกล, เรดาร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว, และระบบอินฟราเรด
-
-
อาวุธและกำลังพล
-
ทั้งสองฝั่งประจำการทหารหลายหมื่นนาย
-
เกาหลีเหนือมีกองกำลังพิเศษที่ฝึกซ้อมสำหรับเจาะแนว DMZ
-
เกาหลีใต้มีการสนับสนุนจากกองกำลังสหรัฐฯ ภายใต้ United States Forces Korea (USFK)
-
หมู่บ้านปันมุนจอม (Panmunjom)
จุดที่มีชื่อเสียงที่สุดใน DMZ คือ หมู่บ้านปันมุนจอม (หมู่บ้านสันติภาพ) ซึ่งเป็นสถานที่จัดเจรจาระหว่างสองเกาหลี
-
มี “อาคารสีฟ้า” ของสหประชาชาติที่ตั้งอยู่คร่อมเส้นแบ่งแดน
-
นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมได้ในบางโอกาส ภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวด
-
ที่นี่เคยเกิดเหตุการณ์ปะทะ รวมถึง “เหตุการณ์สังหารด้วยขวาน” ปี 1976
เหตุการณ์สำคัญและความตึงเครียด
-
1968: เกาหลีเหนือส่งหน่วยคอมมานโดพยายามลอบสังหารประธานาธิบดีเกาหลีใต้
-
1974–1978: พบอุโมงค์ลับจากเกาหลีเหนือหลายแห่ง ใต้ DMZ
-
1984: การยิงปะทะระหว่างทหารทั้งสองฝ่าย
-
ปัจจุบัน: แม้จะมีการประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำ แต่ความตึงเครียดยังคงอยู่
Advertisement Advertisement
ความหมายเชิงยุทธศาสตร์
-
DMZ เป็นเส้นแบ่งระหว่างค่ายประชาธิปไตยและค่ายคอมมิวนิสต์ในเอเชียตะวันออก
-
การรักษา DMZ ต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูงและการระดมทรัพยากรอย่างต่อเนื่อง
-
เป็น “แนวหน้า” ของความขัดแย้งที่ยังไม่ปิดฉากระหว่างสองระบอบการปกครอง
มิติด้านสิ่งแวดล้อม
แม้ DMZ จะเป็นพื้นที่ตึงเครียด แต่กลับกลายเป็นเขตอนุรักษ์ธรรมชาติอย่างไม่ตั้งใจ
-
ไม่มีการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์มานานกว่า 70 ปี
-
กลายเป็นถิ่นอาศัยของสัตว์ป่าหายาก เช่น นกกระเรียนมงกุฎแดง, หมีดำเอเชีย
DMZ ไม่ใช่เพียงเส้นแบ่งเขตแดน แต่เป็น “บาดแผลเปิด” บนคาบสมุทรเกาหลี ที่บอกเล่าประวัติศาสตร์สงครามเย็น ความขัดแย้งทางอุดมการณ์ และความหวังที่ยังไม่สมบูรณ์ในการรวมชาติ การคงอยู่ของมันเป็นเครื่องเตือนใจว่า สงครามอาจจบลงด้วยการหยุดยิง แต่ความตึงเครียดและความไม่ไว้วางใจสามารถดำรงอยู่ต่อไปอีกหลายชั่วอายุคน
สถานการณ์ปัจจุบันของ DMZ เกาหลีเหนือ–เกาหลีใต้ (ปี 2025)
ความตึงเครียดทางทหาร
-
แม้ไม่มีการปะทะขนาดใหญ่ตั้งแต่ยุค 2010s แต่ทั้งสองฝ่ายยังคงเสริมกำลังรอบ DMZ
-
เกาหลีเหนือ ยังคงติดตั้งปืนใหญ่พิสัยไกล, จรวดหลายลำกล้อง และขีปนาวุธใกล้เขต DMZ พร้อมซ้อมรบเป็นระยะ
-
เกาหลีใต้ มีระบบป้องกัน เช่น K9 Thunder (ปืนใหญ่อัตตาจร), ระบบป้องกันทางอากาศ และการลาดตระเวนด้วยโดรน
-
สหรัฐฯ ภายใต้ USFK ยังประจำการทหารราว 28,500 นายในเกาหลีใต้ คอยสนับสนุนด้านข่าวกรองและระบบอาวุธทันสมัย
เหตุการณ์เด่นช่วงไม่กี่ปีหลัง
-
2020–2021: เกาหลีเหนือระเบิดสำนักงานประสานงานระหว่างสองเกาหลีในเมืองแกซอง (ใกล้ DMZ) เพื่อประท้วงเกาหลีใต้
-
2022: มีการแลกเปลี่ยนการยิงเตือนบริเวณชายฝั่งตะวันตกและแนว DMZ หลังเรือเกาหลีเหนือรุกล้ำ
-
2023–2024: เกาหลีเหนือส่งดาวเทียมสอดแนมขึ้นวงโคจรและทดลองยิงขีปนาวุธใกล้ DMZ หลายครั้ง
-
ต้นปี 2025: เกาหลีใต้พบร่องรอยการขุดอุโมงค์ใหม่ใกล้เขต DMZ และเพิ่มการลาดตระเวนทางอากาศ
มาตรการความปลอดภัย
-
DMZ ปัจจุบันถูกเฝ้าดูตลอด 24 ชั่วโมงด้วย กล้องตรวจจับความร้อน, เรดาร์ภาคพื้นดิน, และโดรนลาดตระเวน
-
มีการซ้อมรบประจำปี เช่น Ulchi Freedom Shield ระหว่างเกาหลีใต้กับสหรัฐฯ ซึ่งเกาหลีเหนือมักตอบโต้ด้วยการซ้อมยิงขีปนาวุธ
-
เส้นเขตแดนบางจุดติดตั้งระบบตรวจจับเสียงฝีเท้าและแรงสั่นสะเทือนใต้ดิน
สถานะการเจรจา
-
หลังจากการประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำสองเกาหลีในปี 2018–2019 ความคืบหน้าในการเจรจาแทบหยุดนิ่ง
-
ปัจจุบัน ช่องทางสื่อสารระหว่างสองฝ่ายมักถูกตัดขาดและเปิดใช้อย่างไม่สม่ำเสมอ
-
เกาหลีเหนือยังคงปฏิเสธการเจรจาเรื่องการลดอาวุธ เว้นแต่สหรัฐฯ จะผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตร