“เม็กซิโกหักจีน” ปรับภาษีรถยนต์พุ่ง 50% – ศึกการค้าเดือดระอุ จีนพร้อมโต้ทุกมาตรการ

เม็กซิโกขึ้นภาษีรถยนต์จีน 50% – จีนโต้ทันควัน ศึกการค้ารอบใหม่ที่สะเทือนทั้งโลก
ใครว่าศึกการค้าระหว่างจีน–สหรัฐฯ จะซาลงแล้ว? ล่าสุดไฟเริ่มลามไปถึงเม็กซิโก เมื่อรัฐบาลเม็กซิโกประกาศแผนปรับขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์จากจีน (และบางประเทศในเอเชีย) จาก 20% เป็น 50% ซึ่งถือว่าเป็นระดับสูงสุดตามกฎหมายกำหนดทันที
ทางการเม็กซิโกอ้างว่าเป็นมาตรการเพื่อ ปกป้องแรงงานและการผลิตในประเทศ แต่เบื้องหลังกลับถูกมองว่าเป็นการ เดินตามแรงกดดันจากสหรัฐฯ โดยตรง
ทำไมเม็กซิโกต้องเลือกเส้นทางนี้?
เศรษฐกิจเม็กซิโกผูกพันกับสหรัฐฯ อย่างแน่นแฟ้น ไม่ว่าจะเป็นการค้าสินค้าอุตสาหกรรมหรือโดยเฉพาะ รถยนต์ที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ มหาศาล ทำให้เม็กซิโกไม่สามารถเพิกเฉยต่อเสียงกดดันจากวอชิงตันได้
นักวิเคราะห์เชื่อว่าเม็กซิโกกำลัง “ยอมเสียมิตรกับจีน เพื่อรักษาผลประโยชน์กับสหรัฐฯ” เพราะหากไม่ทำ อาจเสี่ยงที่จะถูกทรัมป์เก็บภาษีใส่รถยนต์เม็กซิโกที่เข้าสู่ตลาดอเมริกา
จีนโต้กลับทันควัน
ไม่รอช้า จีนออกแถลงการณ์ผ่านโฆษกกระทรวงการต่างประเทศว่า การกระทำของเม็กซิโกเป็น “การเคลื่อนไหวภายใต้แรงกดดันเพื่อจำกัดจีน” และประกาศว่าจะ ปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของตนเองอย่างเด็ดขาด
กระทรวงพาณิชย์จีนย้ำด้วยว่า หากเม็กซิโกยังเดินหน้าตามแผน จีนพร้อมตอบโต้ด้วย มาตรการทางการค้า (Countermeasures)
พูดง่าย ๆ คือ ศึกนี้ยังไม่จบ และอาจลุกลามกลายเป็น “สงครามย่อย” ระหว่างจีนกับเม็กซิโกไปพร้อม ๆ กับสงครามการค้าหลักระหว่างจีนกับสหรัฐฯ
โดนัลด์ ทรัมป์: ผู้อยู่เบื้องหลัง
ทรัมป์ถูกมองว่าเป็นคนวางเกมใหญ่ เพราะตั้งแต่ช่วงที่เขากลับมาเดินสายการเมือง เขายังคงใช้ “อาวุธภาษี” เป็นเครื่องมือทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมืองโลก
-
เขาเคยบอกตรง ๆ กับเจ้าหน้าที่เม็กซิโกว่า หากอยากเลี่ยงไม่ให้สหรัฐฯ เก็บภาษีรถยนต์เม็กซิโก ก็ควร เก็บภาษีสินค้าจีนเอง
Advertisement Advertisement -
ไม่เพียงแค่จีน แต่ยังเพิ่มภาษีสินค้านำเข้าจากอินเดียสองเท่า เพื่อลงโทษที่ยังซื้อน้ำมันจากรัสเซีย
-
และยังผลักดันให้สหภาพยุโรปพิจารณาเก็บภาษีสินค้าจีนและอินเดียสูงถึง 100% เพื่อกดดันให้รัสเซียยุติสงครามยูเครน
นี่ไม่ใช่แค่เรื่องการค้า แต่เป็นการใช้ ภาษีเป็นเครื่องมือเชิงภูมิรัฐศาสตร์ อย่างเต็มรูปแบบ
ผลสะเทือนต่ออุตสาหกรรมรถยนต์โลก
สำหรับจีน การถูกกีดกันจากตลาดเม็กซิโกอาจไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับตลาดสหรัฐฯ หรือยุโรป แต่เม็กซิโกคือ ฐานการผลิตยานยนต์สำคัญในอเมริกาเหนือ และยังเป็นเส้นทางที่จีนหวังใช้เพื่อเข้าตลาดสหรัฐฯ ทางอ้อม
การปิดเส้นทางนี้หมายถึง กลยุทธ์ “ประตูหลัง” ของจีนถูกปิดตายชั่วคราว และอาจทำให้บริษัทรถยนต์จีนต้องเร่งหาตลาดใหม่ในเอเชีย แอฟริกา หรือยุโรปตะวันออกแทน
โลกเข้าสู่ยุค “ภาษีคืออาวุธ”
กรณีเม็กซิโก–จีน จึงสะท้อนชัดเจนว่า โลกกำลังเข้าสู่ยุคที่ ภาษีศุลกากรไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือทางเศรษฐกิจ แต่เป็นอาวุธทางการเมือง ที่แต่ละประเทศหยิบมาใช้เพื่อสร้างแรงกดดันต่อกัน
-
เม็กซิโกใช้ภาษีเพื่อปกป้องแรงงาน แต่แท้จริงคือการเลือกข้าง
-
จีนใช้ภาษีตอบโต้ เพื่อแสดงพลังและรักษาภาพลักษณ์
-
สหรัฐฯ ใช้ภาษีเพื่อกดดันทั้งคู่ และบังคับให้พันธมิตรเดินตามเกม
ผลลัพธ์คือ เครือข่ายการค้าโลกสั่นสะเทือน และอุตสาหกรรมรถยนต์—ซึ่งเป็นเส้นเลือดหลักของหลายประเทศ—กลายเป็นสมรภูมิใหญ่
บทสรุป
ศึกภาษีรถยนต์ครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่เรื่อง “รถยนต์” แต่คือเกมการเมืองโลกที่พัวพันทั้ง จีน–เม็กซิโก–สหรัฐฯ–อินเดีย–ยุโรป
คำถามสำคัญคือ: หากศาลสูงสุดสหรัฐฯ ตัดสินว่าภาษีของทรัมป์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ภาพเกมนี้จะเปลี่ยนไปหรือไม่? และประเทศต่าง ๆ ที่ยอมเดินตามแรงกดดันของวอชิงตัน จะยังคง “เสียมิตร” กับจีนต่อไปอีกนานแค่ไหน?