Mitsubishi Eclipse Cross EV รีบูตใหม่ทั้งคัน จาก Coupe-SUV สู่ไฟฟ้า วิ่งได้ 600 กม./ชาร์จ WLTP ในยุโรป

Mitsubishi Eclipse Cross EV รีบูตใหม่ทั้งคัน จาก Coupe-SUV สู่ไฟฟ้า วิ่งได้ 600 กม./ชาร์จ WLTP ในยุโรป
Spread the love
Advertisement Advertisement

Advertisement Advertisement

 

Mitsubishi Eclipse Cross EV  จุดเปลี่ยนจาก SUV สายครอบครัวสู่ไฟฟ้าล้วนในยุโรป

อำลารุ่นเก่า เปิดทางให้ยุคใหม่

Mitsubishi Eclipse Cross รุ่นดั้งเดิมเปิดตัวครั้งแรกในปี 2017 ด้วยสไตล์ Coupe-SUV ที่มิตซูบิชิหวังให้เป็นทางเลือกสำหรับคนเมืองที่ต้องการความสปอร์ตและความอเนกประสงค์ แต่ตลอดเส้นทางการทำตลาด รถรุ่นนี้ไม่ได้โดดเด่นมากนัก ทั้งในแง่ยอดขายและภาพลักษณ์ บวกกับกระแสโลกที่หันสู่ รถยนต์ไฟฟ้า (EV) อย่างเต็มตัว ทำให้มิตซูบิชิตัดสินใจ “ปิดตำนาน Eclipse Cross รุ่นเครื่องยนต์สันดาป” แล้วรีบูตใหม่ทั้งหมดกับเจเนอเรชันสอง

รุ่นใหม่นี้ไม่ใช่แค่ไมเนอร์เชนจ์หรือการปรับปรุงเล็กน้อย แต่คือการ ยกเครื่องครั้งใหญ่ เปลี่ยนจาก ICE/PHEV มาสู่ EV เต็มรูปแบบ บนแพลตฟอร์ม CMF-EV ของ Renault-Nissan-Mitsubishi Alliance

ผลงานร่วม Renault – Mitsubishi

Eclipse Cross EV คือผลลัพธ์ของกลยุทธ์ “Badge Engineering” ที่มิตซูบิชินำมาใช้ในยุโรป เพื่อประหยัดต้นทุนการพัฒนา โดยใช้โมเดลของ Renault เป็นฐานแล้วปรับดีไซน์ให้เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ตนเอง

  • Colt = Renault Clio
  • ASX = Renault Captur
  • Grandis = Renault Symbioz
  • Eclipse Cross EV = Renault Scenic E-Tech

กลยุทธ์นี้สะท้อนถึงความจริงว่า มิตซูบิชิไม่ลงทุนสร้างโรงงานผลิตรถรุ่นใหม่เองในยุโรป แต่ใช้เครือข่ายของ Renault ที่ฝรั่งเศสแทน ทำให้สามารถเปิดตัวรุ่นใหม่ได้เร็วกว่า และใช้เทคโนโลยี EV ระดับแนวหน้าที่ Renault สั่งสมไว้

ดีไซน์ กลิ่นอาย Outlander ผสม Scenic

แม้พื้นฐานจะเป็น Scenic E-Tech แต่ทีมดีไซน์ของ Mitsubishi ได้ปรับด้านหน้าให้สะท้อน DNA ของแบรนด์

  • ไฟหน้า LED แบบ Split Design คล้ายกับ Outlander PHEV

  • กระจังหน้าแบบปิดทึบ ดีไซน์ลายเหลี่ยมเฉียบขาด สื่อถึงความทันสมัย

  • กันชนและช่องลมใหม่ เพิ่มบุคลิกบึกบึน

  • ไฟท้าย LED กราฟิกใหม่ เสริมด้วยงานสีดำเงา

ด้านข้างปรับสัดส่วนจาก Coupe-SUV เป็น SUV เต็มรูปแบบ ใช้งานได้จริงมากขึ้น เพิ่มคิ้วโครเมียมที่เสา D และล้ออัลลอยทรงล้ำอนาคตขนาด 19–20 นิ้ว

ขนาดตัวถัง

  • ยาว 4,470 มม. (สั้นกว่ารุ่นเดิมเล็กน้อย)

  • ฐานล้อ 2,785 มม. (ยาวขึ้นชัดเจน เพิ่มความกว้างขวางในห้องโดยสาร)

ภายใน เทคโนโลยีดิจิทัลพร้อมแต่งกลิ่นญี่ปุ่น

ห้องโดยสารยกโครงสร้างหลักจาก Scenic แต่ปรับรายละเอียดบางอย่างให้แตกต่าง

  • หน้าจอคู่ : เรือนไมล์ดิจิทัล 12.3 นิ้ว + อินโฟเทนเมนต์แนวตั้ง 12 นิ้ว (Google Built-in เช่น Maps, Assistant, Play Store)

  • วัสดุภายในใหม่ : มิตซูบิชิใส่สีและลายเบาะพิเศษ เพื่อสร้างเอกลักษณ์

  • ฟีเจอร์เด่น : หลังคากระจก Electrochromic, ระบบไฟ Ambient LED, เครื่องเสียง Harman Kardon

  • พื้นที่บรรทุก : 478 – 1,670 ลิตร ปรับเบาะหลังได้

ยังมี ADAS ครบชุด เช่น ระบบกึ่งอัตโนมัติบนทางหลวง, ระบบเบรกฉุกเฉิน, Adaptive Cruise Control

สมรรถนะและเทคโนโลยี EV

ใช้แพลตฟอร์ม CMF-EV (Ampr Medium) ที่แบ่งปันกับ Renault Scenic/Megane และ Nissan Ariya

  • รุ่นหลัก (2025)

    • มอเตอร์ไฟฟ้าหน้า 215 แรงม้า (160 kW / 218 PS)

    • แบตเตอรี่ 87 kWh

    • ระยะทางวิ่ง 600 กม. (WLTP)

    • ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ

    • รองรับชาร์จเร็ว DC สูงสุด 150 kW

  • รุ่นรอง (2026)

    • มอเตอร์ 168 แรงม้า (125 kW / 170 PS)

    • แบตเตอรี่ 60 kWh

    • วิ่งได้ระยะสั้นกว่า เหมาะกับลูกค้างบจำกัด

การผลิตและอนาคต

Eclipse Cross EV จะผลิตที่ โรงงาน Douai, ฝรั่งเศส ร่วมสายการผลิตกับ Renault Scenic E-Tech, Megane E-Tech, Alpine A290, R5 และ Nissan Micra EV การผลิตเริ่ม Q4 ปี 2025

สำหรับตลาดนอกยุโรป มิตซูบิชิยืนยันว่าจะทำ SUV ไฟฟ้ารุ่นใหม่ สำหรับอเมริกาเหนือ เปิดตัวกลางปี 2026 ใช้พื้นฐานร่วมกับ Nissan Leaf รุ่นใหม่

บทวิเคราะห์ Mitsubishi กำลังกลับมา?

การเปิดตัว Eclipse Cross EV คือการปรับบทบาทของมิตซูบิชิในยุโรป จากแบรนด์ที่เคยถอนตัวไปช่วงหนึ่ง กลับมาด้วยกลยุทธ์ ร่วมพัฒนา ไม่สร้างเอง เพื่อรักษาตำแหน่งในตลาด

  • จุดแข็ง: ใช้เทคโนโลยี Renault ที่ทันสมัย, ดีไซน์ญี่ปุ่นที่คนยุโรปยังชื่นชอบ

  • จุดท้าทาย: ต้องแข่งขันกับคู่แข่ง EV Compact SUV อย่าง Volkswagen ID.4, Hyundai Kona EV, Kia Niro EV, Tesla Model Y รุ่นเริ่มต้น

หาก Eclipse Cross EV ประสบความสำเร็จ มันจะเป็นแรงผลักดันให้มิตซูบิชิกลับมาแข็งแรงในยุโรปอีกครั้ง

Advertisement Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้