NISSAN เตรียมปลุก Xterra คืนชีพ! รถลุยในตำนาน พร้อมเปิดตัวปี 2027 ดีไซน์เหลี่ยม บึกบึน ดิบเท่

Nissan Xterra เจเนอเรชันใหม่ เตรียมคืนชีพปี 2028 — ขุมพลังไฮบริด, ดีไซน์เหลี่ยมบึกบึน, พร้อมชน Ford Bronco และ Toyota 4Runner

หลังจากหายไปจากตลาดนานกว่า 10 ปี “Nissan Xterra” SUV สายลุยระดับตำนานของค่ายนิสสัน เตรียมกลับมาอีกครั้งในเจเนอเรชันที่ 3 โดยมาพร้อมโครงสร้างแบบ Body-on-Frame ที่แข็งแกร่ง, ขุมพลัง V6 Hybrid, และแนวทางการออกแบบใหม่ที่ยังคงกลิ่นอายของรุ่นในตำนานช่วงยุค 2000 อย่างครบถ้วน

Nissan ต้องกลับมาพร้อม “ของจริง”

หลังจากช่วงหลายปีที่ผ่านมา Nissan ต้องเผชิญความท้าทายด้านยอดขายและผลประกอบการในตลาดอเมริกาเหนือ บริษัทจึงวางแผนฟื้นฟูแบรนด์ด้วยรถยนต์รุ่นใหม่ที่โดดเด่นและทำกำไรได้สูง ซึ่งหนึ่งในหัวใจสำคัญของแผนนี้คือการคืนชีพให้กับชื่อ “Xterra” — SUV ขับเคลื่อนสี่ล้อที่เคยเป็นสัญลักษณ์ของการผจญภัยในยุค 2000

ในตลาดอเมริกา รถประเภท Rugged Off-Road SUV (สายลุยแท้บนเฟรม) กำลังกลับมาบูมอีกครั้ง เช่น Ford Bronco ที่เพิ่งทำยอดขายไตรมาส 3 สูงสุดในประวัติศาสตร์ของตนเอง เพิ่มขึ้นกว่า 42% ในปีนี้ หรือแม้แต่ Toyota 4Runner และ Jeep Wrangler ก็ยังคงทำยอดได้อย่างมั่นคง — นี่จึงเป็นโอกาสทองที่ Nissan จะกลับมาชิงส่วนแบ่งตลาดกลุ่มนี้

สร้างในอเมริกา เคียงข้าง Nissan Frontier

Xterra รุ่นใหม่จะถูกสร้างขึ้นที่โรงงาน Canton, Mississippi (สหรัฐอเมริกา) ซึ่งเป็นโรงงานเดียวกับที่ผลิตกระบะ Nissan Frontier ทำให้แน่นอนว่า SUV รุ่นนี้จะใช้แพลตฟอร์มเดียวกัน

พื้นฐานของ Frontier คือโครงสร้างแบบ Body-on-Frame ที่ทนทานต่อแรงบิดและเหมาะสำหรับการลุยในทุกสภาพถนน ตั้งแต่เส้นทางหิน ไปจนถึงโคลนลึก Xterra รุ่นใหม่จึงจะสืบทอด “สายเลือดกระบะลุย” แบบเต็มตัว

Nissan คาดว่าจะใช้เครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.8 ลิตร (310 แรงม้า, 380 นิวตัน-เมตร ) จาก Frontier เป็นฐาน และเพิ่มเติมระบบ Hybrid เข้าไปเพื่อให้เหมาะกับมาตรฐานการปล่อยไอเสียยุคใหม่ รวมถึงตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการแรงม้าและความประหยัดในเวลาเดียวกัน

ดีไซน์เหลี่ยม แข็งแรงแบบดิบเท่

หนึ่งในเอกลักษณ์ของ Xterra รุ่นเก่าคือ “ความเหลี่ยมและดิบ” ที่ไม่เหมือนใคร Nissan จึงต้องออกแบบรุ่นใหม่ให้คงอารมณ์เดิมไว้

• ด้านหน้าคาดว่าจะได้แรงบันดาลใจจาก Frontier และ Armada

• เส้นสายด้านข้างเหลี่ยมคมแบบ “กล่องเหล็กพร้อมลุย”

  Advertisement Advertisement

• และอาจกลับมาพร้อม “หลังคานูนสองระดับ” ที่เคยเป็นเอกลักษณ์ของ Xterra รุ่นก่อน — ส่วนแรกยกสูงบริเวณผู้โดยสารแถวหลัง เพื่อให้ได้พื้นที่ศีรษะเพิ่มขึ้นและรองรับระบบที่นั่ง “แบบสเตเดียม” (แถวหลังสูงกว่าแถวหน้า)

แนวทางนี้จะช่วยให้ Xterra ยังคงมีภาพลักษณ์เฉพาะตัว แตกต่างจาก SUV ทั่วไปที่เริ่มกลายเป็นรถครอบครัวมากกว่ารถลุยจริง

ห้องโดยสารในแบบ “ลุยได้ แต่ดูดี”

ภายในห้องโดยสารของ Xterra ใหม่คาดว่าจะใช้โครงสร้างเดียวกับ Frontier แต่ปรับวัสดุและฟังก์ชันให้หรูขึ้น

• หน้าจออินโฟเทนเมนต์ขนาดใหญ่ (อาจมีให้เลือก 8 และ 12 นิ้ว)

• คอนโซลกลางขนาดใหญ่พร้อมที่วางแขนและช่องเก็บของ

• วัสดุตกแต่งเน้นผิวสัมผัสทนทาน เหมาะกับการใช้งานหนัก

• ที่นั่งแถวหลังพับได้ 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระ

• และอาจติดตั้ง First-Aid Kit (ชุดปฐมพยาบาล) ซึ่งเป็นของเด่นในรุ่นก่อนหน้า

ขุมพลังไฮบริดที่ยังเป็นปริศนา

แม้ตอนนี้ Nissan ยังไม่มีรถรุ่นไหนที่ใช้ระบบ V6 Hybrid มาก่อน แต่คาดว่า Xterra จะเป็น “รถทดลองเทคโนโลยีใหม่” ของค่าย แรงม้ารวมอาจอยู่ราว 350–370 แรงม้า ซึ่งมากพอจะชนกับคู่แข่งอย่าง

• Toyota 4Runner Hybrid (326 แรงม้า)

• Ford Bronco EcoBoost

• และ Jeep Wrangler 4xe Plug-in Hybrid (375 แรงม้า)

ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ, ช่วงล่างปรับได้, และโหมดการขับแบบ “Off-Road Mode” น่าจะเป็นมาตรฐานในรุ่นสูงสุดของ Xterra

เปิดตัว 2027 — จำหน่ายจริง 2028

Nissan ยังไม่ระบุวันเปิดตัวแน่ชัด แต่ภายในเอกสารภายในระบุว่า Xterra รุ่นใหม่นี้จะเข้าสู่ตลาดในปี 2028 ซึ่งหมายความว่าเราน่าจะได้เห็นตัวจริงในช่วงปี 2027

ราคาเริ่มต้นราว 40,000 ดอลลาร์

Nissan Frontier เริ่มต้นที่ 33,845 ดอลลาร์, ขณะที่ Armada เริ่มต้นที่ 61,030 ดอลลาร์ (รุ่นปี 2026) ดังนั้น Xterra จะวางตำแหน่งตรงกลางในไลน์อัพ SUV ของ Nissan

คาดว่าราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ $40,000 – $45,000 (ราว 1.30 – 1.46 ล้านบาท) และถ้าเป็นรุ่น Hybrid หรือ Plug-in Hybrid (PHEV) ราคาน่าจะขยับแตะ $50,000 (ราว 1.8 ล้านบาท) ซึ่งยังถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับคู่แข่งสายลุยระดับเดียวกัน

จุดยืนใหม่ของ Nissan ในตลาดอเมริกา

การกลับมาของ Xterra ไม่ได้เป็นเพียงการปลุกชื่อเก่าขึ้นมาเท่านั้น แต่มันคือ “สัญลักษณ์ของการเริ่มต้นใหม่” ของ Nissan ในตลาดอเมริกาเหนือ — ตลาดที่เคยเป็นฐานสำคัญของค่ายแต่ถูก Toyota, Ford และ Jeep แย่งส่วนแบ่งไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

หาก Nissan ทำได้ดี Xterra ใหม่อาจกลายเป็น “หมากตัวสำคัญ” ที่ช่วยฟื้นภาพลักษณ์ความแกร่งของแบรนด์ในสายตาผู้บริโภคชาวอเมริกันอีกครั้ง

สรุปสเปกคาดการณ์ Nissan Xterra 2028

Motor1