แผ่นกันกระแทกแบต EV ติดคุ้ม หรือ เสี่ยง ? อย่าหลงคำว่า ‘ของแท้จากจีน’ ถ้าไม่มีใบรับรองศูนย์ – หมดประกันแน่

แผ่นกันกระแทกแบต EV ติดคุ้ม หรือ เสี่ยง ? อย่าหลงคำว่า ‘ของแท้จากจีน’ ถ้าไม่มีใบรับรองศูนย์ – หมดประกันแน่
Spread the love
Advertisement Advertisement

จุดเริ่มต้นของปัญหา ทำไม “แผ่นกันกระแทก” กลายเป็นประเด็นร้อนในยุครถไฟฟ้า

ในอดีต รถยนต์เครื่องยนต์สันดาป (ICE) วางเครื่องไว้ด้านหน้า หากเกิดการกระแทกใต้ท้องรถ ส่วนใหญ่เสียหายเพียงแค่ อ่างน้ำมันเครื่องหรือท่อไอเสีย ซึ่งซ่อมได้ไม่ยาก แต่เมื่อยุคของ รถยนต์ไฟฟ้า (EV) มาถึง โครงสร้างกลับเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง แบตเตอรี่แรงดันสูงขนาดใหญ่ถูกติดตั้งไว้ “ใต้พื้นรถ” เพื่อให้ศูนย์ถ่วงต่ำและเพิ่มพื้นที่ห้องโดยสาร ผลลัพธ์คือ ใต้ท้องรถกลายเป็น หัวใจของระบบขับเคลื่อนทั้งคัน

ด้วยเหตุนี้เอง การกระแทกเพียงครั้งเดียวจาก หิน เศษเหล็ก หลุม หรือทางขรุขระ อาจสร้างความเสียหายที่มีราคาซ่อมสูงมาก  บางกรณีถึงขั้น ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ทั้งแพ็ก ซึ่งมูลค่าหลักแสนบาทขึ้นไป

ผู้ใช้หลายคนจึงเริ่มมองหา “วิธีป้องกันไว้ก่อน” และหนึ่งในทางเลือกยอดนิยมก็คือการติด แผ่นกันกระแทก (Under Guard หรือ Skid Plate) เพื่อเพิ่มความมั่นใจเวลาใช้งานจริง

แต่ในความเป็นจริง การติดตั้งอุปกรณ์นี้ “ไม่ใช่เรื่องเล็ก” เพราะอาจส่งผลต่อระบบสำคัญของรถโดยตรง ทั้งในด้านความปลอดภัย ระบบระบายความร้อน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การรับประกันจากโรงงาน

เข้าใจหน้าที่ของ “แผ่นกันกระแทก” ให้ถูกก่อน

โดยหลักการแล้ว แผ่นกันกระแทกไม่ได้ออกแบบมาให้ รับแรงชนโดยตรง แต่ทำหน้าที่ “กระจายแรงกระแทก” หรือ “เบี่ยงเศษวัสดุ” ออกไปจากจุดสำคัญ เช่น มอเตอร์ไฟฟ้า อินเวอร์เตอร์ หรือขั้วต่อแบตเตอรี่

วัสดุที่ใช้มีตั้งแต่

  • เหล็กเคลือบกันสนิม – แข็งแรงแต่หนัก
  • อะลูมิเนียม – เบา ระบายความร้อนได้ดี
  • คาร์บอนไฟเบอร์ / คอมโพสิต – น้ำหนักเบา แต่ราคาแพง
  • พลาสติกวิศวกรรม (HDPE, ABS) – กันเศษวัสดุได้ดีแต่ไม่ทนแรงชนหนัก

ในรถยนต์ไฟฟ้า ผู้ผลิตมักออกแบบแผงป้องกันมาแล้วในระดับหนึ่งจากโรงงาน โดยเฉพาะในบริเวณแบตเตอรี่ ซึ่งมีทั้งโครงเหล็กและแผ่นปิดอลูมิเนียมหลายชั้น การไปเพิ่ม “แผ่นอีกชั้นหนึ่ง” หากไม่ได้ออกแบบให้เหมาะสม อาจไม่เพียงแค่ไม่ช่วย  แต่ยัง รบกวนระบบอื่นที่ซ่อนอยู่ใต้ท้องรถ ด้วย

ปัญหาทางเทคนิคที่เกิดขึ้นจริงจากการติดตั้งผิดวิธี

การระบายความร้อนของแบตเตอรี่

  • แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนในรถ EV ถูกควบคุมอุณหภูมิอย่างละเอียดผ่านระบบหล่อเย็นและช่องลมใต้ท้องรถ หากแผ่นกันกระแทก ปิดช่องลม หรืออยู่ใกล้เกินไป อุณหภูมิจะสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเมื่อวิ่งทางไกลหรือขึ้นเขา ผลคือระบบจะเข้าสู่โหมด “ป้องกันความร้อน” (derating) ลดกำลังขับ และในระยะยาวทำให้ อายุแบตเตอรี่สั้นลง

การรับแรงกระแทกผิดทิศ

  • แผ่นเหล็กที่หนาเกินไปหรือยึดผิดตำแหน่ง อาจเปลี่ยนเส้นทางการส่งแรงชน แทนที่แรงจะกระจายไปยังโครงสร้างหลักของตัวถัง กลับส่งแรงเข้าสู่ “กรอบแบตเตอรี่” โดยตรง ซึ่งเป็นส่วนที่ไม่ออกแบบมาให้รับแรงลักษณะนั้น ทำให้เกิดรอยร้าวหรือ deformation ได้

การเสียดสีสายไฟแรงดันสูง (HV Wiring)

  • ระบบสายไฟแรงดันสูง (สีส้ม) ของรถ EV วิ่งอยู่ใต้ท้องและเชื่อมระหว่างแบตเตอรี่-มอเตอร์-อินเวอร์เตอร์ ถ้าแผ่นแต่งมีขอบคม หรือติดแน่นจนบาดสายไฟแรงดันสูง จะเกิดความเสี่ยง “ช็อตไฟฟ้าแรงสูง” ได้ทันที ในกรณีนี้ ศูนย์บริการจะถือว่าเป็น การดัดแปลงที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อระบบไฟฟ้าแรงดันสูง และไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน

การปิดช่องระบายน้ำ

  • ผู้ผลิตรถออกแบบ “รูระบายน้ำใต้ท้อง” เพื่อกันน้ำขังภายหลังลุยฝน แผ่นที่ปิดทึบทั้งหมดทำให้เกิดการสะสมความชื้น → เกิดสนิม → กระทบทั้งชุดแบตเตอรี่และโครงช่วงล่าง

น้ำหนักเพิ่มและระยะห่างใต้ท้องลดลง

  • แผ่นเหล็กหรือสแตนเลสหนา ๆ เพิ่มน้ำหนักได้มากถึง 10–25 กิโลกรัม น้ำหนักส่วนนี้กดช่วงล่างโดยตรง และทำให้ความสูงใต้ท้องลดลง 1–2 เซนติเมตร ซึ่งเพียงพอให้เกิดการ “ครูดพื้น” ได้บ่อยขึ้น

มุมมองจาก “ฝั่งผู้ผลิต” ทำไมถือว่าเป็นการดัดแปลงรถยนต์

ในเอกสารคู่มือรับประกันของแทบทุกค่ายรถ EV ระบุชัดเจนว่า

“การติดตั้งอุปกรณ์เสริมที่ไม่ได้รับการรับรองจากผู้ผลิต อาจส่งผลให้สิ้นสุดการรับประกันคุณภาพในส่วนที่เกี่ยวข้อง”

เหตุผลคือ

Advertisement Advertisement
  • ผู้ผลิตได้ทดสอบความปลอดภัย การระบายความร้อน และการรับแรงเฉพาะกับโครงสร้างเดิม
  • อุปกรณ์ภายนอกที่ไม่อยู่ในมาตรฐานการทดสอบเดิม อาจทำให้ผลการป้องกันเปลี่ยนไป
  • หากเกิดปัญหา เช่น แบตเตอรี่ร้อนจัด หรือระบบตัดไฟ ทำงานผิดปกติ ผู้ผลิตไม่สามารถรับผิดชอบได้ เพราะไม่ใช่สภาพเดิมจากโรงงาน

กรณีนี้ ศูนย์บริการมีสิทธิ์ปฏิเสธการรับประกันทันที โดยเฉพาะหากตรวจพบว่าอุปกรณ์เสริมที่ติดตั้ง “มีส่วนเกี่ยวข้องกับความเสียหาย”

มุมมองจาก “ฝั่งประกันภัย” — ทำไมอาจไม่คุ้มครอง

บริษัทประกันภัยชั้นหนึ่งจะระบุในกรมธรรม์เสมอว่า

“ไม่คุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากการดัดแปลงรถยนต์โดยไม่ได้รับแจ้งหรือไม่ได้รับอนุมัติ”

ดังนั้น หากเกิดอุบัติเหตุและตรวจพบว่า

  • รถมีอุปกรณ์แต่งใต้ท้อง
  • อุปกรณ์นั้นทำให้การเสียหายรุนแรงขึ้น
  • หรือเป็นสาเหตุทางอ้อมของการชำรุด

บริษัทประกันสามารถ “ปฏิเสธความคุ้มครองบางส่วน” ได้ เช่น เคสที่รถชนลูกระนาด แผ่นแต่งเด้งงัดจนปลั๊กแบตเตอรี่แตก → บริษัทประกันอาจคุ้มครองเฉพาะตัวถัง ไม่ครอบคลุมค่าแบตเตอรี่ เพราะถือว่า “ความเสียหายเกิดจากอุปกรณ์ดัดแปลง”

หลักวิศวกรรมการออกแบบของโรงงาน ทำไมโรงงานผู้ผลิตไม่ต้องเสริมเองตั้งแต่แรก

ผู้ผลิตรถ EV แต่ละค่ายลงทุนจำนวนมหาศาลในการออกแบบ Battery Pack Protection Structure เช่น

  • ใช้โครงอลูมิเนียมหล่อ (Cast Frame) ป้องกันแรงบิดจากพื้น
  • มี crash beam ด้านหน้าและด้านหลังแพ็ค
  • แผ่นกันกระแทกชั้นในทำจากวัสดุซับแรงชน (Energy Absorption Layer)
  • ทดสอบการชนมาตรฐาน UNECE R100, R94, R95

นอกจากนี้ยังมี “ท่อระบายความร้อนและอากาศ” ที่วิ่งใต้ท้องเพื่อรักษาอุณหภูมิให้สมดุล หากไปติดตั้งของเสริมปิดทับโดยไม่เข้าใจการออกแบบ อาจไปขวางทิศทางลมที่จำเป็นต่อการระบายความร้อนของแบตเตอรี่

ดังนั้นโรงงานจึงออกแบบให้ เพียงพอต่อการใช้งานถนนทั่วไป อยู่แล้ว และในกรณีรถ EV ที่ต้องการการป้องกันมากกว่า เช่น SUV หรือ Off-Road EV โรงงานจะมี รุ่นย่อยที่ติดตั้งแผ่นกันกระแทกจากโรงงาน (OEM Skid Plate) ซึ่งผ่านการทดสอบความร้อนและแรงกระแทกแล้ว

ความแตกต่างระหว่าง “ติดตั้งโดยศูนย์” และ “ร้านแต่งทั่วไป”

ประเภท ลักษณะ ผลต่อประกัน
ติดตั้งโดยศูนย์ / ใช้อะไหล่แท้ที่ได้รับอนุมัติ มีการบันทึกในระบบและมีใบรับประกัน ประกันยังคงอยู่ครบถ้วน
ติดตั้งโดยร้านนอก / ของแต่งไม่มีสเปกการทดสอบ ไม่ผ่านการตรวจสอบแรงกระแทกหรือความร้อน อาจหมดประกันเฉพาะส่วนแบตเตอรี่หรือระบบขับเคลื่อน
ติดตั้งเอง / ดัดแปลงแผ่นทั่วไป ไม่มีข้อมูลวัสดุหรือแรงยึด หมดประกันแน่นอนหากเกิดความเสียหายเกี่ยวข้อง

กรณีศึกษาในไทยและต่างประเทศ

กรณีในไทย มีผู้ใช้ EV รายหนึ่งติดตั้งแผ่นเหล็กเต็มพื้นที่ใต้ท้องจากร้านแต่งทั่วไป หลังใช้งานไป 6 เดือน ระบบแจ้งเตือน “Battery Overheat” บ่อยครั้ง เมื่อเข้าศูนย์ตรวจสอบ พบว่าแผ่นเหล็กปิดทับช่องระบายลมจากแบตเตอรี่ ทำให้อุณหภูมิภายในสูงเกินค่ามาตรฐาน ผลคือ ศูนย์ปฏิเสธการเคลมแบตเตอรี่ในประกัน 8 ปี เพราะถือว่าเกิดจากการดัดแปลง

กรณีต่างประเทศ Tesla เคยออกประกาศเตือนในปี 2021 ว่า “การติดตั้งแผ่นกันกระแทกใต้แบตเตอรี่จากผู้ผลิตภายนอก อาจกระทบต่อระบบ Thermal Management และทำให้สิ้นสุดการรับประกันในส่วนแบตเตอรี่ทันที”

หากต้องการติดจริง ควรทำอย่างไรให้ปลอดภัยและไม่หมดประกัน

  • ตรวจสอบคู่มือหรือสอบถามศูนย์โดยตรง ว่ามีอุปกรณ์เสริมที่ได้รับอนุมัติหรือไม่
  • ใช้ของที่ออกแบบสำหรับรุ่นนั้นโดยเฉพาะ (ไม่ใช้ของรุ่นอื่นหรือแผ่นเหล็กทั่วไป)
  • ติดตั้งโดยศูนย์บริการ เพื่อให้มีบันทึกในระบบ
  • ขอใบรับรองการติดตั้ง (Installation Report) ระบุหมายเลขตัวรถ วันที่ติดตั้ง และผู้รับผิดชอบ
  • แจ้งบริษัทประกันภัย ให้บันทึกของแต่งในกรมธรรม์
  • ตรวจสอบจุดยึดและแรงบิดน็อต ตามมาตรฐานโรงงาน เพื่อป้องกันการสั่นหรือกระแทก

ทางเลือกอื่นแทนการติดแผ่นกันกระแทก

หากวัตถุประสงค์คือ “เพิ่มความมั่นใจเวลาใช้รถ” โดยไม่อยากเสี่ยงหมดประกัน สามารถเลือกแนวทางดังนี้แทนได้

  • ขับด้วยความเร็วต่ำเมื่อผ่านลูกระนาดหรือพื้นขรุขระ
  • ติดตั้งเซนเซอร์ตรวจระยะ (underbody camera / 360° view)
  • ตรวจเช็กใต้ท้องเป็นประจำหลังขับทางขรุขระ
  • ล้างคราบโคลน/เศษหินใต้ท้องรถหลังเดินทางไกล

แผ่นกันกระแทกอาจดูเหมือนของแต่งเล็ก ๆ แต่ในรถไฟฟ้าแล้ว มันคืออุปกรณ์ที่อยู่ “ใกล้หัวใจของระบบพลังงานมากที่สุด” การติดตั้งผิดวิธีสามารถส่งผลต่อทั้งความปลอดภัยและสิทธิ์ในการรับประกันได้โดยตรง

หากต้องการติดจริง ให้ยึดหลัก 3 ข้อจำง่าย ๆ

  • ถามศูนย์ก่อนทุกครั้ง — อย่าคิดว่าเหมือนรถน้ำมัน
  • ใช้ของแท้หรือผ่านการอนุมัติเท่านั้น
  • แจ้งบริษัทประกันภัยให้รับทราบล่วงหน้า

เพราะในยุครถยนต์ไฟฟ้าที่ซับซ้อนกว่าที่เคย “การแต่งโดยไม่ตรวจสอบ” อาจมีราคาที่ต้องจ่ายแพงกว่าที่คิด ทั้งในแง่เงินและความปลอดภัยของตัวคุณเอง

Advertisement Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้