FORD ยกเลิก 2.0 เทอร์โบเดี่ยว ในออสเตรเลีย เปิดทางให้ Bi-Tubo และ V6 3.0 ยึดตลาด


Ford Australia ปรับโครงสร้างเครื่องยนต์ Ranger / Everest ครั้งใหญ่ ยกเลิก 2.0 เทอร์โบเดี่ยว ดัน V6 3.0 ดีเซลขึ้นแท่นหัวหอก พร้อมอัปเกรด 2.0 Turbo เดี่ยว
Ford Australia ประกาศการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในไลน์เครื่องยนต์ของ Ford Ranger และ Ford Everest ซึ่งถือเป็นสองรุ่นหลักที่มียอดขายรวมกันหลายหมื่นคันต่อปี โดยการปรับใหม่ครั้งนี้จะ ยกเลิกการทำตลาดเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร Bi-Turbo ที่เคยใช้ในหลายรุ่นย่อย และจะขยายการติดตั้ง เครื่องยนต์ดีเซล V6 3.0 ลิตรเทอร์โบ ให้ครอบคลุมรุ่นมากขึ้น
พร้อมกันนี้ เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร Turbo เดี่ยว จะได้รับการอัปเกรดทั้งระบบหัวฉีดและโซ่ไทม์มิ่ง พร้อมจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ เช่นเดียวกับเครื่องยนต์ระดับสูง
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ถูกมองว่าเป็น “จุดเปลี่ยนด้านพลังขับเคลื่อนของ Ranger และ Everest” และอาจส่งผลต่อสมดุลของตลาดกระบะและ PPV ทั่วทั้งออสเตรเลีย
ทำไม 2.0 เทอร์โบเดี่ยว ถึงถูกถอดออก?
เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.0 ลิตร แบบเทอร์โบเดี่ยว (Single-Turbo Diesel) ห้กำลังสูงสุด 170 PS และแรงบิดสูงสุด 405 Nm เคยเป็นไฮไลต์ของ Ranger รุ่น T6 เจเนอเรชันก่อน และเป็นหนึ่งใน “จุดขายด้านสมรรถนะและอัตราสิ้นเปลือง” เนื่องจากให้แรงบิดใกล้เคียงเครื่องยนต์ 3.0–3.2 ลิตรในยุคก่อน แต่ขนาดความจุเพียง 2.0 ลิตร ทำให้ภาษีน้อยกว่าและประหยัดน้ำมันกว่า
อย่างไรก็ตาม มีสัญญาณหลัก 3 อย่างที่ทำให้ Ford ตัดสินใจถอดออก
| ปัจจัย | รายละเอียด |
|---|---|
| ต้นทุน | ระบบเทอร์โบคู่ซับซ้อน ต้นทุนการผลิต–ซ่อมบำรุงสูง |
| ตลาดเปลี่ยน | ลูกค้ากลุ่ม “ลากจูง / ออฟโรดหนัก” เริ่มต้องการ V6 Diesel |
| ตำแหน่งผลิตภัณฑ์ | Ford ต้องการลดจำนวนเครื่องยนต์ให้คุ้มต้นทุนการผลิตทั่วโลก |
กล่าวให้ง่าย Bi-Turbo ไม่ใช่ “เสีย” แต่ ไม่เหมาะกับยุทธศาสตร์ใหม่ของ Ford อีกต่อไป
V6 3.0 Turbo-Diesel จากตัวท็อป → สู่เครื่องหลักของไลน์อัป
เครื่องยนต์ V6 3.0 ลิตรเทอร์โบ ให้ตัวเลขแรงที่สุดในเซกเมนต์กระบะและ PPV ออสเตรเลีย
| ข้อมูล | ค่า |
|---|---|
| กำลังสูงสุด | 184 kW 250 PS |
| แรงบิดสูงสุด | 600 Nm |
| เกียร์ | 10AT |
| รองรับลากจูง | 3,500 kg |
จุดสำคัญคือ Ford จะ ไม่จำกัด V6 ไว้เฉพาะรุ่นแพงสุดอีกต่อไป แปลว่า รุ่นระดับ XLT หรือ Sport อาจมีตัวเลือก V6 ในราคาเข้าถึงได้มากขึ้น
2.0 Bi-Turbo “เวอร์ชันใหม่” คำตอบกลุ่มคุ้มค่า
เครื่องยนต์ 2.0 เทอร์โบเดี่ยวของ Ranger จะไม่ใช่สเปกเดิมอีกต่อไป
สิ่งที่ Ford ยืนยันแล้ว
- หัวฉีดเชื้อเพลิงใหม่
- เปลี่ยนระบบไทม์มิ่งเป็นโซ่ (ทนกว่าเดิม)
- ใช้เกียร์ 10AT เหมือนรุ่นใหญ่
สิ่งที่ยังไม่เปิดเผย
— ตัวเลขกำลัง/แรงบิดใหม่
— อัตราสิ้นเปลือง
— รุ่นย่อยที่จะใช้
คาดว่าแรงบิดอาจ “ขยับขึ้นเล็กน้อย” จากเดิม 405 Nm → 420–430 Nm
สถานะปัจจุบันของรุ่นต่าง ๆ (ก่อนปรับ)
Ranger
| รุ่นย่อย | 2.0 Turbo เดี่ยว | 2.0 Bi-Turbo | 3.0 V6 Diesel |
|---|---|---|---|
| XL | ✅ | ✅ | ❌ |
| XLS | ❌ | ✅ | ❌ |
| XLT | ❌ | ✅ | ✅ |
| Sport | ❌ | ✅ | ✅ |
| Wildtrak | ❌ | ✅ | ✅ |
| Platinum | ❌ | ❌ | ✅ |
Everest
| รุ่นย่อย | 2.0 Turbo เดี่ยว | 2.0 Bi-Turbo | 3.0 V6 Diesel |
|---|---|---|---|
| Ambiente | ❌ | ✅ | ❌ |
| Trend | ❌ | ✅ | ❌ |
| Sport | ❌ | ❌ | ✅ |
| Tremor | ❌ | ❌ | ✅ |
| Wildtrak | ❌ | ❌ | ✅ |
| Platinum | ❌ | ❌ | ✅ |
หลังการปรับใหม่: Bi-Turbo จะ “หายไป” จากทั้งสองโมเดล
คำพูดจาก Ford Australia
“เรากำลังปรับไลน์เครื่องยนต์เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงพละกำลัง แรงบิด และความนุ่มนวลที่พวกเขาต้องการได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นงานหนักหรือการเดินทางผจญภัย” — Ambrose Henderson, Director of Marketing, Ford Australia
ทำไม Ford ไม่แตะ PHEV และ Raptor เบนซิน V6?
| ขุมพลัง | สถานะ |
|---|---|
| 2.3 Plug-in Hybrid | ไม่เปลี่ยนแปลง |
| 3.0 V6 Twin Turbo (Raptor) | คงเดิม 397 PS / 583 Nm |
Ford ต้องการวางโครงสร้างแบบ “ดีเซล = งานหนัก / เบนซิน = สปอร์ต / PHEV = อนาคตตลาดยุโรป”

